เหลือแต่ซาก! เพลิงปริศนาไหม้โกดังเก็บสินค้ามือสองบางละมุง เสียหายกว่า 2 ล้าน

ลูกเจ้าของโกดังสินค้ามือสองหอบลูกเมียหนีเพลิงไหม้ เจ้าของโกดังโวยโทรจนเหนื่อยแต่รถดับเพลิงมาเพียงคันเดียว ทำให้ไม่สามารถสกัดเพลิงไว้ได้ไหม้วอดเสียหายทั้งหมดสูญไม่ต่ำ 2 ล้าน

เมื่อเวลา 01.30 น. วันนี้ (21 มิ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บของเก่าริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 ปากทางเข้าหนองตาสน ม.1 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นโกดังเก็บของเก่ามือสอง บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำเข้าระงับเหตุ แต่เพลิงได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้สิ้นค้ามือสองซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากไม้และพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ถูกเปลวไฟไหม้จนเหลือแต่ซาก เพลิงยังได้ลุกลามไปไหม้สิ้นค้าจำพวกเฟอร์นิเจอร์ที่เก็บไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 3 ตู้ เจ้าหน้าที่พยายามฉีดน้ำสกัดแต่ไม่สามารถหยุดยั้งเปลวไฟที่โหมอย่างรุนแรงไว้ได้ ทำให้สินค้าที่อยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ยังลุกลามไปไหม้ร้านอาหารครัวนายหัว ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าโกดัง ทำให้อุปกรณ์ต่างๆของร้านได้รับความเสียหาย เนื่องจากจำนวนรถดับเพลิงขององค์กรบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้วเข้ามาสนับสนุนเพียงคันเดียวเท่านั้น ถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯนำกำลังเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมแต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

จากการสอบถามนายพีรพงษ์กรณ์ พูโต อายุ 23 ปี ผู้ดูแลกิจการแทนแม่ เล่าว่าขณะที่เกิดเหตุตนเองนอนอยู่กับภรรยาและลูกวัย 3 ขวบ ได้ยินเสียงปะทุของไม้ที่ถูกเพลงไหม้ จึงออกมาตรวจสอบก็พบว่าเพลิงกำลังโหมไหม้อย่างหนัก จึงรีบนำลูกน้อยและภรรยาหนีเอาชีวิตรอด ก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ส่วนสาเหตุนั้นได้มีเด็กวัยรุ่นที่ผ่านไปมาเล่าว่า สังเกตเห็นมีคนกำลังจุดไฟอยู่โคนต้นไม้ทางด้านหลัง

ส่วนเจ้าของร้านอาหารนายหัว คือ นายกิติอนันต์ เจริญสุข 61 ปี เล่าว่าก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำ ได้มีไฟปะทุที่ป่าด้านหลังจึงได้ช่วยกันดับแล้ว จนกระทั่งไฟได้ลุกลามไหม้สินค้าภายในโกดัง

เบื้องต้น ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้ ส่วนมูลค่าความเสียหายในคาดว่าประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

นอกจากนี้ ทางเจ้าของโกดังที่นั่งดูเพลิงโหมลุกไหม้สินค้าของตนเองไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้พยายามโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงแล้ว แต่กลับมีมาเพียงคันเดียว และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ทำให้เพลิงลุกลามจนสินค้าได้รับความเสียหายทั้งหมด ก่อนที่ปฏิเสธคำถามบอกไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกอย่างไรแล้วเดินหลั่งน้ำตาหลบไปในความมืด