วงไอดอลให้อะไรกับสังคมได้บ้าง

ถึงชาวไทยจะเริ่มคุ้นชินกับคำว่า ไอดอล ไปแล้ว เพราะเราได้เห็นเด็กสาวรุ่นใหม่ออกมาแสดงความสามารถในด้านการบันเทิงทั้งหลาย แต่จริงๆ แล้วในญี่ปุ่นประเทศต้นทางของระบบไอดอล ไม่ได้หยุดแค่การงานด้านบันเทิงครับ เพราะความที่ไอดอลแบบญี่ปุ่นคือการที่คนดูหรือแฟนคลับสนุกไปกับการเฝ้าชมการเจริญเติบโตของเหล่าไอดอล ทำให้เราได้เห็นพวกเธอผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับสังคมได้อีก

1.ส่งเสริมการอ่าน

ตัวอย่างการเอาคนดังมาแนะนำหนังสือของญี่ปุ่นก็มีมานานแล้ว โดยเฉพาะการเอารูปคนนั้นพร้อมคำนิยมมาใส่ในโอบิ หรือแถบคาดนอกเล่ม เพื่อให้เห็นว่ามีใครแนะนำเล่มนี้ และที่ผ่านมาก็มีการเอาไอดอลมาแนะนำหนังสือเช่นกัน ตัวอย่างเช่น Watababe Mayu ของ AKB48 ที่ได้ขึ้นโอบิของหนังสือประวัติศาสตร์โลก และประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นฉบับย่อ พร้อมบอกว่า อ่านสบายเข้าใจง่าย ช่วยเร่งยอดขายหนังสือได้ ในขณะเดียวกัน Amazon ของญี่ปุ่นก็เคยร่วมงานกับ Nogizaka46  โดยให้กลุ่มฟุคุจิน หรือสมาชิกสองแถวหน้าของวง 10 คนเลือกหนังสือที่ตัวเองชอบ พร้อมบรรยายเหตุผลว่าทำไมถึงชอบเล่มนั้นๆ ซึ่งก็มีคนตามอ่านกันเยอะเพราะมีสมาชิกวงอย่าง Saito Asuku และ Hashimoto Nanami ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักอ่านตัวยง โดยเฉพาะคนหลังที่ต่อมาได้ทำรายการแนะนำสถานที่เที่ยวในจังหวัดฮอกไกโด บ้านเกิดของตัวเองโดยตามรอยนิยายดังที่ใช้โลเคชั่นในจังหวัดอีกด้วย นอกจากนี้ปีที่ผ่านมาก็มีการร่วมงานกันระหว่างสำนักพิมพ์โคดันฉะ ฉลอง 46 ด้วยการเอาสมาชิกของ Nogizaka46 ทั้ง 46 คน (จำนวนในตอนนั้น) มาขึ้นปกหนังสือนิยายขนาดพ็อกเก็ตบุ๊ค 46 เล่ม เป็นปกพิเศษ ที่ชวนให้แฟนๆ ของวงวิ่งตามเก็บกันอย่างเต็มที่ สร้างยอดขายให้พุ่งพรวดขึ้นมาอย่างน่าทึ่ง และยังมี Eito Misa สมาชิกของวงที่ร่วมงานกับนักบัญชีออกนิยายให้ความรู้เชิงธุรกิจ รวมถึง Takayama Kazumi ที่เขียนนิยายเรื่องยาวลงในนิตยสาร Da Vinci อย่างต่อเนื่อง

2. ตอบปัญหา

หนึ่งในงานของไอดอลคือการออกรายการวาไรตี้ต่างๆ เพื่อเรียกเสียงฮา สร้างความสนุกให้กับคนดู และรายการประเภทหนึ่งที่นิยมเรียกไอดอลไปร่วมรายการคือ รายการตอบปัญหา ก็จะจัดเป็นสองประเภทอีกคือ เอาไปตอบเพื่อเอาฮา กับเอาไปตอบอย่างจริงจัง ประเภทแรกคงขอยกตัวอย่าง Oya Shizuka ที่จัดว่าเป็นสาย โอบากะ หรือ เด็กบื้อ แต่ได้ร่วมรายการตอบปัญหาดัง Cream Quiz Miracle 9 เป็นประจำ เพราะมักจะเรียกเสียงฮาได้ตลอด แต่ไปๆ มาๆ ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปพร้อมกับรายการและหลังๆ ก็มักจะตอบปัญหาได้เหมือนกัน แถมเพราะได้ออกรายการในช่วงเวลาดี ทำให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แม้เธอจะไม่ได้ติดเซ็มบัตซึเป็นประจำ แต่ในงานร้องเพลขาวแดงท้ายปีเมื่อปี 2016 ที่ให้ทางบ้านโหวตสมาชิกร่วมแสดงแบบหนึ่งคนหนึ่งเสียง เธอก็ติด 16 คนสุดท้ายอย่างสวยงาม เรียกได้ว่ารายการตอบปัญหาทำให้เธอได้ดังในหมู่คนทั่วไปอย่างเต็มปากจริงๆ ในขณะเดียวกัน Akimoto Manatsu สาวจอมแอ๊บแบ๊วประจำ Nogizaka46 ก็ได้ร่วมรายการตอบปัญหา Q Sama อยู่เรื่อยๆ เพราะเธอเป็นไออลที่เรียนมหาวิทยาลัย Ferris ที่จัดว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำเช่นกัน และ Nogizaka46 ก็ได้รับตำแหน่งกองเชียร์ของงาน ตอบปัญหามัธยมปลายประจำปี ของสถานี Nippon TV ซึ่งนอกจากทำเพลงให้กำลังใจแล้วก็ยังมีการแสดงคอนเสิร์ตในงานตอบปัญหาอีกด้วย

https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/579552252414057/

3. เพลงให้กำลังใจ

ไอดอลไม่ได้แค่ร้องเพลงสนุกสนานไปวันๆ หลายครั้งที่เพลงของไอดอลก็มีเมสเสจข้อความสำคัญ ให้กำลังใจผู้คนได้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่นในช่วงหลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น วง AKB48 และวงน้องสาวในเครือก็ได้เริ่มโครงการ Dareka no tame ni (เพื่อใครสักคน) เป็นโครงการบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัย ตั้งแต่ปล่อยเพลง Dareka no tame ni -What Can I Do For Someone?- แบบออนไลน์โดยเอายอดขายบริจาคการกุศล เช่นเดียวกับซิงเกิ้ลและอัลบั้มที่ออกหลังจากนั้นก็แบ่งรายได้ส่วนหนึ่งเข้าการกุศล และสมาชิกของวงก็ได้ร่วมกิจกรรมการกุศลต่างๆ ทั้งการออกไปรับบริจาคเงิน หรือการลงพื้นที่ไปสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ประสบภัย และท้ายปียังออกเพลง Kaze wa Fuiteiru เป็นเพลงให้กำลังใจผู้ประสบภัยอีกเพลง และ Iwada Karen สมาชิกวงที่มาจากพื้นที่ประสบภัยก็ยังได้ไปร่วมร้องเพลง Hana wa Saku เพลงการกุศลโดยรวมคนดังจากพื้นที่ประสบภัยมาร่วมกันร้องเพลงอีกด้วย และจากข้อมูลถึงวันที่ 12 มีนาคม 2012 ยอดเงินบริจาคของโครงการนี้สูงถึง  1,300 ล้านเยนเลยทีเดียว

4. ไม่ใช่แค่ไอดอลฝ่ายหญิง

แต่ไอดอลฝ่ายชายหลายต่อหลายวงก็มีกิจกรรมที่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่น แต่ถ้าจะยกรายการที่ชัดเจนก็คงต้องเป็นรายการ Gakkou e Ikou ของวง V6 ไอดอลชายชื่อดังจากค่าย Johnny’s ที่ชื่อรายการก็บอกแล้วว่า “ไปโรงเรียนกันเถอะ” เป็นรายการที่สมาชิกวงจะไปร่วมทำกิจกรรมกับนักเรียนในโรงเรียนต่างๆ ที่คนไทยอาจจะคุ้นๆ กันกับรายการที่ให้เด็กมาสารภาพเรื่องต่างๆ บนดาดฟ้าโรงเรียนที่มีเพจชอบทำซับทำมาให้ดูนั่นล่ะครับ บางทีเวลาเด็กบอกรักแล้วอกหัก สมาชิกวงก็เข้าไปปลอบใจ บางทีก็มีเด็กที่อยากจะเต้นคัฟเวอร์วง วงก็ไปช่วยสอนและให้กำลังใจในงานโรงเรียน บางทีก็ไปร่วมงานกีฬาสีของโรงเรียนบ้าง เข้าไปสอนพิเศษเอาฮาบ้าง แม้รายการจะปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2008 แล้ว แต่ว่าแต่ละปีก็มักจะมีรายการพิเศษของวงไปทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับนักเรียนหลายๆ โรงเรียน ช่วยเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากนักเรียนทั้งหลายได้

5. สุดท้าย

อิทธิพลที่ดีอย่างหนึ่งของไอดอลคือ บางคนก็เปิดเผยตัวว่าสนใจเรื่องอะไรอย่างเต็มที่ จนทำให้ต่อมาได้งานในสายนั้น เป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่ดี ดึงให้คนมาสนใจเรื่องเหล่านั้นได้ ตัวอย่างก็เช่น Ito Karin ของ Nogizaka46 ที่วงได้งานเกี่ยวกับหมากรุกญี่ปุ่นมา แล้วไม่มีใครเคยเล่น แต่เธอเห็นพ่อตัวเองเล่นมากเลยตัดสินใจรับงานนี้ และกลายเป็นว่าเหมางานพิธีกรและอีเวนต์เกี่ยวกับหมากรุกญี่ปุ่นไปหมด อีกคนที่น่าสนใจคือ Saito Asuka วงเดียวกันที่สนใจเรียนภาษา จนได้ทำรายการวิทยุเรียนภาษาอังกฤษ ชวนให้แฟนๆ รายการสนใจในภาษาอังกฤษตามได้ และวงยังมีรายการ Nogi Eigo รายการสอนภาษาอังกฤษพื้นฐานแบบผสมความฮาให้กับสมาชิกวงกลุ่มที่ได้ชื่อว่า Nogi Baka หรือ โนกิบ๊องๆ นั่นเอง ก็ฮาไปได้สาระไปด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกที่ชอบเรื่องอื่นๆ แล้วพลิกให้เป็นงาน เช่น Suzuki Ayane ที่ชอบเครื่องบิน ก็ได้ร่วมรายการทีวีเวลาคุยเรื่องเครื่องบินกัน ใครชอบเรื่องไหนก็มีโอกาสกลายเป็นทูตพิเศษของเรื่องนั้นไปได้ ชวนให้คนหันมาสนใจเพิ่มข้นได้ครับ