ขนสารเคมีอันตรายกว่า 300 ตัน แต่ไม่แจ้งให้ชัด! ต้นเหตุไฟไหม้คอนเทนเนอร์ ท่าเรือแหลมฉบัง

รัฐมนตรีช่วยคมนาคม ระบุเหตุระเบิดไฟไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง พบ เจ้าของสินค้าไม่แจ้งว่าเป็น “สินค้าอันตราย” มีถึง 13 ตู้ กว่า 300 ตัน เร่งสอบจะเอาไปใช้ทำอะไรถึงนำเข้ามามากมาย

วันที่ 30 พ.ค. 62 นายไพรินทร์ ชูโชาติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ติดตามเหตุการณ์ระเบิดไฟไหม้บนเรือสินค้า KMTC HONGKONG ที่ท่าเทียบเรือ บริษัทไทยแหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (ท่าเทียบเรือ A2) เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา

นายไพรินทร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดและไฟไหม้ดังกล่าว สาเหตุเกิดจากสารเคมีอันตรายแคลเซียมไฮโปรคลอไรด์ ซึ่งเป็นสารเคมีฟอกขาว โดยสารเคมีมาอยู่บนเรือ จำนวน 13 ตู้คอนเทนเนอร์ แต่ไม่ได้มาส่งขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง และที่สำคัญเจ้าของสินค้าไม่ได้แจ้งว่า เป็นสารอันตราย ทำให้ไม่มีใครทราบว่า มีสารเคมีอันตรายอยู่บนเรือดังกล่าว

รัฐมนตรีช่วยคมนาคม กล่าวต่อว่า สินค้าดังกล่าวเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศจีน และใช้สายเดินเรือจากประเทศเกาหลี มาที่ท่าเรือ A2 โดยจำนวน 13 ตู้คอนเทนเนอร์ จะไปส่งที่บริษัทยูนิไทย จ.สมุทรปราการ ซึ่งยังไม่ทราบว่า จะนำสารดังกล่าวไปใช้ทำอะไร แต่ปกติแล้วสารแคลเซียมไฮโปรคลอไรด์ จะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมฟอกขาว แต่ครั้งนี้นำเข้ามาเป็นจำนวนมาก กว่า 300 ตัน ซึ่งจะตรวจสอบกับผู้นำเข้า และส่งสินค้าอย่างละเอียด

“เบื้องต้นสายเรือเป็นผู้นำส่งสินค้า ดังนั้นสายเรือจะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทราบว่า ทางประกันภัยของสายเรือได้เข้ามาดำเนินการแล้ว ในส่วนความเสียหายเกิดขึ้นกับสุขภาพของประชาชน ความเสียหายต่อสินค้าที่อยู่ในรัศมีระเบิด และรถยนต์ที่เตรียมส่งออกหลายร้อยคันก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ขอบคุณภาพ PR LCP