Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์

‘กฤษฏา’ สั่งตั้งกรรมการสอบ ‘สุรจิตต์’ เลขาธิการ สปก. หลังไม่เร่งรัดเอาที่ดินจากภาคเอกชน รวมพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ เผยได้รับข้อมูลสับสนมาโดยตลอด

วันที่ 16 มิ.น. 2561 นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวานนี้ว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งกรรมการสอบนายสุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(สปก.) กรณีไม่เร่งรัดดำเนินการเรียกคืนที่ดินจากบริษัท สหไทยน้ำมันพืช จำกัด พื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ทั้งที่กฤษฏีกาตีความไว้ตั้งแต่ มี.ค. 2560 แต่ไม่การดำเนินการประกอบกับคำสั่งคสช.ที่ 36/2559 ตามมาตรา 44 ก็ให้อำนาจเลขาธิการ สปก.ดำเนินการตั้งแต่ต้น

นายกฤษฏา กล่าวว่า สมัยที่มารับตำแหน่งได้รับข้อมูลที่สับสน จนกระทั่งต้องสั่งให้ สปก.ชุมพร ชะลอการเข้าพื้นที่ และเมื่อลงไปตามเรื่องเองจึงพบว่า มีการถามตอบระหว่างสองกระทรวงมาต่อเนื่องจนสุดท้ายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ตอบว่ารับทราบจากฤษฏีกาแล้วที่ดินดังกล่าวไม่มีภาระผูกพันกับกรมป่าไม้อีกต่อไป แต่เมื่อสอบถามความคืบหน้ากลับได้รับคำตอบว่า กฤษฎีกายังไม่ตอบกลับมา ทั้งที่เป็นหน้าที่ของสปก.ตามคำสั่งคสช. ที่ 36/2559 เป็นการแสดงให้เห็นว่า ไม่สนใจติดตาม ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญของนโยบายรัฐบาล เมื่อตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงก็จะได้รู้ว่าเหตุจากความล่าช้าคืออะไร เพราะขณะนี้ประชากว่าเกือบพันคน รอที่ดินดังกล่าว และโชคดีที่ประชาชนไม่บุกรุกเข้าไป เพราะอาจเกิดเหตุปะทะกับผู้ครอบครองที่ดินได้

นายสุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(สปก.)

 

ประเด็นสำคัญที่ต้องสอบนายสุรจิตต์ คือ เมื่อกฤษฏีกาตอบมาเช่นนั้น ทำไม่ สปก.ไม่เข้าดำเนินการ และเมื่อได้สอบถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวได้รับคำตอบจาก เลขาธิการ สปก.ไม่ชัดเจน ฝ่ายนโยบายที่เพิ่งเข้ามาก็ต้องรัดกุม จนต้องมีหนังสือด่วนที่สุด ที่กษ. 1204/2728 ลงวันที่ 18 พ.ค. 2561 เรียน รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เพื่อขอทราบผลการพิจารณาของกรมป่าไม้ กรณีที่แปลงที่ 83 แปลงในการครอบครองของบริษัทสหไทยน้ำมันพืช จำกัด 6,083 ไร่ เพื่อขอให้ยืนยันอำนาจอีกครั้งเพื่อจะได้เข้าดำเนินการและจะได้ไม่มีปัญหาขัดแย้งระหว่างสองหน่วยงาน

เมื่อกรมป่าไม้ยังไม่ตอบ ทำให้ฝ่ายนโยบายต้องมีคำสั่งให้ สปก.จังหวัดชุมพร ชะลอการเข้าไปยึดคืนพื้นที่ทั้งที่ได้เตรียมแผนร่วมกับฝ่ายความมั่นคงแล้ว ตามแผนวันที่ 12 มิ.ย. 2561 และเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. วันเดียวกันทราบว่า รักษาการอธิบดีดีกรมป่าไม้ ได้มีหนังสือด่วนที่สุดว่าได้แจ้งรมว.ทส. ว่าได้มีหนังสือถึงสำนักทรัพยากรป่าไม้เขต 11 และสปก.จังหวัดแล้วว่า ที่ดินไม่อยู่ในอำนาจของกรมป่าไม้ มาตั้งแต่ 15พ.ย.2560 และ 9 ก.พ. 61 ว่าเป็นอำนาจของสปก.

ดังนั้น คำถามคือ ชัดเจนว่าเป็นที่ดิน สปก. ทำไมเลขาธิการสปก.ไม่มีการสั่งการเข้าดำเนินการ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่มีแผนจะเข้าดำเนินการ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา แทนที่จะรายงานให้ผมเข้าใจว่าเหตุการณ์ถึงไหนแล้วเพื่อดำเนินการ ยังตอบไม่ได้ จนต้องมีหนังสือถามกันไปมา และสุดท้ายกลายเป็นว่า สปก. ไม่เข้าไปดำเนินการเอง ก็ต้องสอบออกมาว่าเพราะอะไรถึงไม่ดำเนินการ ซึ่งเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ผมได้สั่งการให้สปก.จังหวัดชุมพรเดินหน้าตามแผนและขอหมายจากศาลเข้าไปในพื้นที่

สาเหตุความล่าช้าอยู่ที่กระทรวงเกษตรฯ โดยพบว่ากรมป่าไม้ แจ้งว่า ได้มีหนังสือถึงสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดชุมพร ทราบเมื่อ 31 มี.ค. 60 แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงผลการรือเรื่องอำนาจในการบริหารที่ดินแปลงที่ 83 ของบริษัทสหไทยน้ำมันพืช จำกัด จำนวน 6,000 ไร่ และวันที่ 15 พ.ย. 60 และในวันที่ 9 ก.พ. 2561 กรมป่าไม้ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ ทส. 1602.3/2535-36 แจ้งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่11 สุราษฏร์ ถึงผลการพิจารณาของกฤษฎีกา ว่าพื้นที่ป่าดังกล่าวไม่ได้เป็นพื้นที่ป่าที่ไม่มีภาระผูกพันกับกรมป่าไม้อีกต่อไป ให้สำนักดังกล่าวประสานกับสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินการในพื้นที่ต่อไป

นอกจากนั้นเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รักษาการแทนอธิบดีกรมป่าไม้ได้มีหนังสือตอบปลัดกระทรวง ทส. ยังอ้างถึง หนังสือของสำนักการอนุญาตกรมป่าไม้ เรียนอธิบดีกรมป่าไม้ลงวันที่ 11 มิ.ย. ว่าได้คืนคำขออนุญาตของบริษัทสหไทยน้ำมันพืช จำกัด ที่ได้ยื่นกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 คืนไปแล้ว และเพื่อไม่ให้เอกชนนำมาอ้าง ยังให้สำนัก 11ส่งหนังสือในบริษัทเอกชนด้วย

 

ขอบจาก FB สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชุมพร

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า