เปิดภารกิจกู้ซากช้างป่าคาดใช้เวลา 5 วัน วางตาข่ายยักษ์ดักซากช้างจากน้ำตกเหวนรก

ผู้ว่าฯ นครนายก เผยช้างป่าทั้งโขลงมี 13 ตัว พบตกน้ำตกเหวนรกวันแรก ตาย 6 ตัว สำรวจอย่างละเอียดด้วยโดรนพบอีก 5 ตัว รวมช้างป่าตาย 11 ตัว ช้างแม่ลูกรอด 2 ตัว ล่าสุดเร่งจัดชุดกู้ซาก 2 ชุด 

วันที่ 8 ต.ค.2562 กระแสน้ำจากน้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้พัดซากช้างลงไปด้านล่างแล้ว 4 ตัว เหลือซากช้างอยู่ที่น้ำตกเหวนรกชั้น 2 อีก 2 ตัว ล่าสุดวานนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้นำกำลังเดินทางเข้าไปที่เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก เพื่อล่องเรือขึ้นเหนือน้ำ เข้าสู่คลองต้นไทร เพื่อค้นหาซากช้าง แต่พบโขดหินขนาดใหญ่ และหน้าผาไม่สามารถล่องเรือต่อไปได้ ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 200 เมตร จากนั้นได้นำเชือกขนาดใหญ่มาทำตาข่ายกั้นลำน้ำที่ไหลมาจากน้ำตก เพื่อดักซกช้างที่เหลือ

ภาพจาก สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ตอบโต้ภัยพิบัติ

นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ภารกิจการกู้ซากช้างป่า 6 ตัว มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 คน และผู้สื่อข่าวจากสำนักต่าง ๆ กว่า 20 คน ร่วมกันสำรวจจุดวางตาข่ายขนาดใหญ่ดักซากช้างป่า ไม่ให้ลงมาถึงเขื่อนขุนด่านฯ ป้องกันภาวะมลพิษในอ่างเก็บน้ำ การวางตาข่าย ได้ดำเนินการที่จุดที่แคบที่สุดของคลองไทร ประมาณ 35 เมตร ซึ่งคาดว่าจุดนี้ จะเป็นจุดที่จะใช้สำหรับเผาทำลายซากช้าง หลังจากนั้นนำเศษเถ้าถ่าน-กระดูกช้างป่าทั้งหมด ฝังกลบพร้อมเอาปูนขาวโรยเพื่อฆ่าเชื้อให้เรียบร้อย

สำหรับภารกิจวันนี้ (8 ต.ค.62) จะวางแผนจะนำตาข่ายและเชือกเข้าไปขึงดักเพิ่ม คาดว่า ซากช้างจะลอยมาถึงจุดขึงตาข่าย ใช้เวลาประมาณ 4 -5 วัน แต่ถ้ากระแสน้ำแรง อาจมาถึงเร็วกว่านั้น จากการบินโดรนดูพื้นที่ของน้ำตกเหวนรก เมื่อก่อนหน้านั้นคิดว่าน้ำตกเหวนรกมี 3 ชั้น แต่สภาพจริงๆแล้ว น้ำตกเหวนรกมีทั้งหมด 5 ชั้น จากจุดที่เดินเท้าไปขึ้นไปน้ำตกเหวนรกชั้น 1 ย้อนขึ้นไป กระแสน้ำแรงมาก และเป็นหน้าผา ไม่สามารถขึ้นทวนกระแสน้ำขึ้นไปได้ ต้องรอกระแสน้ำพัดซากช้างลงมาเอง ส่วนช้างแม่ลูกที่รอดชีวิตมา 2 ตัว ตอนนี้เข้าป่าไปหากิน ยังเคยเดินหากินอยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบตามเส้นทางจากทิศใต้ขึ้นไปสู่ทิศเหนือ ทางด้านที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1  เปิดเผยว่า ด้านสมาคมตอบโต้ภับพิบัติร่วมกับสัตวแพทย์ได้ทำการวิเคราะห์ภาพจากโดรนจากนั้นได้แจ้งมายังตนเวลาประมาณ 19.00 น. พบมีซากช้างทั้งหมด11 ตัว จากเดิม 6 ตัว เพิ่มมาอีก 5 ตัว นั้นหมายความว่าช้างโขลงนี้มีทั้งหมด 13 ตัว โดยหลังจากนี้จะมีมาตรการป้องกันในระยะสั้นและระยะยาว และช่วงบ่ายจะมีการเข้าไปยังพื้นที่ที่ได้เข้าไปสำรวจพื้นที่ทำการวางตาข่ายและทำการฝังกลบ ซึ่งเดินทางเข้าโดยเรือที่เขื่อนขุนด่านปราการชล จากนั้นก็เดินเท้าเข้าไปประมาณ2.8 กิโลเมตร ต้องใช้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการกู้ภัย  เนื่องจากมีบางช่วงที่ต้องใช้การโรยตัว

สรุปยอดช้างล้มที่น้ำตกเหวนรก รวม 11 ตัว จุดที่พบช้างตัวที่ 1-2 บริเวณชั้น 2 ตัวที่ 3 4 5 6 อยู่บริเวณชั้น 3 ตัวที่ 7 ชั้น 4 ตัวที่8 9 8 9 ชั้น 4 ส่วน 10 11 อยู่ชั้น 5 ซึ่งเป็นทางลาด

ส่วนช้างแม่ลูก 2ตัวที่เดินข้ามน้ำตกนั้นเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ปลอดภัยแล้ว เพราะช่วงตี 1 ที่ผ่านมาแม่ค้าพบเห็นช้าง 2 ตัวไปกินกล้วยที่หลังร้านค้าบนที่ทำการน้ำตกเหวนรก และช่วงเวลาตี 3 ได้เดินกลับเข้าป่าไปโดยลักษณะจากภาพที่แม่ค้าถ่ายไว้ ตรงกับทางเจ้าหน้าที่ถ่ายไว้วันเกิดเหตุ ทั้งนี้เนื่องจากวันแรกสภาพอากาศปิดทำให้ไม่สามารถขึ้นบินโดรนได้ ขณะที่เมื่อวานนี้ตลอดทั้งวันได้ทำการบินสำรวจและพบช้างอัก 5 ตัว

ส่วนการจัดการซากนั้นจะแบ่งเป็น 2 ชุด  ชุดแรก จะทำการวางตะข่ายที่บริเวณปากทางต้นไทร ร่องเรือเข้าไปในเขื่อนขุนด่านปรากาลชล เพื่อดักรอซากที่ไหลลงมา  ชุดที่2 จะเดินเท้าเข้าไปจากเหวนรก ระยะทางประมาณ 2.8 กิโลเมตร  ซึ่งเป็นแนวหน้าผา  เพื่อจะจัดการซากช้าง. เพราะบางจุด ซากติดกับโขดหิน หากน้ำไม่ไหลพาพลัดลงมาจะได้รับการสนับสนุนจากทีมตอบโต้ภัยพิบัติ จะนำโดรนบินเพื่อนำปูนขาวไปโรย ที่ซากช้าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโรคจากซากช้างป่า