จับแล้ว! ปู่หื่นขืนใจหลานสาววัย 13 ขู่ฟ้องกลับพ่อแม่รวมตำรวจ

ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา ปู่หื่นขืนใจหลานสาววัย 13 ด้านพ่อ-แม่ สุดเสียใจไม่คิดว่าจะกล้าทำหลาน ขณะที่ผู้ต้องหาขู่ฟ้องกลับพ่อแม่และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

วันที่ 21 ต.ค.2562 จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา พ่อแม่ของ ด.ญ.อายุ 13 ปี ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ว่าลูกสาวถูกปู่ข่มขืนกระทำชำเรามานานกว่า 5 ปี ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แถมยังขู่จะฆ่าทั้งครอบครัว ทำให้เด็กมีความเครียดเพราะมีบ้านอยู่ในรั้วเดียวกัน ตอนนี้ลูกสาวอยู่ในอาการหวาดกลัว แค่ได้ยินชื่อยังผวา

ล่าสุดตำรวจ สภ.เมืองนครพนม เข้าจับกุมชาย อายุ 57 ปี โดยจับกุมได้ที่ร้านลาบเป็ดแห่งหนึ่ง ถนนสายนครพนม-ธาตุพนม ขณะนำช่างตกแต่งบ้านพัก โดยแจ้ง 3 ข้อหา
1. พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง
2. พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่ออนาจาร
3. กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตน

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากแม่ของเด็กสังเกตเห็นความผิดปกติของลูกสาว จากเด็กร่าเริงกลับกลายเป็นคนเศร้าซึมมักเก็บตัวอยู่คนเดียวในห้อง ต่อมาวันหนึ่งได้เห็นผู้ก่อเหตุแอบหอมแก้มลูกสาว จึงเรียกมาถาม ทีแรกลูกสาวไม่กล้าพูด มีอาการตัวสั่นและร้องไห้ พ่อและแม่จึงได้ปลอบประโลม จนลูกสาวเปิดปากเล่าความจริงว่าถูก ล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.3 จนถึงชั้น ม.1 นานถึง 5 ปี โดยจะลงมือก่อเหตุภายที่บ้านของชายอายุ 57 ปี เวลากลางวัน ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้าน ปัจจุบันผู้ต้องหาก็ยังย่ามใจใช้ชีวิตปกติและเป็นเชฟอยู่ในโรงแรม

ขณะที่พ่อของเด็กผู้เสียหาย เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นน้องชายของพ่อเขาจึงมีศักดิ์เป็นอาของตนและมีศักดิ์เป็นปู่ของลูกสาวไม่คิดว่าจะกล้าทำหลานได้ถึงขนาดนี้ เสียแรงที่ไว้ใจทุกอย่าง ตอนนี้ก็ขอให้เป็นไปตามผลกรรมที่ทำไว้ และก่อนหน้าที่ตำรวจจะเข้าจับกุม ผู้ก่อเหตุก็ประกาศจะฟ้องทุกคน ตั้งแต่พนักงานสอบสวน นักข่าว พ่อแม่ของเด็ก โดยอ้างว่าตัวเองบริสุทธิ์ ไม่ได้กระทำตามที่เด็กกล่าวอ้างแต่อย่างใด

พนักงานสอบสวนได้ทำบันทึกและแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหา ซึ่งตลอดเวลานายสุดตาจะใช้กระดาษปิดบังใบหน้า และต้องนอนห้องขัง 1 คืน เพราะร้อยเวรไม่ให้ประกันตัว ต้องรอในวันที่ 21 ต.ค. จึงจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม ส่วนเด็กสาวอยู่ในความดูแลของทีมสหวิชาชีพ เพื่อเยียวยาจิตใจให้คลายความเครียดเศร้าซึมจากเหตุการณ์เลวร้าย.