ภัยนักวิ่ง พกกุญแจผี 18 ดอกไล่ไขรถงานวิ่งการกุศล

วันที่ 8 ก.ย. ร.ต.อ.สุรินทร์ แคนชัย รอง สวป. ทำหน้าที่ร้อยเวร 20 (สายตรวจ) สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจชุมชน ต.หนองปลาไหล ว่ามีเหตุคนร้ายลักทรัพย์ในรถยนต์ของนักวิ่งการกุศล งานของผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนักวิ่งจากที่ต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมนับพันคนและนำรถมาจอดไว้ บริเวณลานจอดรถ ร.ร.วัดพระพุทธฉาย

ตำรวจไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบเจ้าหน้าที่ตำรวจและอปพร.ตำบลหนองปลาไหล ยืนควบคุมตัวนายปรีชา อุ่นอารมณ์ อายุ 69 ปี ตรวจค้นพบว่ามีกระเป๋าใบเล็กสีเขียว ด้านในมีลูกกุญแจชนิดต่างๆ ที่ใช้กับรถได้หลายยี่ห้อจำนวน 18 ดอก

สอบสวนนายปรีชา ให้การวกไปวนมาว่า ตนเองมาจาก จ.ลพบุรี จะไป กทม. ระหว่างทางมีผู้ชายขออาศัยมางานวิ่งการกุศล ที่วัดพระพุทธฉาย ตนจึงรับนั่งมาในรถด้วย พอรถถึงวัดชายที่นั่งมาด้วยก็เดินหายไปในงาน ส่วนตนเองก็เดินวนไปมาในที่จอดรถ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อพปร.มาเชิญตัวมาสอบถามและขอดูรถของตน ซึ่งเป็นรถยนต์ฮอนด้า 5 ประตูสีเทา ทะเบียน กทม. แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจดูสิ่งของในรถไม่พบหลักฐานเป็นทรัพย์สินอะไร

ด้านผู้ร่วมงานวิ่งรายหนึ่งในข้อมูลว่า ขณะตนเองนั่งพักผ่อนอยู่เห็นชายคนนี้เดินวกไปวนมา มองซ้ายทีขวาที แล้วใช้กุญแจในกระเป๋าสีเขียวไขประตูรถด้านขวามือที่จอดอยู่ ไขอยู่หลายครั้งจนสามารถเปิดประตูรถคันดังกล่าวได้ แล้วก็หยิบเอากระเป๋าสีเทาออกมาจากรถแล้วเดินหายไป ตนไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าเป็นรถของชายคนดังกล่าวเองและตนจะต้องไปร่วมพิธีปล่อยตัวนักวิ่งให้ทันเวลา

ต่อมาเมื่อบรรดานักวิ่งการกุศลรู้ข่าวว่ามีเหตุคนร้ายลักทรัพย์รถนักวิ่งในงาน จึงรับกลับไปที่รถตัวเองที่จอดทิ้งไว้ มี 2 รายพบมีร่องรอยประตูรถถูกเปิดออกรื้อค้นทรัพย์สินจึงเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าทรัพย์สินในรถหายไป ร.ต.อ.สุรินทร์ พร้อมกำลังจึงควบคุมตัวนายปรีชาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ดำเนินคดี และแนะนำผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองสระบุรีด้วยเช่นกัน

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายปรีชาออกไปแล้ว นายยุทธ ปานภา เจ้าพนักงานป้องกัน อบต.หนองปลาไหล ที่นำ อพปร.มาช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักวิ่ง ได้นำกำลัง อปพร.ออกตรวจค้นหาหลักฐานบริเวณใกล้เคียงที่จอดรถนายปรีชา เจ้าหน้าที่ อปพร.พบกระเป๋าสีเทา 1 ใบวางอยู่ใกล้ต้นไม้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเก็บกระเป๋าไปคาดว่าอาจจะเป็นของผู้เสียหายที่คนร้ายลักเอามารื้อค้นทรัพย์สินแล้วนำกระเป๋ามาโยนทิ้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่านายปรีชา คนร้ายรายนี้น่าจะไม่ได้ลงมือเพียงคนเดียว โดยเมื่อได้ทรัพย์สินแล้วอาจส่งต่อหรือมอบให้เพื่อนร่วมแก๊งนำทรัพย์สินนั้นหลบหนีไปก่อนแล้วจึงไม่พบหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนขยายผลต่อไป