Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ความคืบหน้า รถพ่วงพลิกคว่ำทับรถฟอร์จูนเนอร์จนพังเสียหายยับเยิน เเละ จนท.กู้ภัย สามารถช่วยเหลือคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ออกมาจากรถได้ ล่าสุดได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว ถึงช่วงนาทีระทึก

จากกรณีพบรถบรรทุกของห้างหุ้นส่วนจำกัด เค.พี.เอส. ทรานสปอร์ต พลิกคว่ำ ส่วนตู้คอนเทนเนอร์น้ำหนักว่า 46 ตัน หล่นลงมาทับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว สภาพถูกกดทับแบนทั้งคัน โดยมีคนขับคือ นายวรวุฒิ อยู่ญาติมาก อายุ 42 ปี เป็นหัวหน้าโฟร์แมน ประจำการบินไทย สุวรรณภูมิ ยังมีสติ ติดอยู่ในรถฟอร์จูนเนอร์ พยายามบีบแตรรถขอความช่วยเหลือ

กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่าง ใช้เสาค้ำยันไฮดรอลิคดันตัวตู้ขึ้น และใช้เครนดึงตัวตู้ขึ้นเล็กน้อย ใช้เวลากว่า 2 ชม. จึงนำตัวคนเจ็บออกส่ง รพ.ลาดกระบัง เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา

ทางด้านคู่กรณี นายณรงค์ วงษ์เพ็ญ อายุ 33 ปี คนขับรถบรรทุก ให้การอ้างว่า “เขาขับรถรับถั่วเหลืองเป็นอาหารสัตว์น้ำหนัก 46 ตัน จากคลังสินค้าไอซีดี ลาดกระบัง เพื่อไปส่งที่กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ใช้ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พอช่วงเลี้ยวซ้ายดันมีรถจักรยานยนต์ขับสวนทางขึ้นมา จึงหักหลบ แล้วรถรับน้ำหนักไม่ไหวพลิกคว่ำ ยืนยันว่าไม่เมา และไม่เสพยาใดๆ แค่ดื่มสุราไปตอนหัวค่ำวันที่ (26 พ.ค. 61) เพียง 1 ขวด เท่านั้น

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบว่า ไม่เป็นไปตามคำกล่าวอ้างของคนขับรถบรรทุก เพราะมี จยย.ขี่ผ่านมาจริง แต่ก็ขี่ทางตรงตามปกติ ไม่ได้ตัดหน้ากระชั้นชิดเลย แต่เป็นเพราะคนขับรถบรรทุกที่ไม่ชินเส้นทางมากกว่า พอรถที่ขับมาเร็วมากแล้วเจอสามแยกก็ตกใจรีบหักเลี้ยวทันที ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์หลุดจากที่ยึด จนร่วงทับรถฟอร์จูนเนอร์

https://www.youtube.com/watch?v=NEZl1SHkpX0

ล่าสุด วันที่ 28 พ.ค.61 นายจงรักษ์ กิจสำราญกุล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า “กำลังตรวจสอบสาเหตุว่า ตู้คอนเทนเนอร์มีอุปกรณ์ล็อกตู้คอนเทนเนอร์ (twist-lock) ยึดติดกับตัวรถหรือไม่ เพราะผู้ประกอบการต้องตรวจเช็กให้ตัวรถต้องล็อกยึดติดกับตู้คอนเทนเนอร์ก่อนเดินทางขนส่งอยู่แล้ว หากผลตรวจสอบออกมาว่า ไม่ล็อกยึดติดกัน มีความผิดตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท พิจารณาพักใช้ใบอนุญาตประกอบการขนส่ง 15-30 วัน

ทั้งนี้หากรถคันดังกล่าวเกิดเหตุซ้ำซาก 2-3 ครั้ง ก็อาจะถึงขั้นพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับรถเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขบ.กำชับให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่ง เข้มงวดตรวจสอบรถบรรทุกขนส่งสินค้าต้องล็อกตู้คอนเทนเนอร์ทุกครั้ง

ในส่วนของคนเจ็บ คือ นายวรวุฒิ อยู่ญาติมาก ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ยังหัวเราะและยิ้มได้อยู่ อย่างไรก็ตามต้องให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยวันนี้ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้พูดคุยกับนางละมุล อยู่ญาติมาก ภรรยา ของนายวรวุฒิ อยู่ญาติมาก อายุ 42 ปี อาชีพโฟร์แมน สายการบินไทย สุวรรณภูมิ เผยว่า ที่ได้รับทราบว่าสามีเกิดอุบัติเหตุเพราะมีพลเมืองดีได้ไปตามถึงบ้าน จึงได้รีบออกมาดู โดยที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากหมู่บ้านของเธอเพียง 200 เมตร เมื่อเห็นสภาพรถครั้งแรกยอมรับว่าตกใจมาก เนื่องจากตนมองไม่เห็นรถของสามีเลย เพราะถูกรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ทับจนเละ จากนั้นจึงได้ตะโกนหานายวรวุฒิ ซึ่งสามีได้บีบแตรรถ เป็นการส่งสัญญาณ ว่ายังปลอดภัยดี

ตอนนั้นรู้สึกเป็นกังวลมากเพราะยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่น้ำหนักของตู้คอนเทนเนอร์ก็ยิ่งกดทับลงมาอีก เธอเผยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ที่สามีเธอรอดชีวิตมาได้ เพราะเกิดจากความมีสติสัมปชัญญะ เพราะเมื่อเห็นว่ารถบรรทุกต้องคว่ำทับรถแน่นอน สามีจึงพยายามล้มตัวลงนอน ให้ต่ำที่สุด

ในขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ นายวรวุฒิ อยู่ญาติมาก ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาราม พัฒนาการ เจ้าตัวได้เปิดเผยอาการว่า ตอนนี้ยังรอการทำทีซีสแกน อย่างละเอียด ส่วนบาดแผลภายนอกมีรอยฟกช้ำที่ปาก เกิดจากการเอนตัวให้ต่ำลงจนไปกระแทกกับที่รองแขน บริเวณแขนขวา-แขนขวา หัวเข่า เล็กน้อย และยังมีอาการเจ็บหน้าอกอยู่บ้าง

นายวรวุฒิเล่าให้ทีมข่าวฟังต่อว่า เขาเองเห็นว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วและผู้ขับขี่น่าจะอยู่ในอาการมึนเมา และหักเลี้ยวกะทันหัน เขาเห็นจึงชะลอรถ และรีบเบียงตัวเองไปด้านซ้ายที่นั่งข้างคนขับเพื่อหลบตู้คอนเทนเนอร์ที่หล่นลงมา กว่า 2 ชั่วโมงที่ติดอยู่ภายในรถ เขามีสติตลอดเวลา มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิและพลเมืองดีที่มาถามอาการของตน ตนยังบอกชื่อภรรยาและบ้านเลขที่ได้อย่างถูกต้อง และได้บีบแตรรถเพื่อบอกให้รู้ว่าตนเองยังปลอดภัย วินาทีที่ติดอยู่ในรถตอนนั้นคิดถึงแต่หน้าครอบครัว พ่อ แม่ ภรรยา และลูกชายอีก 2 คน คิดว่ายังไงตนเองก็รอดตายแน่นอนแล้ว

นายวรวุฒิกล่าวว่า สาเหตุที่ตนรอดมาได้น่าจะเกิดจากความมีสติ เนื่องจากตนเป็นคนที่ระมัดระวังในการขับรถมาก ก่อนจะสตาร์ทรถ ตนจะเดินตรวจรถรอบคันเพื่อตรวจเช็คความปลอดภัยอยู่เสมอ อีกทั้งโครงสร้างรถที่แข็งแรงก็เป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ตนรอดชีวิตมาได้

ทั้งนี้นายวรวุฒิยังได้โชว์รูปภาพตะกรุด ที่พ่อตาเคยให้ไว้เป็นของขวัญตอนแต่งงานไว้ ตนมักใส่ติดตัวเวลาเดินทางออกต่างจังหวัดเสมอ ซึ่งวันที่เกิดเหตุก็ใส่ติดไปด้วย เพราะไปสัมมนาที่ จ.เพชรบุรี มา แต่ไม่ทราบว่าเป็นของวัดไหน เพราะพ่อตาก็ได้มาจากรุ่นพ่อ เป็นสิ่งที่สืบทอดต่อกันมา และยังนับถึง ร.5 อีกด้วย

ส่วนเรื่องกับคู่กรณีตอนนี้ยังไม่สามารถเจรจาตกลงค่าเสียหายกันได้ เนื่องจากเจ้าของบริษัทยังติดภารกิจที่ต่างจังหวัด แต่ทราบว่าคนขับมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนี้สภาพรถรุ่นดังกล่าว จากปกติที่มีความสูงอยู่ที่ประมาณ180-185 ซม. จากสภาพรถเห็นได้ว่า รถถูกทับจนมีความสูงไม่ถึง100 ซม. หลังคาถูกทับมาจนต่ำกว่าคอนโทรลหน้ารถ ทุกส่วนของรถได้รับความเสียหายทั้งคัน เรียกว่าความเสียหาย 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพื้นที่ตรงเบาะคนขับ ยังพอมีช่องว่างเหลือนิดหน่อย

ขณะทีทางฝั่งของ “จิมมี่” นายธนเทพ ธเนศนิรัตศัย กูรูรถยนต์ นักทดสอบรถยนต์ เจ้าของเว็บ headlightmag ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ถามถึงความคิดเห็นทั้งเรื่องโครงสร้างของรถ และสาเหตุที่ทำให้ผู้ขับขี่รถคันนี้รอดตาย ว่าเกิดจากอะไร

โดยนายธนเทพ บอกว่า “เรื่องนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับพระ แต่อยากให้มองเรื่องโครงสร้างของตัวรถร่วม เบาะของรถคันนี้อาจจะเป็นเบาะไฟฟ้าหรือเป็นระบบกลไก ถึงได้เอนลงได้เยอะขนาดนั้น รวมถึงอีกส่วนคือ เสารถ ที่พอตู้คอนเทนเนอร์ลงมาถึงตัวเสาแล้ว เสาก็เป็นอีกตัวค้ำยันหนึ่งที่อาจเป็นสาเหตุให้คนขับรอดชีวิตในครั้งนี้”

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า