Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็น – แม่เดินทางมาพร้อมทนายความ เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.บางพลี เอาผิดผู้โพสต์ตาม พ.ร.บ.คอมและฐานหมิ่นประมาท กรณีถูกกล่าวหาปัดความรับผิดชอบ หลังลูกชายวัย 4 ขวบ ใช้สีทาบ้านทารถกรณี จนถูกสังคมประณามยับ

เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 19 กันยายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่ของเด็กชายวัย 4 ขวบ พร้อมกับทนายความจากสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ นำเอกสารหลักฐานต่างๆเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี เพื่อเเจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nut Khaijeaw ในฐานความผิด หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่คอมพิวเตอร์ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ได้ออกมาโพสต์ทำนองต่อว่า ลูกชายของตนใช้สีทาบ้านทาบนรถเก๋งของเจ้าของเฟซบุ๊ก แต่พ่อแม่ไม่มีความรับผิดชอบ

โดยตัวแทนทนาย ออกมาระบุว่า ผู้เสียหายรายนี้ซึ่งตกเป็นจำเลยสังคมและถูกโจมตีอย่างหนักจากข้อมูลที่บิดเบือนได้เข้ามาขอความเป็นธรรมกับสำนักงานกฎหมายตนเอง หลังจากได้พูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว จึงทราบว่ามีการลงโพสต์บิดเบือนความจริง ทำให้เกิดความเสียหายต่อครอบครัวและเด็ก รวมถึงสภาพจิตใจที่ย่ำแย่จาการถูกสังคมประณาม และจากการตรวจสอบข้อความในโพสต์รวมถึงการเผยแพร่น่าตาของเด็กวัย 4 ขวบ ซึ่งถือว่าเข้าข่ายความผิดชัดเจน จึงรวบรวมเอกสารต่างๆ เข้าเเจ้งความร้องทุกข์ในคดีอาญาในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน แม่ของเด็กชายวัย  4 ขวบ ระบุว่า ในวันเกิดเหตุตนเองกำลังเก็บร้านอยู่นั้นมีคนมาแจ้งว่าลูกชายได้ใช้สีทาที่รถของคู่กรณี ตนเองหลังทราบเรื่องก็รีบไปดูสภาพรถและพบว่ามีสีติดที่รถจริง จึงสอบถามข้อเท็จจริงกับทางเจ้าของรถกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเจ้าของรถระบุมีเด็กสองคนซึ่งหนึ่งในสองคือลูกชายของตนได้นำสีมาทาที่รถตนเอง เมื่อทราบว่ามีลูกชายทำด้วยและเห็นว่ามีสีติดที่ตัวลูกชายจริง ตนเองก็ได้ให้เจ้าของรถหาร้านคาร์แคร์หรืออู่ทำสีเพื่อจะได้รีบขัดสีและยินดีชดใช้ค่าเสียหาย แต่คู่กรณีไม่ยินยอมและเรียกเงินค่าเสียหายจำนวน 35,000 บาท ซึ่งตนเองไม่มีเงินมากถึงขนาดนั้น จึงบอกให้เรียกประกันมาเคลมและจะจ่ายจริงตามที่ประกันระบุ ทำให้ฝ่ายคู่กรณีไม่พอใจและเรียกประกันมาและประกันจะให้ตนเองเซ็นรับผิดฝ่ายเดียวทั้งที่มีเด็กสองคนซึ่งก็ยังไม่มีใครเห็นหรือมีหลักฐานระบุชัดว่าลูกชายตนเองทำเพียงคนเดียวจึงพากันมาตกลงที่ สภ.บางพลี และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งให้ประกันดำเนินการขัดสีและเรียกเก็บตนเองภายหลังตามความจริง จากนั้นจึงแยกย้ายกับบ้านพัก

จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นมีเพื่อนแคปหน้าจอพร้อมทั้งภาพใบหน้าลูกชายและยังมีการโพสต์ข้อความบินเบือนจนตนเองเสียหายถูกสังคมโจมตี จนเกิดความเครียดทั้งครอบครัวและยิ่งสดเทือนใจมากกว่านั้นเมื่อลูกชายเอ่ยคำว่า “ไม่อยากโดนตำรวจจับ” ทำให้ยิ่งสะเทือนใจ ตนเองขอยืนยันว่าไม่ใช่ไม่รับผิดชอบ ยินดีรับผิดชอบในส่วนค่าเสียหาย แต่การที่มีการโพสต์ใส่ความและนำรูปภาพลูกชายไปลงนั้นจะทำให้เด็กกลายเป็นคนมีปมด้อยและยังเสียหายต่อครอบครัวอย่างมาก จึงเดินทางมาเเจ้งความเอาผิดในครั้ง และอยากให้สังคมรับฟังความทั่งสองฝ่ายก่อนจะตัดสินอะไรลงไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า