กางสถิติเปรียบ “เทียบไทยกับทั่วโลก” ทำงานกี่ชั่วโมงถึง “ขึ้นรถไฟฟ้า” ได้หนึ่งเที่ยว

ค่ารถไฟโดยสารในเขตเมืองของประเทศอื่นเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ

ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ค่ารถไฟใต้ดิน(รวมรถเมล์ เรือ รถรางในระบบ) มีราคาแค่เที่ยวละ 1.90 ยูโร[1] ตลอดสาย หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 71 บาท ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำกำหนดไว้ที่ชั่วโมงละ 9.88 ยูโร[2] หรือประมาณ 370 บาท ดังนั้นคนฝรั่งเศสขึ้นรถไฟใต้ดินหนึ่งเที่ยวก็เท่ากับทำงานแค่ประมาณ 12 นาทีเท่านั้น

ที่ราคาถูกรองลงมาคือรถไฟใต้ดินของเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ราคาเที่ยวละ 2.75 ดอลลาร์ตลอดสาย หรือประมาณ 91 บาทไทย [3] เทียบกับค่าแรงขั้นต่ำประมาณ 12 ดอลลาร์[4] (395 บาท) ต่อชั่วโมง หมายความว่านั่งทำงานเพียง 14 นาทีก็คุ้มค่าเดินทางไปทำงานแล้ว

กรุงโซล ประเทศเกาหลี แม้จะมีค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมงน้อยกว่าประเทศในโลกพัฒนาอื่น ๆ แต่ค่ารถไฟก็ต่ำสอดคล้องตามไปด้วย โดยรัฐบาลเกาหลีกำหนดค่าแรงขั้นต่ำไว้ที่ชั่วโมงละ 7,530 วอน [5] หรือประมาณ 221 บาท ส่วนราคารถไฟฟ้าใต้ดินของกรุงโซลเกาหลีใต้คิดจากระยะทางใกล้-ไกล โดยราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,250 วอน (ประมาณ 37 บาท) และสูงสุดที่ 3,250 วอน [6] (ประมาณ 96 บาท) คิดเป็น 17-43% ของค่าแรงที่ได้จากการทำงาน 1 ชั่วโมง หรือทำงาน 10-26 นาทีก็จะได้ค่ารถไฟ 1 เที่ยว

รัฐบาลกลางประเทศออสเตรเลียตั้งค่าแรงขั้นต่ำไว้ที่ 18.93 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อชั่วโมง [7] (ประมาณ 457 บาท) ขณะที่ค่ารถไฟใต้ดินมีราคา 3.54-10.60 ดอลลาร์ออสเตรเลีย [8] (ประมาณ 85-256 บาท) หากจะนั่งรถไฟ 1 เที่ยว ก็ต้องทำงานแค่ 12-36 นาทีเท่านั้น

ค่าแรงขั้นต่ำกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษคือ 7.83 ปอนด์ (331 บาท) ต่อชั่วโมง [9] ส่วนค่ารถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ที่ 2.80-£6.00 ปอนด์ (119-253 บาท) [10] หากทำงาน 22-46 นาทีก็สามารถขึ้นรถไฟใต้ดิน 1 เที่ยวได้แล้ว

รัฐบาลไทยกำหนดค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เมื่อคิดกับชั่วโมงทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันแล้ว ตกที่ชั่วโมงละ 37.5 บาท ส่วนค่ารถไฟฟ้าที่ให้บริการภายในกรุงเทพและปริมณฑล ราคาถูกที่สุดอยู่ที่สายสีน้ำเงิน-สายสีม่วง เริ่มต้นที่ 16 บาท และราคาแพงที่สุดก็อยู่ในสายเดียวกันโดยมีราคา 70 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วมฯ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2561 เทียบกันแล้ว คนไทยต้องทำงานอย่างน้อย 26 นาทีจึงจะได้นั่งรถไฟฟ้าในราคาตั๋วถูกสุด และหากต้องการจะเดินทางระยะไกลในราคาแพงสุด ก็ต้องทำงานนานถึง 1 ชั่วโมง 48 นาที

ทั้งนี้การเดินทางระยะไกลของไทยไม่ได้แพงที่สุด เนื่องจากรถไฟฟ้าของโตเกียวแพงกว่า จากการสืบค้นและเทียบราคารถไฟฟ้าสายโถะเอ JR และโตเกียวเมโทร พบว่าราคาสูงที่สุดอยู่ที่สาย JR โดยมีราคาถึง 3,132 เยนหรือ 913 บาท ซึ่งคนญี่ปุ่นที่ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 958 เยนต่อชั่วโมง (ประมาณ 279 บาท)[11] ต้องทำงานถึง 3 ชั่วโมง 12 นาที จึงจะจ่ายได้ หากเดินทางไปกลับเป็นประจำก็เท่ากับ 80% ของการทำงานหมดไปกับค่ารถไฟทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาเริ่มต้นของรถไฟฟ้าญี่ปุ่นก็จัดว่าถูกมาก โดยเริ่มแค่ 133 เยน (39 บาท) ซึ่งเท่ากับการทำงานเพียง 9 นาทีเท่านั้น

[1] https://www.parisinfo.com/…/se-depla…/tarifs-pass-reductions
[2] http://www.smic-horaire.com
[3] http://web.mta.info/metrocard/mcgtreng.htm
[4] https://www1.nyc.gov/site/dca/about/minimum-wage.page
[5] http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20180714000027
[6] https://www.metro9.co.kr/site/homepage/menu/viewMenu…
[7] https://www.fairwork.gov.au/…/minimum-workpla…/minimum-wages
[8] https://transportnsw.info/tick…/…/fares-payments/adult-fares
[9] https://www.gov.uk/national-minimum-wage-rates
[10] https://www.londontoolkit.com/briefing/underground.htm
[11] https://asia.nikkei.com/…/Japan-lifts-minimum-wage-again-as…