Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สร้างคนรองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์แผนไทย พร้อมเผย 16 ตำรับปลอดภัย มีประสิทธิผล ประกาศใช้ตามกฎหมาย เตรียมลุยใช้จริงผ่านวิทยากรครู

วันที่ 29 เม.ย. 2562 นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ระบุให้กัญชาและกระท่อม สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และการศึกษาวิจัยได้ โดยอนุญาตให้ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือหมอพื้นบ้านตามกฎหมาย ว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถยื่นขออนุญาตมีส่วนร่วมกับหน่วยงานของรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยและจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์ได้

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

ดังนั้น กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงร่วมมือกับสภาการแพทย์แผนไทย จัดทำหลักสูตรและดำเนินการจัดอบรมวิทยากรครู ก. ระหว่างวันที่ 29-30 เม.ย.2562 จำนวน 150 คน เป็นผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้นำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดต่อแก่บุคลากร ในพื้นที่ของเขตสุขภาพ ทั้ง 13 เขตทั่วประเทศ เขตละไม่น้อยกว่า 150 คน โดยกำหนดให้มีการขับเคลื่อนจัดกิจกรรมการอบรมพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 27 พ.ค.นี้

สำหรับการขับเคลื่อนในการนำกัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แผนไทยนั้นจะดำเนินการตามรายการยา 16 ตำรับที่ผ่านการประกาศใช้ และมีกัญชาเป็นส่วนผสม ซึ่งมีการคัดกรองความซ้ำซ้อนจาก 200 ตำรับ เหลือ 90 ตำรับ ในจำนวนดังกล่าว มีการจัดแบ่ง ตามกลุ่มในการพัฒนาเป็นลำดับชั้น แยกเป็น 4 กลุ่ม คือ

กลุ่ม ก เป็นตำรับยาที่มีประสิทธิผล มีความปลอดภัย วิธีการผลิตไม่ยุ่งยากซับซ้อน ตัวยาหาไม่ยาก และมีสรรพคุณตำรับที่แก้ปัญหาสาธารณสุข ประกาศใช้ตามกฎหมาย มีจำนวน 16 ตำรับ ได้แก่ ยาศุขไสยาศน์ ยาน้ำมันสนั่นไตรภพ ยาทำลายพระสุเมรุ ยาทัพยาธิคุณ ยาแก้ลมขึ้นสูง ยาแก้ไข้ผอมเหลือง ยาไพสาลี ยาทาริดสีดวงทวารหนักและโรคผิวหนัง ยาแก้ลมแก้เส้น ยาอไภยสาลี ยาอัมฤตย์โอสถ ยาแก้โรคจิต ยาแก้สันฑฆาต กล่อนแห้ง ยาอัคคินีวคณะ ยาแก้ลมเนาวนารีและ ยาไฟอาวุธ

กลุ่ม ข เป็นตำรับยาที่มีประสิทธิผลแต่วิธีการผลิตไม่ชัดเจน มีตัวยาหายาก ข้อมูลตำรับไม่ครบถ้วน เป็นตำรับยาที่เห็นควร ให้มีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม มีจำนวน 11 ตำรับ กลุ่ม ค เป็นตำรับยากลุ่มที่ไม่แน่นอน เขียนในคัมภีร์ เป็นคำกลอน เขียนระบุ โรคต่างๆ ไม่ชัดเจน มีกัญชาเป็นส่วนผสมน้อย กลุ่มนี้ต้องอยู่ในการควบคุม เป็นโครงการวิจัย เป็นตำรับยาที่เห็นควรทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม มีจำนวน 32 ตำรับ

กลุ่ม ง เป็นตำรับยาที่มีส่วนประกอบ ห้ามใช้ เนื่องจากอาจมีสารพิษผสมอยู่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ห้ามใช้ตัวยาบางตัว เช่น ไคร้เครือ หรือมีสารประกอบของพืชหรือสัตว์ผสมเป็นข้อห้ามตามอนุสัญญาไซเตส (CITES) และตัวยาบางชนิดกฎหมายไม่อนุญาต ให้ใช้ กลุ่มนี้ต้องอยู่ในการควบคุม เป็นโครงการวิจัย มีจำนวน 31 ตำรับ ซึ่งการอบรมครู ก ในครั้งนี้ นอกจากมุ่งเน้นให้เข้าใจด้านกฎหมายแล้ว มุ่งกระบวนการปรุงตำรับยาทั้ง 16 ตำรับสู่การใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนที่เจ็บป่วย

 

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า