เผยโจมตีโบสถ์อินโดฯ พ่อแม่พาลูกบึ้มฆ่าตัวตาย-ไอซิสอ้างอยู่เบื้องหลัง

ความคืบหน้าเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย โบสถ์คริสต์ 3 แห่งในอินโดนีเซีย ทางการยกระดับเตือนภัยสูงสุด ขณะที่สถานทูต ยืนยัน ไม่มีคนไทยได้รับอันตรายจากเหตุการณ์นี้

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินนีเซีย แจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่า ทางการอินโดนีเซีย ได้ประกาศยกระดับคำเตือนภัยสูงสุด (Siaga 1) สำหรับกรุงจาการ์ตา จังหวัดชวาตะวันออก และหมู่เกาะเรียว ภายหลังที่ได้เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ที่โบสถ์คริสต์ 3 แห่ง ในเมืองสุราบายา ทางตะวันออกของเกาะชวา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ ลำดับ 2 ของประเทศ เมื่อเช้าวันที่ 13 พฤษภาคม

ก่อนหน้านี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา รายงาน จากเหตุดังกล่าว ยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และขอให้เตือนให้คนไทยที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ เพิ่มความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว โดยสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลข +62 811 186253

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เหตุระเบิดฆ่าตัวตายโบสต์คริสต์ 3 แห่งในอินโดนีเซียครั้งนี้เป็นฝีมือของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีสมาชิก 6 คน โดยข้อมูลจากตำรวจอินโดนีเซีย ระบุว่า ครอบครัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส ในอินโดนีเซีย โดยเริ่มการโจมตี ด้วยการที่ลูกชายวัย 16 และ 18 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์นำระเบิดเข้าไปที่ โบสถ์ซานตา มาเรีย คาทอลิก ไม่นานนัก พ่อได้ขับรถบรรทุกระเบิด เข้าไปก่อเหตุที่ โบสถ์ ซูบารายา เซ็นเตอร์ เพนเทคอสต์ ส่วนแม่ได้พาลูกสาววัย 12 และ 9 ปี ใส่ชุดติดระเบิดเข้าไปที่ โบสถ์ ดิโปเนโกโร อินโดนีเซียนคริสเตียน

ซึ่งสอดคล้องกับ ที่กลุ่มไอซิส ออกมาอ้างตัวว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีครั้งรุนแรง ซึ่งขณะนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 13 คน และผู้บาดเจ็บจำนวนมาก นับเป็นเหตุโจมตีในอินโดนีเซียที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2548

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กลุ่มก่อการร้ายลอบวางระเบิด โจมตีโบสถ์ในอินโดนีเซียดับ 11 ราย