“14 วัน กว่า 4,500 ตัว” ภารกิจจิตอาสาซักผ้าฟรีให้ จนท.ช่วยทีมหมูป่าฯ

สาวจิตอาสาใจงาม รับซักเสื้อผ้าให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ 13 ชีวิตในถ้ำหลวง เผยความรู้สึก หลังหลายหน่วยงานโทรมาร่ำลา และมอบเสื้อซีลเป็นที่ระลึก โดยระบุว่าซักรีดไปกว่า 4,500 ตัว แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมานั้นมีมากกว่าเสื้อ 1 ตัวที่ยิ่งใหญ่

วันที่ 13 ก.ค.61 น.ส.รวินท์มาศ ลือเลิศ หรือ เปรม อายุ 38 ปี เจ้าของร้านซักอบรีด มิสไวท์ ตั้งอยู่เลขที่ 368 ม.2 ต.จันจว้าใต้ (จัน-จั้ว ใต้ ) อ.แม่จัน จ.เชียงราย หนึ่งในอาสาสมัคร ที่ประกาศรับบริการซักผ้าฟรีให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ออกจากวนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เปิดใจกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ว่า แม้ว่าขณะนี้จะปิดภารกิจการช่วยเหลือน้องๆ 13 คนทีมหมูป่าอะคาเดมีไปแล้ว แต่ทางร้านยังเปิดรับบริการซักผ้าฟรีให้เหล่าฮีโร่ต่างๆที่ยังอยู่ในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ชุดสุดท้ายที่บริการ คือ ทหารกองทัพสหรัฐฯ จนถึงวันที่ 14 ก.ค.นี้ ก่อนจะเดินทางกลับประเทศวันที่ 15 ก.ค.นี้

โดยคุณเปรม เล่าว่า หลังจากเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งใจจะเป็นจิตอาสาโดยใช้ความถนัดของตัวเองในงานบริการซักผ้า โดยเริ่มต้นจากการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว  และประสานกับหัวหน้าทีมอาสากู้ภัยฯ และคนอื่นๆที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ให้ช่วยกันกระจายข่าว

ในวันที่ 28 มิ.ย. หรือกว่า 5 วันที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการค้นหาน้องๆในถ้ำหลวง ร้านซักอบรีด มิสไวท์ ได้ทำงานจิตอาสารับซักผ้าเต็มตัวมากขึ้นหลังจากเธอตัดสินใจ เดินทางไปหน้าถ้ำหลวงและแจ้งความประสงค์ขอรับซักผ้าด้วยตัวเอง

จากนั้นก็ได้เริ่มงานซัก-อบ-รีด ให้เจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการ ทั้งจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ,ป่าไม้, หน่วยซีล, อาสาสมัครกู้ภัย, ตชด., และอาสาสมัครต่างชาติ โดยเฉลี่ยกว่า 80 คนต่อวัน รวมเสื้อผ้ากว่า 320 ตัวต่อวัน จนต้องทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 28 มิ.ย. – 13 ก.ค.61 รวมกว่า 4,500 ตัว

ทั้งนี้ คุณเปรม ยืนยันว่า สิ่งที่ทำไม่ได้ทำให้ตัวเองเดือดร้อน หรือกระทบกับงานประจำจนต้องสูญเสียรายได้แต่อย่างใด เพราะปกติทางร้านจะรับบริการซักผ้าจากโรงแรมและที่พักต่างๆในจังหวัดเท่านั้น ไม่ได้รับซักรีดให้เสื้อผ้าบุคคลทั่วไป ส่วนค่าแรงก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเติม เพราะพนักงานในร้าน 3 คนและชาวบ้านในพื้นที่ อาสาขอมีส่วนร่วมช่วยซักผ้าให้นอกเวลางานในช่วงกลางคืน อีกทั้งมีคนสนับสนุนช่วยบริจาคผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม และน้ำหอมฉีดเสื้อผ้าด้วย

สำหรับขั้นตอนการจัดส่งเสื้อผ้า ทางร้านได้บริการรับส่งเองด้วยระยะทางประมาณ 50 กม. จาก อ.แม่จัน ถึงหน้าถ้ำหลวง อ.แม่สายทุกวัน วันละสองรอบในช่วงเวลา 12.00 น. และ 21.00น. ของทุกวัน โดยมีคนเพื่อนร่วมธุรกิจสนับสนุนค่าน้ำมันในการเดินทาง

“อยากช่วยตรงนี้เพราะเป็นสิ่งที่ถนัด ปกติไม่รับซักเสื้อผ้าบุคคลเลย จึงไม่ได้สูญเสียรายได้ให้ใคร สิ่งที่ทำไม่ได้เบียดเบียนการทำงานหลักของเรา ตั้งใจว่าการช่วยคนอื่นต้องไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน” น.ส.รวินท์มาศ จิตอาสารับซักผ้า กล่าว

สิ่งเล็กๆ ในภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของโลก ทำให้คุณเปรม กลั้นน้ำไว้ไม่อยู่ในวันที่ภารกิจจบลง เจ้าหน้าที่หน่วยซีล และกู้ภัยได้โทรศัพท์มากล่าวขอบคุณและร่ำลา หลังต้องกลับก่อนกำหนด 2 วัน

“ความรู้สึกตอนนั้นโทรมา แทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย เราพูดสั้นๆว่า อ้าว….แล้วน้ำตาก็ไหล แทบไม่ได้พูดอะไร เพราะตลอดเวลามากกว่า 10 วัน ที่มีโอกาสช่วยซักผ้าให้ เราไม่ได้ทำเพราะเป็นหน้าที่ แต่เราทำเพราะเห็นว่าเค้าคือคนในครอบครัว เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกัน” น.ส.รวินท์มาศ จิตอาสารับซักผ้า กล่าว

สิ่งที่ภูมิใจที่สุด คือ การได้รับเสื้อหน่วยซีล “ทำลายใต้น้ำจู่โจม” เป็นที่ระลึก แม้ว่าจะได้มาเพียงตัวเดียวแต่มีมูลค่าทางจิตใจในชีวิต เพราะคิดว่าสิ่งที่ได้รับในภารกิจครั้งนี้ได้มากกว่านั้น ได้ทั้งมิตรภาพ รอยยิ้ม การขอบคุณ ได้รับการยกมือไหว้ขอบคุณจากคนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับจากผู้มียศตำแหน่ง ซึ่งถือว่าตัดสินใจไม่ผิดที่ตั้งใจอาสารับซักผ้า ส่วนเล็กๆในภารกิจครั้งนี้

พร้อมระบุว่า ไม่ได้รู้จักเจ้าหน้าที่ซีล ที่มอบเสื้อให้มาก่อน แต่คุ้นเคยกันที่ผ่านมาเรียกชื่อกันตามที่เขียนไว้หน้าถุงซักผ้าตลอด แม้ว่าจะไม่ได้ถ่ายรูปกับเจ้าหน้าที่เป็นที่ระลึก แต่คิดว่าบางอย่างควรเป็นความทรงจำมากกว่ารูปภาพ

“รู้สึกตื้นตันพูดอะไรไม่ถูก เค้าบอกว่า… พี่ครับ เสื้อตัวนี้ผมให้พี่เป็นที่ระลึกน่ะ ผมเห็นพี่ออกทีวีมาหลายวันแล้ว ผมไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอ และได้ใช้บริการ แต่ก็มาถึงวันนี้” น.ส.รวินท์มาศ จิตอาสารับซักผ้า กล่าว

ในวันที่ภารกิจทั้งหมดจบลง ด้วยความพยายามระดับนานาชาติ ความสำเร็จหวานขมที่ต้องสูญเสีย จ่าแซม จ.อ.สมาน กุนัน วีรบุรุษถ้ำหลวง ไปในครั้งนี้ คุณเปรม ได้ฝากทิ้งท้ายถึงน้องๆ ทีมหมูป่าฯ ทั้ง 13 คน ให้เป็นคนดีใช้ชีวิต เหมือนเกิดใหม่ให้คุ้มค่า ไม่ประมาท

“ขอให้น้องๆ เป็นคนดี ตั้งใจทำในสิ่งที่วาดหวัง ในกีฬาฟุตบอล ขอให้รักษาสุขภาพ รักษาตัวเองให้ดีๆ ให้สมกับที่ได้ชีวิตใหม่ ให้สมกับที่ทุกคนตั้งใจช่วยเหลือ และอย่าใช้ชีวิตประมาท” น.ส.รวินท์มาศ จิตอาสารับซักผ้า กล่าว