โชว์ให้ดูชนะ “เลสเตอร์” ต้องทำอย่างไร… “แรชฟอร์ด” ซัดประตูชัยพา “แมนยู” ชนะ 1-0

ปีศาจแดงบุกไปเอาชนะจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ไต่อันดับไปอยู่ที่ 5 ได้สำเร็จ โดยได้ประตูโทนจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประตูนำไปก่อนจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ในจังหวะที่กองหลังเลสเตอร์ ซิตี้ พลาดไปจ่ายบอลเสียให้ พอล ป็อกบา ก่อนที่กองกลางแชมป์โลกจะยกบอลอย่างสวยงามให้แรชฟอร์ด ที่ลงสนามนัดนี้เป็นนัดที่ 100 ซัดตุงตาข่ายให้ปีศาจแดงออกนำไปก่อน 1-0 แก้ตัวหลังจากที่พลาดโอกาสทำประตูในนาทีที่ 4

หลังจากโดนยิงนำ เลสเตอร์ อาศัยจังหวะสวนกลับ และมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง โดยเฉพาะจากลูกกลางอากาศที่เป็นอาวุธอันตรายของทีมในวันนี้โดยมีโอกาสถึง 8 ครั้ง แต่ยังไม่ผ่านการสกัดของกองหลัง และผู้รักษาประตู เดวิด เด เคอาไปได้ ทำให้จบครึ่งแรกปีศาจแดงยังนำอยู่ที่ 1-0

ครึ่งหลังเริ่มมาเป็นเลสเตอร์ที่ยังเปิดเกมส์บุกเข้าใส่ และมีโอกาสทำประตูได้จาก ฮาร์วี่ย์ บาร์นส และ เจมส์ แมดดิสัน แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ เด เคอา

นาทีที่ 60 เลสเตอร์มามีโอกาสครั้งสำคัญ หลังจาก เนมันญ่า มาติช ไปทำฟาวล์ เจมี่ วาร์ดี้ ก่อนที่ เจมส์ แมดดิสัน จะซัดบอลไปติดกำแพงและวาร์ดี้จักรยานอากาศอย่างสวยงาม แต่ก็ยังเป็น เด เคอา ที่ยังเซฟเอาไว้ได้

นาทีที่ 67 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แก้เกมส์ด้วยการส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงมาแทน อเล็กซิส ซานเชส ที่ยังโชว์ผลงานได้ไม่ร้อนแรง แต่ก็ยังเป็นเลสเตอร์ที่เปิดเกมบุกได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำเกมส์ในกราบซ้ายของสนาม

นาทีที่ 74 เลสเตอร์ ส่งกองหน้าชาวญี่ปุ่น ชินจิ โอกาซากิ ลงมาแทน ดามาราย เกรย์ ก่อนที่จะมามีโอกาสทำประตูจากจังหวะทำฟาวล์ของ ลุค ชอว์ หน้ากรอบเขตโทษ ราชิด เกซซาล ซัดเกือบโค้งเข้ามุมขวาบนแต่ เด เคอา ก็เหินหาวปัดออกไปอย่างสวยงามอีกจังหวะ

นาทีที่ 77 ปีศาจแดงต้องแก้เกมส์อีกครั้ง ด้วยการส่ง โรเมลู ลูกากู ลงมาแทนมาร์คัส แรชฟอร์ด คนทำประตู หวังเก็บบอลในแดนหน้าให้ดีขึ้น ก่อนที่อีก 4 นาทีหลังจากนั้น จอนนี่ อีแวนส์ อดีตเซ็นเตอร์แบ็กของปีศาจแดง จะมีโอกาสซัดเต็มๆ หน้าประตู แต่พลาดไป ทำให้สกอร์ยังอยู่ที่ 0-1 ใน 10 นาทีสุดท้าย

นาทีที่ 84 เลสเตอร์ส่ง เคเลชี อิเฮอานาโช มาเป็นไพ่ไม้ตายสุดท้าย พร้อมเปิดเกมรุกอย่างเต็มตัว แต่เป็นลูกากูที่มีโอกาสลุ้นประตูแต่ถูก แคสเปอร์ ชไมเคิล เซฟเอาไว้ได้ ในนาทีต่อมา บาร์นส์ ได้จังหวะสวนกลับจ่ายบอลมาให้กับ วาร์ดี้ มีโอกาสทำประตูตรงบริเวณกรอบเขตโทษแต่ดันยิงไปตรงตัว เด เคอา

ช่วง 3 นาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาบาดเจ็บ โซลชาตัดสินใจส่ง ฟิล โจนส์ ลงอุดเกมรับ และปีศาจแดงเกือบได้ประตูฝังจิ้งจอกจากจังหวะสวนกลับของ แอชลี่ย์ ยัง เปิดบอลให้ มาร์กซิยาล ยิงไปติดมือของ ชไมเคิล 

นาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แฮรี่ แมคไกวร์ ที่โชว์ฟอร์มเหนียวมาตลอดเกมส์ ได้โอกาสซัดหน้าประตู แต่ยิงออกไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบเกมส์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ไปได้ 1-0 ไต่อันดับขึ้นไปอยู่ที่ 5 เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ก่อนที่อาร์เซนัลจะลงสนามในช่วงเที่ยงคืน

จากผลงานในนัดนี้ทำให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำสถิติเป็นผู้จัดการทีมที่ทำคะแนนในการคุมทีม 8 นัดแรกมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เอาชนะได้ถึง 7 นัด เสมอ 1 นัด โดยที่สองสุดยอดผู้จัดการทีมที่ทำผลงานได้สูสีคือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาล 2016-17 และ คาร์โล อันเชล็อตติ ของเชลซี ในฤดูกาล 2009-10 ที่แพ้หนึ่งนัดทั้งสองทีม