เมื่อตลาดงานในเวียดนามไม่ต้องการคนจบปริญญา !

AFP PHOTO / HOANG DINH NAM

ประเด็นคือ – บัณฑิตหนุ่มสาวในเวียดนามไม่มีโอกาสได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนเพราะสิ่งที่พวกเขาเรียนไม่ใช่สิ่งที่ตลาดต้องการ

 Nguyen Van Duc เรียนจบปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์จากหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในประเทศเมื่อ 2 ปีก่อน แต่จนถึงทุกวันนี้ เขายังคงต้องขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง มีรายได้เพียงเดือนละประมาณ 8,000 บาท Duc เป็นคนเดียวในบรรดาพี่น้องสามคนที่ได้เรียนต่อ พ่อแม่ของเขายอมทำงานหนักเพื่อส่งเสียให้เขาได้เรียนจนจบมหาวิทยาลัย แต่เมื่อจบออกมาแล้ว Duc ซึ่งตอนนี้อายุ 25 ปี กลับไม่ได้เป็นดังที่ครอบครัวคาดหวัง เขาเป็นเหมือนบัณฑิตอีกหลายพันคนที่ไม่สามารถหางานตามสาขาที่ได้เล่าเรียนมา “ในมหาวิทยาลัย สิ่งที่เราเรียนเน้นหนักเรื่องทฤษฎีแล้วก็อุดมการณ์ของโฮจิมินห์กับประวัติของพรรคคอมมิวนิสต์”

โรงเรียนในเวียดนามมุ่งฝึกนักเรียนให้มีทักษะเบื้องต้นสำหรับงานประกอบชิ้นส่วนตามโรงงานซึ่งได้ค่าจ้างต่ำ ส่วนมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้เตรียมคนสำหรับงานที่เหล่าบัณฑิตคาดหวังอยากจะทำ Scott Rozelle นักเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าวว่า “หลายประเทศที่ยกระดับเศรษฐกิจได้สำเร็จเช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน ต่างได้เตรียมพร้อมด้านการศึกษาไว้ก่อนแล้วตั้งแต่ตอนที่เศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ในขั้นรายได้ระดับกลาง แต่ก็ยังมีหลายประเทศที่การลงทุนด้านการศึกษายังไม่เพียงพอ เน้นผลิตคนเพื่อรองรับงานระดับกลางเท่านั้น เช่น อาร์เจนตินา บราซิล และเม็กซิโก”

AFP PHOTO / HOANG DINH NAM

ที่เวียดนาม 2 ปีแรกในรั้วมหาวิทยาลัย วิชาที่เรียนส่วนใหญ่เน้นหนักเรื่องประวัติของโฮจิมินห์ ผู้นำการปฏิวัติ ระบอบสังคมนิยม รวมถึงพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ความรู้เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่นายจ้างต้องการหรือคาดหวัง ผลคือหลายบริษัทลังเลที่จะจ่ายเงินเดือนเพิ่มให้กับคนมีปริญญาที่มักไม่มีทักษะ ส่งผลให้อัตราว่างงานของบัณฑิตหนุ่มสาวสูงถึง 17% ทั้ง ๆ ที่เวลานี้อัตราว่างงานเฉลี่ยทั้งประเทศต่ำมากแค่ 2.3% เท่านั้น

ไม่น่าแปลกใจที่หลายครอบครัวซึ่งพอจะมีฐานะ ส่งลูกหลานไปเรียนต่อยังต่างประเทศ เพื่อโอกาสที่จะได้งานที่ดีกว่า แค่จำนวนชาวเวียดนามที่ไปเรียนต่อด้านต่างๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นถึง 12 เท่าภายใน 6 ปีที่ผ่านมา

รัฐบาลเวียดนามยอมรับปัญหาของระบบการศึกษาในปัจจุบัน Nguyen Minh Thuyet ซึ่งดูแลด้านยุทธศาสตร์หลักสูตรประจำกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า “เราจำเป็นต้องยกเครื่องหลักสูตรการศึกษาโดยลดวิชาที่ปฏิบัติจริงไม่ได้ลง ถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้จะยังช้ามาก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้คิดไม่ได้ทำอะไรเลย”

ที่มา Bloomberg