แนะนำตัว ‘workpointTODAY’ สำนักข่าวที่ตั้งใจทำงานเพื่อให้วันนี้ดีกว่าเมื่อวาน

workpointTODAY สาระและความรู้ เพื่อวันนี้ที่ดีกว่าเมื่อวาน

ถึงคุณผู้อ่านทุกท่าน
เพจ Workpoint News ถือกำเนิดเป็นครั้งแรกในวันที่ 4 มกราคม 2557 เป้าหมายของเรา ณ เวลานั้น คือต้องการนำเสนอข่าวที่สด ใหม่ และสร้างความรู้ให้กับคนอ่าน โดยเราทุ่มเทเต็มที่ เพื่ออัพเดทข่าวสารครบถ้วนทุกแง่มุม ทั้งข่าวในประเทศ ข่าวต่างประเทศ เล่าตั้งแต่เรื่องข่าวสังคมไปจนข่าวที่ทันกระแสโลก

ด้วยความสนับสนุนที่ดีจากผู้อ่านทุกท่าน Workpoint News ค่อยๆเติบโตช้าๆอย่างมั่นคง เรามียอดฟอลโลเวอร์ถึง 2 ล้าน ในเดือนมิถุนายนปี 2561 จากนั้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ก็เพิ่มเป็น 4 ล้านฟอลโลเวอร์ แต่สิ่งที่เราคิดว่าสำคัญมากกว่ายอดผู้ติดตาม คือทุกๆข่าว ที่นำเสนอไป จะมีผู้อ่านเข้ามาแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างมากมาย ซึ่งเรายินดีมากที่ได้เป็นสื่อกลาง ที่ทุกคนเข้ามาแชร์ความคิดเห็นกันแบบนี้
เมื่อ Workpoint News มีอายุได้ 4 ปี ในช่วงต้นเดือนมกราคม เราค้นพบข้อสังเกตอย่างหนึ่ง คือคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมของเรา ไม่ได้มีเพียงแต่ “ข่าว” เท่านั้น แต่คอนเทนต์เชิงลึก ในลักษณะของบทความ และสกู๊ป ก็ได้รับความสนใจไม่ด้อยไปกว่ากัน

บทความขนาดยาวที่โพสต์ลงเฟซบุ๊กเรื่อง “สงครามโลกครั้งที่ 3 สรุปสหรัฐ vs อิหร่าน แบบเข้าใจง่าย” ที่มีความยาว 10 หน้า A4 แม้จะดูเหมือนยาวก็จริง แต่กลับมีคนอ่านจำนวนมาก และมีคนแชร์ถึงเกือบ 1 แสนครั้ง
หรืออย่างสกู๊ปวิดีโอชื่อ “อธิบายไวรัสโควิด-19 ใน 5 นาที” ที่อธิบายจุดเริ่มต้น และรูปแบบการแพร่กระจายของโคโรน่าไวรัส มีคนดูถึง 9.5 ล้านวิว
เรื่องเหล่านี้ เป็นเนื้อหาความรู้ที่ไม่ใช่แค่การนำเสนอข่าวเท่านั้น แต่เป็นการนำประเด็นข่าว เอามาอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างละเอียด ชัดเจน

นอกจากสกู๊ปที่เชื่อมโยงกับข่าวแล้ว ยังมีบางคอนเทนต์ที่ไม่ใช่เรื่องในกระแสแต่แน่นด้วยความรู้ อย่างเช่น “ฟัง ดร.พีรภัทร ฝอยทอง อธิบายเกี่ยวกับการกู้เงินแบบง่ายๆ” โดย ดร.พีรภัทร มาเล่าให้ฟังว่า ทำไมผ่อนบ้าน 10,000 บาท แต่หักเงินต้นแค่ 1,000 บาท ที่เหลือเป็นดอกเบี้ยหมด แล้วทำอย่างไร เราถึงจะผ่อนบ้านหมดเร็วกว่าปกติ โดยวีดีโอนี้มีผู้ชมทั้งสิ้น 4.3 ล้านวิว ซึ่งสำหรับผู้จัดทำ เรารู้สึกว่า ถ้าหากมีคนจำนวนหนึ่งใน 4.3 ล้านวิว เอาแนวคิดของ ดร.พีรภัทรไปปรับใช้ แล้วมันทำให้เขาผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น ก็ถือว่าวีดีโอชิ้นนี้บรรลุเป้าหมายของมันแล้ว
เช่นเดียวกับวีดีโอเรื่อง “ยาชุด ซองยามรณะ ยิ่งกิน ยิ่งใกล้ตาย” อธิบายเรื่องความอันตรายของยาชุดซองละ 10 บาท ราคาถูก แต่อันตรายมาก ซึ่งวีดีโอนี้มีคนดู 10.5 ล้านวิว ซึ่งเราก็คิดเช่นกัน ว่าถ้ามีคนที่ได้ดูวีดีโอนี้ แล้วสามารถเอาความรู้จากแพทย์ไปบอกคนใกล้ตัวให้เลิกกินยาชุดได้ เราก็ถือว่า วีดีโอชิ้นนี้สิ่งที่เราสร้างขึ้น ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์แล้ว
เมื่อเราย้อนดูคอนเทนต์ ของ Workpoint News เราจึงรู้สึกว่า สิ่งที่เราอยากเล่า อยากแชร์ คือเรื่องสาระ ความรู้ และแนวคิดต่างๆ ไม่ใช่แค่ “ข่าว” เพียงอย่างเดียวอีกแล้ว
ในทุกวันนี้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน แค่การ “รู้ข่าว” อย่างเดียว ไม่เพียงพอ แต่ต้อง “เข้าใจข่าว” และ “รู้เท่าทัน” สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ด้วย เพราะชีวิตของเราไม่ใช่แค่ตามข่าว แต่ชีวิตของเรา คือการตอบคำถามว่า เราจะทำอย่างไร ให้วันนี้ดีกว่าเมื่อวาน
Workpoint News นับจากวันนี้เป็นต้นไป เราจะรีแบรนด์ และเปลี่ยนชื่อเป็น workpointTODAY โดยมีสโลแกนว่า What Works TODAY (สิ่งที่เวิร์คสำหรับวันนี้) โดยจะเน้นข่าวสารทั้งไทย และต่างประเทศ มิติข่าวเชิงลึก การเมือง ธุรกิจ เศรษฐกิจ โดยเราเตรียมพร้อมทั้งบทความ บทสัมภาษณ์ วีดีโอ และ Podcast ที่มั่นใจว่าจะตอบโจทย์ของคนตามข่าวสารออนไลน์ ในยุคปัจจุบัน โดยทีมผู้จัดทำ ยังคงเป็นทีมนักข่าวจาก Workpoint News ที่การันตีความน่าเชื่อถือเช่นเคย

เรามีสกู๊ปสรุปประเด็นในกระแส เพื่ออธิบาย ถึงประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นในสังคม ภายใต้ชื่อคอลัมน์ Explainer เพื่อช่วยทำความเข้าใจสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นในแต่ละวัน ทั้งในรูปแบบของวีดีโอ และงานเขียน โดย Explainer นำทีมโดยบรรณาธิการ เอม-นภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์ เจ้าของทวิตเตอร์ @noppatjak และ วิศรุต สินพงศพร เจ้าของเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง
นอกจากนั้น สำหรับประเด็นข่าวที่ต้องลงพื้นที่ เรายังทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ช่อง 23 ดังนั้นจึงมีคอนเทนต์ที่ครบเครื่อง ทั้งข่าวเชิงวิเคราะห์ และข่าวเชิงเจาะลึกที่ต้องลงภาคสนาม

ณ เวลานี้ workpointTODAY เรามียอดผู้ติดตามเพจ 4.2 ล้านคน (นับถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2563) มียอดรีช 35 ล้านต่อเดือน และ Engagement หรือการมีส่วนร่วมถึงเดือนละ 45 ล้าน
นอกจากแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊กแล้ว เรายังมีเว็บไซต์ , เว็บแบบ Interactive, มีแชนแนลยูทูบ ที่มีผู้ติดตาม 2 ล้านคน มีอินสตาแกรม, ทวิตเตอร์ และ TikTok ทุกช่องทาง พร้อมที่จะปล่อยคอนเทนต์ได้ในทุกรูปแบบ
ตัวเลขทุกยอดผู้ติดตาม ทีมงานขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริง แต่แน่นอนว่า เราไม่พอใจเพียงแค่นี้ เราจะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า โดยใช้กระบวนความรู้ทั้งหมดที่มี เป้าหมายของเราคือเติบโตไปพร้อมกับผู้อ่านทุกท่าน ก้าวต่อไปเพื่อวันนี้ที่ดีกว่าเมื่อวาน กับข่าวสารที่ลึกขึ้น ชัดเจนขึ้น และได้ประโยชน์กับชีวิต มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ตามปกติแล้ว ไม่บ่อยนักที่เพจข่าวจะตัดสินใจเปลี่ยนชื่อ แต่เราคิดว่า นี่คือเวลาที่เหมาะสมแล้ว ที่จะเปิดตัว workpointTODAY ให้ทุกคนได้รู้จัก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณผู้อ่านทุกท่าน จะรับ workpointTODAY เข้าไปอยู่ในใจอีกครั้ง

กองบรรณาธิการ workpointTODAY