แม่หนุ่มใหญ่ที่ปลูกต้นกล้วยประชดกลางถนน เผยลูกเครียดจัดผสมป่วยจนเสียชีวิต ตอนนี้ครอบครัวลำบากมาก

ประเด็นคือ – ทางการทำถนนใน ซ.สยามคันทรีพัทยา ไม่เสร็จสักที ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ทำมาหากินลำบาก หนุ่มใหญ่ปลูกต้นกล้วยประชดกลางถนน เครียดจัดผสมป่วยโรคหัวใจก่อนสิ้นใจ แม่เผยขาดเสาหลักครอบครัวลำบากมาก วอนทางการเร่งทำถนนให้เสร็จ

จากกรณีที่เพจชื่อดัง “แหม่มโพธิ์ดำ” ลงข้อความเกี่ยวกับความคืบหน้าการก่อสร้างถนน ภายในซอยสยามคันทรี ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่ามีความล้มเหลวในการปรับปรุงถนน พร้อมระบุว่า “ลุงซึ่งเป็นคนที่ปลูกต้นกล้วยประชดการก่อสร้างถนนภายในซอยดังกล่าว ปัจจุบันเกิดความเครียดตายแล้ว ด้วยลุงเป็นเจ้าของร้านอลูมิเนียม พอถนนมาตัดผ่านมันคือทั้งบ้านและร้านจนเกิดความเครียด โดยเพิ่งได้คุยกับพี่เจ้าของร้านอาหารที่คุณแหม่มลง แกเล่าให้ฟังว่าผู้ใหญ่ลงมาดูแล้วสัญญาว่าจะเร่งให้เสร็จค่ะ แต่พวกเราในชุมชนทราบดีว่า สัญญาทำอะไรไม่ได้ เพราะมีความซับซ้อน และผู้รับเหมาอ้างว่าสัญญาแค่วางท่อ ไม่ได้รวมถึงถนน อีกทั้งยังมีปัญหาทำให้ไฟฟ้าดับทั้งซอย” โดยพบว่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากนั้น

ล่าสุดวันนี้ (25 ก.ย. 60) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านเลขที่ 223/6 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านทำอลูมิเนียมไม่มีชื่อ หลังทราบว่าร้านดังกล่าวเป็นบ้านและที่พักของผู้เสียชีวิตที่ถูกระบุลงในเพจดังกล่าว โดยพบ นางวาสนา จิรสกุลโชติ อายุ 58 ปี ซึ่งพักอยู่ในบ้านพร้อมครอบครัวรวม 6 ชีวิต โดย นางวาสนา แจ้งว่าเป็นมารดาของ นายคมกริช จิรสกุลโชติ อายุ 34 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคนที่เคยปลูกต้นกล้วยกลางถนนภายในซอยดังกล่าว เพื่อประชดการทำงานของท้องถิ่นในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

พร้อมระบุว่าสาเหตุที่บุตรชายเสียชีวิตนั้น เพราะผู้ตายเครียดและป่วยเป็นโรคหัวใจ โดยผู้ตายถือเป็นเสาหลักของครอบครัวที่หาเงินเลี้ยงดู แต่ภายหลังจากมีการทำถนนแล้วพบว่ามีความล่าช้า ส่งผลให้การเดินทางสัญจรยากลำบาก เหตุนี้ทำให้ลูกค้าหดหายไปเป็นจำนวนมาก ธุรกิจก็ได้รับผลกระทบเหมือนถูกปิดตาย จะมีเพียงญาติๆ ที่ประกอบกิจการเช่นเดียวกันส่งงานมาให้ทำบ้าง เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงดูคนในครอบครัว ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 6 ชีวิตที่ต้องเลี้ยงดู กระทั่งผู้ตายเกิดความเครียดสะสมจากธุรกิจที่มีปัญหา หลังจากที่ผู้ตายนำต้นกล้วยไปปลูกกลางถนนในช่วงกลางคืนก็นอนเสียชีวิตไปตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยการเสียชีวิตของผู้ตายทำให้ครอบครัวเดือดร้อนมาก แต่ก็ไม่อยากโทษใคร

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ภรรยาผู้ตายพร้อมลูกอีก 2 คน และคนในบ้านก็ต้องทนรับสภาพปัญหาไปก่อน โดยมีญาติคอยช่วยเหลือส่งงานให้บ้าง แต่จากภาระค่าเช่าที่ดิน ค่าผ่อนรถ และค่ากินอยู่ก็อาจสร้างปัญหาอยู่บ้าง จึงอยากร้องขอให้ท้องถิ่นเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สถานการณ์จะได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ…

ขอบคุณภาพจาก แหม่มโพธิ์ดำ