Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ- แพะชิงเพชร 15 ล้านบาท เปิดใจชีวิตสุดแสนรันทด หลังพ้นคุกเหมือนตายทั้งเป็น แบกภาระหนี้สินเพิ่ม ค้าขายซบเซา รถถูกยึด ยังรอศาลอุทธรณ์พิพากษาเยียวยาช่วยเหลือ ชีวิตสู้มา 30 ปี พ้นคุกชีวิตเหลือศูนย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค. 60) ความคืบหน้าสำหรับคดีแพะชิงเพชร ถึงแม้จะมีการปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์ที่เคยตกเป็นจำเลยในคดีชิงเพชรออกมาจากเรือนจำ คือ นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ อายุ 48 ปี พ่อค้าขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง ในชุมชนวัดกกต้อง ซ.สุขาวดี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม ที่เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีก่อเหตุชิงเพชรมูลค่ามากกว่า 15 ล้านบาท

หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางเสาธง กทม. นำหมายศาลเข้าจับกุมที่บ้านเช่าเลขที่ 1 ในชุมชนวัดกกต้อง ซ.สุขาวดี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 60  ในข้อหาวิ่งราวเพชรมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท  เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 28 ธ.ค. 59 และมีการควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดี ทั้งที่เจ้าตัวให้การปฏิเสธยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด

จากนั้น น.ส.ดารีวรรณ พ่อวงค์ อายุ 47 ปี ภรรยาและครอบครัว ได้ดิ้นรนต่อสู้เข้าร้องทุกข์ไปยังหลายหน่วยงาน รวมถึงกระทรวงยุติธรรม และดีเอสไอ เพื่อหาความยุติธรรมให้ครอบครัว และนำพยานหลักฐานไปยืนยันพิสูจน์ความจริง โดยทางผู้เสียหายต้องตกเป็นเหยื่อในคดีแพะ ถูกขังที่เรือนจำ พิเศษธนบุรี นานกว่า 7 เดือน จนกระทั่งศาลอาญาธนบุรีพิพากษายกฟ้องปล่อยตัวสู่อิสรภาพ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 60

หลังกระทรวงยุติธรรมได้ให้การช่วยเหลือในเรื่องของการหาพยานหลักฐาน มาหักล้างกับศาล จนได้มาซึ่งอิสรภาพ ทางกระทรวงยุติธรรมได้มีการสืบสวนหาพายานหลักฐานเพิ่มเติม จนพบหลักฐานสำคัญที่มาของการออกหมายจับ เกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือ เชื่อมโยงกับขบวนการโจรกรรมเพชรที่มีการติดต่อกับผู้เสียหาย

แต่ข้อเท็จจริงมีการตรวจสอบพบว่า หลักฐานสำเนาบัตรประชาชนที่นำไปจดทะเบียนใช้ซิมโทรศัพท์  ไม่ได้เอาบัตรประชาชนตัวจริงไปยืนยันตามระเบียบของ กสทช. แต่เป็นสำเนาบัตรประชาชนเก่าที่หมดอายุ และยังเป็นชื่อเดิมของนายพิสิษฐ์ คือ นายรังสิทธิ์ ทั้งที่มีการเปลี่ยนชื่อมาตั้งแต่ปี 2557 เป็นที่มาของเอกสารหลักฐานที่ขบวนการฉกเพชรทำขึ้น

รวมถึงหลักฐานสำคัญของ รพ.นครพนม ที่ระบุว่า วันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 59 ผู้เสียหายยังอยู่ในพื้นที่ จ.นครพนม และมีการไปรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาล ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุที่ กทม. รวมถึงพยานปากสำคัญอีก 17 ปาก ที่ยืนยันให้การช่วยเหลือ

ล่าสุดถึงแม้นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ อายุ 48 ปี พ่อค้าขายข้าวเหนียวหมูปิ้งจะได้รับอิสระ กลับมาอยู่กับครอบครัว โดยมีทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน  รวมไปถึงกลุ่มเพื่อนในเฟซบุ๊กแฟนเพจ Pitbullzone ที่ได้เดินทางมาช่วยเหลือ ให้กำลังใจในการเปิดกิจการร้านส้มตำไก่ย่าง ในชื่อ “แพะชิงเพชรปิ้งย่างสร้างชีวิต” ภายในบ้านเช่า ส่วนภรรยาทำอาชีพเสริมสวย แต่สิ่งสำคัญ ทางเจ้าตัวเปิดใจว่า ถึงแม้จะได้รับอิสระ แต่มันคือความเลวร้ายที่สุดในชีวิต ที่ต่อสู้สร้างชีวิตมากับภรรยากว่า 30 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 14 ปี ไม่เคยคิดทำผิดกฎหมายหรือเอาเปรียบใคร แต่ต้องมาถูกกระทำด้วย ความบกพร่องของเจ้าหน้าที่บางคน

ถึงแม้จะออกจากเรือนจำ ผลกระทบที่ตามมาคือ ภาระหนี้สิน รถถูกยึด รายได้ลดลง ต้องเริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง เพราะการเยียวยาต้องรอระยะเวลาให้กระบวนการยุติธรรมสิ้นสุด เนื่องจากยังต้องรอศาลอุทธรณ์ตัดสินพิพากษา

นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญเมื่อคดียังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอผลการพิจารณาตัดสินของศาลอุทธรณ์ หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่อนาคตวันข้างหน้าไม่มีใครรู้ได้  ถามหาความเมตตา ยังไม่มีหน่วยงานรัฐมาดูแลช่วยเหลือจริงจัง ทุกวันนี้ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น ต่อสู้ด้วยกันมาเกือบ 30 ปี วันนี้ไม่มีอะไรเหลือ ทุกวันตื่นมาต้องอยู่ต้องกิน หากใครไม่เป็นครอบครัวเรา คงไม่รู้ถึงความเจ็บปวด ความเลวร้ายในชีวิต มันหลอกหลอนไปจนวันตาย  หากไม่คิดถึงพ่อแม่ ภรรยา ลูก  ผมก็เคยคิดว่าเขาน่าจะฆ่าผมให้ตายตั้งแต่วันแรกที่มาจับผมไป จะได้ไม่ต้องมาเจอสิ่งเลวร้ายขนาดนี้ แล้วถามกลับว่า จับผมไปทั้งที่ผมไม่ผิด แล้วซ้อมผมทำไม ผมผิดอะไร ชีวิตครอบครัวพวกผม มันพังหมดแล้ว มีใครคืนชีวิตที่มีความสุขแบบเดิมให้ได้ นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ แพะในคดีชิงเพชร กล่าวทั้งน้ำตา

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า