เปิดไทม์ไลน์พบทีมหมูป่าทั้งที่ 13 ชีวิต อยู่ห่างจากพัทยาบีช 400 เมตร

ข่าวดีที่สุดของคนไทยวันนี้คือการค้นพบโค้ชและนักฟุตบอลทีมหมูป่าทั้งที่ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง และทุกคนปลอดภัยดี แม้จะมีสภาพอิดโรยไปบ้าง เพราะติดอยู่ในถ้ำนานกว่า 9 วัน… เราย้อนไปดูลำดับเหตุการณ์วันที่ 2 ก.ค.61 วันประวัติศาสตร์ที่ค้นหาทั้ง 13 ชีวิตทีมหมูป่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ลำดับเหตุการณ์ช่วงค่ำวันที่ 2 ก.ค.2561 หน่วยซีลที่เข้าไปสำรวจถ้ำพบโค้ชและนักฟุตบอลทีมหมูป่าทั้ง 13 คน อยู่ห่างจากหาดพัทยาประมาณ 400 เมตร ทั้งหมดปลอดภัยดีแต่สภาพมีอิดโรยเนื่องจากไม่ได้รับประทานอาหารนานกว่า 9 วัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีนักดำอยู่เข้าไปอยู่กับทีมหมูป่า จำนวน 11นาย มีพยาบาลเวชศาสตร์ที่เป็นมนุษย์กบ 1 นาย, หมอที่เป็นมนุษย์กบ 1 นาย และกำลังพลที่เป็นมนุษย์กบ 9 นาย ที่เหลืออีก27 นายกำลังเตรียมการวางขวดอากาศ ตามเส้นทาง และวางแผนการเพิ่มเสบียง ให้ ทุกคนที่อยู่ในถ้ำ สามารถดำรงชีวิตได้อย่างน้อย 4 เดือน สั่งการโดย ผบ กรม รพศ1 ที่อยู่ภายในถ้ำ ณ เวลานี้

22.33 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ เชียงราย แถลงยืนยันว่าพบทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต แล้วเมื่อเวลา 21.45 น. และทั้งหมดปลอดภัยดี
23.04 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. บอกว่า ดีใจที่เจอทั้งหมด ยินดีกับทุกคน หารือกับเจ้าหน้าที่ สีหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา
23.05 น. ผู้ปกครองของทีมหมูป่าสวมกอดกันร้องไห้ดีใจ จนท.พบเด็กๆ แล้ว เตรียมตัวรับลูกหลาน
23.15 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ เชียงราย แจ้งข่าวกับญาติทีมหมูป่าก่อนแถลงข่าวเพียง 10 นาที ขณะที่สาธาณสุขเข้าดูแลผู้ปกครองระบุสภาพจิตใจของผู้ปกครองดีขึ้นอย่างมาก เมื่อทราบข่าวว่าเด็กๆปลอดภัย
23.18 น. ทหารและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องยังดูแลบริเวณปากทางเข้าถ้ำอย่างเข้มงวด
23.30 น. ทหารและจนท. เดินหน้าอัดถังอากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสำรองไว้รับการดำน้ำของซีลที่จะใช้ดำเข้าไปหาเด็กๆ เนื่องจากยังไม่สามารถนำเด็กๆออกมาจากถ้ำได้ในทันที
23.54 น. ผบ.นรข.ยืนยันยังไม่ลำเลียงเด็กๆ ออกจากถ้ำ จะรอจนกว่าทั้งหมดจะแข็งแรง และไม่มีความเสี่ยงใด ย้ำการสูบน้ำยังสำคัญ

ลำดับเหตุการณ์ในวันที่ 2 ก.ค. ช่วงเช้า 

06.20 น. หน่วยซีลเดินทางถึงห้องโถง 3 ภายในถ้ำหลวง โดยมีการวางเชือกนำทางไปถึงบริเวณสามแยก เพื่อช่วยทีมหมูป่าทั้ง “13 ชีวิต” โดยมีนักดำน้ำ จากอังกฤษ และสวีเดนร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วย
07.00 น. เจ้าหน้าที่เร่งอัดอากาศใส่ถังสำรองส่งในถ้ำให้กับหน่วยซีล จำนวน 351 ขวด รวมกับขวดเดิมที่มีอยู่เป็น 415 ขวด คาดว่าต้องใช้เวลาถึง 12 ชั่วโมงในการอัดให้เต็มขวด จากนั้นจะทยอยนำสู่ห้องโถง 3 ให้เจ้าหน้าที่นำไปติดตั้งตามจุดเป็นลำดับถัดไป ด้าน “หน่วยซีล” ตั้งเป้า ภายในวันนี้จะต้องบเดินทางไปให้ถึงพัทยาบีช เร่งอัดอากาศใส่ถังสำรองส่งในถ้ำ ให้ทีมซีลใช้ช่วย13ชีวิต
09.00 น. กฟผ. ส่งกล้อง Borescope สำหรับส่องในพื้นที่แคบ ความยาว 6 เมตร และ 3 เมตร ปลายสายมีกล้องความละเอียดสูง สามารถปรับโฟกัส ทิศทาง และแสงสว่างในที่มืดได้ อีกทั้งสามารถบันทึกภาพได้ทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง ร่วมสนับสนุนปฏิบัติการช่วย “13 ชีวิต” จำนวน 2 เครื่อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ส่งมาแล้ว 1 เครื่อง

12.00 น. นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เผยความพร้อมทุกอย่างที่จะรอรับการรักษาทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตทันทีที่มาถึงจะพาเข้าห้องปลอดเชื้อแล้วเจาะเลือดตรวจรักษาทันที
14.20 น. เล็ก-ฝันเด่น จรรยาธนากร ยืนยันเสียงเคาะผนังถ้ำหลวงตอบกลับทีมนักสำรวจว่า พิสูจน์ทราบว่ายังไม่ใช่ แต่ทุกเคาะที่เกิดขึ้นก็เป็นการส่งสัญญาณ อาจได้ยินจริง แต่อาจจะยังลงไปไม่ถึง ลึกและกว้างมาก ต่ก็พยายามมองทุกอย่างที่ส่งผ่านมาเป็นสัญญาณที่ดี
16.00 น. ทหารบกจากกรมรบพิเศษที่ 5 (รพศ.5) ได้จัดกำลัง 1 กองร้อยรบพิเศษเข้าสนับสนุนภารกิจค้นหา “13 ชีวิต” ด้านศูนย์การบินทหารบ(ศบบ.) ส่ง เฮลิคอปเตอร์ MI17 ในการขนย้ายอุปกรณ์หนักติดตั้งหนุนปฏิบัติการเจาะปล่องโพรง
17.00 น. กรมสุขภาพจิตลงพื้นที่เยี่ยมญาติทีมหมูป่า พร้อมเตรียม 2 แผนรับมือด้านสุขภาพจิตคือระยะเร่งด่วนในการเตรียมสภาพจิตใจกลุ่มครอบครัวและญาติ เพื่อให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง พร้อมรับกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นทุกรูปแบบ และระยะที่สอง คือการเตรียมแผนดูแลจิตใจของเด็กในระยะยาวอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เด็กได้รับการดูแลรักษาจนผ่านพ้นวิกฤติทางกาย
17.30 น. พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เปิดเผยว่า ได้วางกำลังเข้าจัดการจราจรทางอากาศ รอบถ้ำหลวง 15 ไมล์ หากฝนไม่ตกมาเพิ่ม 2 วันนี้ จะเป็นโอกาศทองในการช่วยเหลือ ส่วนตอนนี้ทางกองทัพอากาศได้มีการเตรียมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษค้นหาและช่วยชีวิต หรือพีเจ ไว้พร้อมปฎิบัติการหากมีการร้องขอ

ติดตามข่าวที่น่าสนใจได้ที่

Website / http://www.workpointnews.com

Facebook / https://www.facebook.com/WorkpointNews/

Instagram / https://www.instagram.com/workpointnews/

Twitter / https://twitter.com/workpoint_news