Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

คืบหน้า หนุ่มซิ่งกระบะแหกด่าน โดนวิสามัญ ล่าสุดผู้การฯ ภูเก็ต เซ็นคำสั่งย้าย 7 ตำรวจ และสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ อาสาสมัครตำรวจ 2 นาย ขณะที่โลกโซเชียลเผยแพร่คลิปผู้ตายซิ่งรถกระบะหนี พุ่งชน จยย.เจ็บ 2 ราย จนเกิดกระแสวิจารณ์สนั่น

ความคืบหน้ากรณีนายชิษณุพงษ์ เครือจันทร์ หรือ เอ็ม อายุ 29 ผู้ต้องสงสัยซึ่งถูกวิสามัญเสียชีวิตพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังขับรถยนต์กระบะทะเบียน บบ – 1233 ภูเก็ต แหกด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต และมีการเฉี่ยวชนรถของประชาชน ที่จอดติดสัญญาณไฟแดง บริเวณสามแยกโรงไฟฟ้า หลังเกิดเหตุตรวจสอบพบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่งภายในรถ โดย จนท.ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องกระทำการดังกล่าว เนื่องจากนายชิษณุพงษ์ มีอาวุธปืน และเล็งมาทาง จนท. โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อวานนี้ (22 ก.ย. 61) นายอรุณ เครือจันทร์ บิดา ได้แห่โลงศพของนายชิษณุพงษ์ ออกจากวัดอนุภาษกฤษฎาราม (วัดเก็ตโฮ่) อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มายังบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุ และขอให้ย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง

โดยนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยพล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมารับเรื่อง พร้อมให้ตัวแทนเขียนคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษร กับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำธงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อทางจังหวัดจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

และทาง พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รับปากจะดำเนินการสั่งย้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครตำรวจทั้ง 9 นายที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ ซึ่งภายหลังเขียนคำร้องแล้วเสร็จ ทางบิดาและญาติๆ ก็ได้เคลื่อนขบวนรถบรรทุกโลงศพไปไว้ที่วัดกะทู้ อ.กะทู้ เพื่อรอผลการสอบสวน

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 23 ก.ย. 61 พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้เซ็นคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทีมปฏิบัติการในครั้งนี้ซึ่งมีจำนวน 7 นาย (สัญญาบัตร 3 นาย ชั้นประทวน 4 นาย) ออกนอกพื้นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนอาสาสมัครตำรวจซึ่งเป็นภาคประชาชน ได้มีการเซ็นคำสั่งให้หยุดปฏิบัติงานแล้วเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนในการสืบสวนข้อเท็จจริงต่างๆ ตามกระบวนการต่อไป และในวันอังคารที่ 25 ก.ย.นี้ ก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครตำรวจทั้ง 9 นาย ฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” เพื่อให้เข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

ส่วนกรณีที่นายชิษณุพงษ์ ผู้ตาย ได้ขับรถหลบหนี และได้พุ่งชนรถ จยย.ที่จอดติดสัญญาณไฟแดงอยู่นั้น พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวว่า จากภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า การขับรถพุ่งชนผู้ที่จอดติดไฟแดงเพื่อหลบหนี ซึ่งถือเป็นเจตนา และเหตุการณ์ดังกล่าวก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย  โดย 1 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และอีก 1 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย  ซึ่งได้มีการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว ก่อนที่จะมีการรวบรวบพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งทำการโพสต์คลิปวีดิโอ จำนวน 3 คลิป พร้อมข้อความระบุว่า “พอได้เเล้วต่ะ กับคำว่า ‘ลูกฉาน (ฉัน) เป็นคนดี’ ก่อนจะเรียกร้องหาความเป็นธรรม ลองย้อนดูสิ่งที่ลูกตัวเองทำให้ดีเสียก่อน”

ซึ่งในคลิปดังกล่าวเป็นภาพขณะที่นายชิษณุพงษ์ ผู้ตาย ได้ขับรถหลบหนีเจ้าหน้าที่ และพุ่งชนรถ จยย.ที่จอดรอสัญญาณไฟจราจร บริเวณหน้าโรงไฟฟ้าฯ ถนนเทพกระษัตรี ฝั่งขาออกนอกเมืองภูเก็ต ต.รัษฏา อ.เมืองภูเก็ต จนทำให้มีผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และจอดติดไฟแดงอยู่ได้รับบาดเจ็บหลายราย

นอกจากนั้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า จีรวัฒน์ แซ่จิ้ว ก็ได้โพสต์เหตุการณ์ขณะรถกระบะของนายชิษณุพงษ์พุ่งชนรถ จยย.พร้อมระบุข้อความว่า “อีกมุมมองของเหตุการณ์ ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรม คนโดนชนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิดของคุณ #คนแหกด่านไม่หลบ #ไม่ลดความเร็ว #ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของคนอื่น#สังคมต้องยอมรับความจริง #ไม่ใช่เพื่อใครบางคนและกลุ่มคนบางกลุ่ม”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ญาติเเห่ศพ หนุ่มขับรถเเหกด่าน โดนวิสามัญ ร้องขอความเป็นธรรม

วิสามัญ หนุ่มซิ่งกระบะแหกด่าน ตร.เผย พยายามต่อสู้ ขัดขืนการจับกุม

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า