Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งผ่อนคลายมาตรการ ระยะที่ 2 มีผล 17 พ.ค.นี้ ให้ลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23.00-04.00 น. และให้เปิดห้างสรรพสินค้าเปิดได้ตั้งแต่ 10.00-20.00 น.

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ( ฉบับที่ 7) ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.2563 เป็นต้นไป สาระสำคัญคือ

1. การห้ามออกนอกเคหสถาน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 23.00-04.00 น. และการให้ข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถานตามข้อกำหนด(ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 10 เม.ย.2563 ยังคงใช้ต่อไป

2. การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถานศึกษา ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจพิจารณาผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน เฉพาะที่ดำเนินการในลักษณะของการให้ความช่วยเหลือ การสงเคราะห์ อุปถัมภ์ เด็กกำพร้า เด็กยากไร้ เด็กด้อยโอกาส และอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงได้หากปล่อยให้เด็กอาศัยอยู่ในสถานที่พักอาศัยของตน หรือที่อื่น หรือเป็นการใช้อาคารสถานที่ดังกล่าว เพื่อการทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์สาธารณะตามที่ผู้ว่าฯ หรือผุ้ว่าราชการจังหวัดอนุญาต แต่ยังงดเว้นการใช้เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ หรือฝึกอบรม

3. การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ เพื่อเป็นกำรอำนวยความสะดวกของประชาชนและขับเคลื่อนกิจกรรมบางอย่างภายใต้การดำเนินการตามมาตราการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดรวมทั้งการจัดระเบียบและระบบต่างๆ ให้สถานที่หรือการดำเนินกิจกรรมที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดเคยมีคำสั่งปิดสถำนที่ไว้เป็นการชั่วคราวตามกระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และตำมข้อกำหนด (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างเพิ่มเติมได้ทั่วราชอาณาจักร ตามความสมัครใจและความพร้อม (รายละเอียดตามกราฟิก ไฟเขียวผ่อนปรนระยะที่ 2)

4. การดำเนินการตามมาตรการป้องกันและการจัดระเบียบ ให้เจ้าของหรือผุ้จัดการสถานที่ตามข้อ 3 (1) และ(2) มีหน้าที่รัรบผิดชอบในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งดำเนินการจัดระเบียบและระบบต่างๆตามคำแนะนำ เงื่อนไข ฯลฯ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบ หากละเมิดสามารถสั่งปิดสถานที่นั้นเป็นการชั่วคราวเฉพาะราย ในกรณีผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราว หากเจ้าของดำเนินการตามมาตรฐาน ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี สั่งเปิดำเนินการสถานที่ดังกล่าวได้

5. เพื่อให้มาตรการป้องกันโรคเป็นไปในแนวทางเดียวกันให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มีคำสั่งปิดสนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามการแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกันเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่าเป็นสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค รวมทั้งดำเนินการอื่นใดให้สอดคล้องกับข้อกำหนดนี้

รายละเอียด http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/114/T_0039.PDF

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า