Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ย้อนดู 18 วันมหัศจรรย์ นับแต่วันหมูป่าเข้าถ้ำหลวง ถึงวันแห่งความปีติ ที่ทั้ง 13 ชีวิตถูกช่วยเหลือออกมานอกถ้ำอย่างปลอดภัย

วันที่ 1: ทีมหมูป่าอะคาเดมีเข้าถ้ำหลวง

หลังจากทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีเสร็จสิ้นการซ้อมฟุตบอลที่สนามกีฬากลาง ต.โป่งผา อ.แม่สาย ในช่วงเช้า นักฟุตบอลในทีม 12 คน พร้อมทั้งโค้ชเอก ได้ปั่นจักรยานมาเที่ยวบริเวณวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน คาดว่าทั้งหมดเข้าไปในถ้ำในเวลาประมาณ 12.00 น.

วันที่ 2: ทีมกู้ภัยเริ่มออกค้นหา

ทีมกู้ภัยชุดแรกจากสยามรวมใจและสมาคมศิริกรณ์ ได้เริ่มการค้นหา และเมื่อเข้าไปในถ้ำ เจอรองเท้าแตะ 12 คู่ รวมถึงกระเป๋าสะพาย 2 ใบที่บริเวณสามแยก อย่างไรก็ตาม ทีมกู้ภัยชุดแรกต้องถอนกำลังออกมาหลังค้นหาได้ประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากระดับน้ำภายในถ้ำสูงขึ้น ก่อนที่ในช่วงเย็นจะส่งนักดำน้ำชุดแรกเข้าไป โดยเมื่อสำรวจได้เบาะแสว่าภายในถ้ำพบรอยนิ้วมือเกาะตามผนังถ้ำ และพบว่าบางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 5 เมตร

วันที่ 3: หน่วยซีลชุดแรกถึงถ้ำหลวง

กองทัพเรือได้ส่งหน่วยซีลออกมาตั้งแต่คืนวันที่ 24 มิ.ย. (วันที่ 2) แต่มาถึงถ้ำหลวงเวลาประมาณเกือบตี 3 ของวันที่ 25 มิ.ย. และได้เริ่มดำน้ำค้นหาในช่วงเช้า จนสามารถไปได้ถึงห้องโถงใหญ่ด้านใน แต่เมื่อสำรวจกลับไม่พบทีมหมูป่า จนในที่สุดในช่วงเย็น หน่วยซีลต้องยุติการค้นหาชั่วคราวเนื่องจากระดับน้ำเริ่มสูงและมีความเสี่ยงต่อผู้ปฏิบัติการ

วันที่ 4: เริ่มเดินเท้าหาโพรงเหนือถ้

การค้นหาภายในถ้ำยังดำเนินต่อไป แต่ในวันนี้ มีการสำรวจโพรงรอบถ้ำหลวงที่อาจเป็นเส้นทางที่ลงไปสู่ถ้ำภายในได้เพิ่มเติมด้วย โดยในวันนี้ได้มีการแบ่งทีมค้นหาออกเป็น 12 ชุด เดินขึ้นเขาหาโพรง โดยแต่ละทีมเอาข้าวและน้ำติดตัวไปด้วย เพื่อให้สามารถปฏิบัติการค้นหาโพรงได้ต่อเนื่อง 3 วัน โดยไม่ต้องเสียเวลากลับมาที่ฐานปฏิบัติการอีก นอกจากนี้ในวันนี้ยังได้มีการลากสายไฟแรงสูงเข้าไปในถ้ำ เพื่อเตรียมเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ภายในถ้ำ

วันที่ 5: นักดำน้ำจากอังกฤษมาถึง 

วันนี้ครบ 100 ชั่วโมงที่ทั้ง 13 ชีวิตติดอยู่ภายในถ้ำหลวง

นักดำน้ำกู้ภัยในถ้ำจากอังกฤษ 3 คน ได้แก่ โรเบิร์ต ฮาร์เปอร์, ริค สแตนตัน และจอห์น โวเลนเธน ได้เดินทางมาถึงบริเวณถ้ำหลวงในเวลาประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง ก่อนที่จะเริ่มสำรวจภายในถ้ำทันที และวันนี้ยังเป็นวันแรกที่เครื่องสูบน้ำเริ่มเดินเครื่องและสูบน้ำออกมาจากภายในถ้ำได้

วันที่ 6: เจ้าหน้าที่เริ่มเจาะน้ำบาดาล

เนื่องจากการสูบน้ำออกทางปากถ้ำไม่สามารถทำให้ระดับน้ำในถ้ำลดลงได้เร็วมากพอ ในวันนี้จึงมีการนำเครื่องเจาะบาดาลมาเจาะผนังถ้ำเพื่อหวังจะลงไปถึงตาน้ำ และสูบน้ำบาดาลออกเพื่อช่วยลดระดับน้ำภายในถ้ำด้วย โดยในช่วงเวลาประมาณห้าโมงครึ่งได้มีการเริ่มเจาะในแนวเฉียง แต่เนื่องจากมีน้ำไหลออกมาเพียงเล็กน้อย จึงเปลี่ยนเป็นการขุดบาดาลในแนวดิ่งแทนในเวลาประมาณสามทุ่ม

วันที่ 7: หย่อนกล่องช่วยเหลือเข้าถ้ำ

ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการหย่อนกล่องช่วยเหลือจำนวน 20 กล่องลงไปในถ้ำจากทางต้นน้ำ โดยหวังว่ากล่องช่วยเหลือดังกล่าวจะลอยไปตามน้ำจนถึงจุดที่ทีมหมูป่าทั้ง 13 คนพักอาศัยอยู่ได้ โดยภายในกล่องมีอาหารคือ ข้าวเหนียวหมูทอด น้ำ เครื่องดื่มเช่นแลคตาซอย โอวัลติน นอกจากนี้ยังมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้สัญญาณได้ทั้ง 3 ค่าย ซึ่งหากทีมหมูป่าพบกล่องนี้จริงก็จะสามารถโทรออกมาได้ เนื่องจากได้มีการต่อเสาสัญญาณโทรศัพท์เพิ่มภายในถ้ำแล้ว

นอกจากนี้ ภายในกล่องยังมีแผนที่ถ้ำ ปากกา และไฟฉาย เพื่อให้ทีมหมูป่าทำเครื่องหมายบนแผนที่ และส่งออกมาเพื่อให้คนที่พบเจอกล่องทราบได้ว่าทีมหมูป่าอยู่ตรงส่วนไหนของถ้ำ สุดท้ายภายในกล่องยังมีวัตถุที่ส่องแสงในที่มืด เพื่อช่วยให้ทีมหมูป่าเห็นกล่องได้ในถ้ำที่มืดสนิท

วันที่ 8: เครื่องสูบน้ำพญานาคมาช่วย

เนื่องจากการสูบน้ำภายในถ้ำเป็นไปได้ช้า ในวันนี้จึงมีอาสาสมัครนำเครื่องสูบน้ำซิ่งพญานาคยักษ์จาก จ.นครปฐม มาเสริมกำลังการสูบน้ำ โดยมาถึงถ้ำหลวงในวันนี้ทั้งสิ้นรวม 4 ตัว

วันที่ 9: ระดมวางขวดอากาศ

ทีมดำน้ำในถ้ำตัดสินใจใช้กลยุทธ์ใหม่ ไม่รอระดับน้ำในถ้ำลดอีกต่อไป แต่ใช้วิธีการวางขวดอากาศไว้ตลอดแนว ตั้งแต่โถง 3 ลึกเข้าไปในถ้ำถึงสามแยก และเลี้ยวไปทางซ้ายไปทางพัทยาบีช โดยจะวางขวดอากาศทุก 25 เมตร ทั้งนี้คาดว่ากลยุทธ์นี้จะทำให้ความเสี่ยงในการทำงานของทีมนักดำน้ำน้อยลง และสามารถปฏิบัติภารกิจได้นานขึ้น

วันที่ 10 | เจอ 13 หมูป่าที่เนินนมสาว

2 นักดำน้ำชาวอังกฤษ คือ จอห์น โวลันเธน และ ริค สแตนตัน พบทีมหมูป่าบริเวณเนินนมสาวซึ่งอยู่ห่างจากพัทยาบีชไป 200-300 เมตร หลังจากที่จอห์นวางแนวเชือกนำทางใต้น้ำแล้วเชือกหมดพอดี เขาจึงโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำและได้พบกับทั้ง 13 ชีวิตเป็นครั้งแรก เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.

วันที่ 11 | หมอภาคย์เช็กสุขภาพ 13 หมูป่า

หมอภาคย์ หรือ พันโท นายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน หมอทหารที่ผ่านหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ได้ดำน้ำเข้าไปตรวจสุขภาพของสมาชิกทีมหมูป่าในเช้าวันถัดมาทันที พร้อมกับหน่วยซีลคนอื่นๆ รวม 7 นาย โดยเปิดเผยว่า 11 คน มีร่างกายแข็งแรงดี ส่วนอีก 2 คน อ่อนเพลีย

วันที่ 12 | เบี่ยงทางน้ำที่ไหลเข้าถ้ำ

นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่าปฏิบัติการเบี่ยงเส้นทางน้ำเพื่อไม่ให้ไหลเข้าถ้ำสำเร็จแล้ว และได้ทำฝายปิดห้วยมะกอก ทำทางเบี่ยงทางน้ำ โดยฝายเหล่านี้จะถูกรื้อออกหลังภารกิจกู้ภัยเสร็จสิ้น เพื่อให้ระบบนิเวศกลับมาเหมือนเดิม

วันที่ 13 | น้ำจากปากถ้ำถึงโถง 3 ลดลง 40%

การสูบน้ำออกจากถ้ำหลวงทำได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำลดลงกว่า 40% เจ้าหน้าที่จึงสามารถเดินจากปากถ้ำถึงบริเวณโถง 3 ซึ่งเป็นกองบัญชาการของหน่วยซีลได้

วันที่ 14 | จ่าแซมเสียชีวิต

จ่าแซม หรือ จ่าเอก สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ อาสาขอมาช่วยพาทีมหมูป่ากลับบ้าน โดยทำหน้าที่ลำเลียงขวดอากาศเข้าไปติดตั้งบริเวณทางเข้าสามแยก เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการของนักดำน้ำ จ่าแซมหมดสติระหว่างดำน้ำกลับมายังโถง 3 และเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 1.00 น

วันที่ 15 | ออกซิเจนในถ้ำลดเหลือ 15%

นอกจากปริมาณน้ำในถ้ำแล้ว ปริมาณออกซิเจนก็เป็นอีกปัจจัยที่น่ากังวล เพราะออกซิเจนภายในถ้ำหลวงลดลงเรื่อยๆ จนเหลือประมาณ 15% ซึ่งตามหลักการแล้วหากปล่อยให้ออกซิเจนลดเหลือ 12% จะเป็นอันตรายต่อทีมหมูป่าและเจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงต้องเร่งเติมออกซิเจนเข้าถ้ำ และตัดสินใจเริ่มปฏิบัติการกู้ภัยเร็วกว่าที่คาดคิด

วันที่ 16 | หมูป่าชุดแรกออกจากถ้ำ

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผบ.ศอร. เปิดเผยว่าปฏิบัติการกู้ภัยเริ่มต้นแล้วตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยมีนักดำน้ำชาวต่างชาติ 13 คน ซีลไทย 5 คน และทีมสนับสนุนอีกกว่า 90 คน ซึ่งหลังจากที่ทีมกู้ภัยดำน้ำเข้าไปในถ้ำนานกว่า 11 ชั่วโมง ทีมกู้ภัยสามารถช่วยเหลือหมูป่าชุดแรก จำนวน 4 คน (อายุ 14-16 ปี) ออกมาจากถ้ำได้สำเร็จ

วันที่ 17 | หมูป่าชุดสองออกจากถ้ำ

ปฏิบัติการกู้ภัยในวันที่ 2 ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมงกว่า ซึ่งเร็วกว่าวันแรก ทีมกู้ภัยสามารถช่วยเหลือทีมหมูป่าออกมาจากถ้ำได้อีก 4 คน (อายุ 12-14 ปี)

วันที่ 18 | ภารกิจสำเร็จ 13 หมูป่าปลอดภัย

21.45 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผบ.ศอร. แถลงอย่างเป็นทางการว่า ทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ถูกช่วยเหลือออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัยครบทุกคนแล้ว รวมถึงหมอภาคย์และหน่วยซีลอีก 3 คน ที่เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนทีมหมูป่าตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. ก็ออกมาอย่างปลอดภัยเช่นกัน

 

 

 

 

ติดตามข่าวที่น่าสนใจได้ที่ http://www.workpointnews.com

Facebook / https://www.facebook.com/WorkpointNews/

Instagram / https://www.instagram.com/workpointnews/

Twitter / https://twitter.com/WorkpointShorts

 

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า