SHARE

คัดลอกแล้ว

รู้หรือไม่ว่านอกจากเมล็ดกาแฟคุณภาพจากทั่วโลกแล้ว เมล็ดกาแฟที่ร้าน ‘สตาร์บัคส์’ (Starbucks) ในประเทศไทยขาย รวมถึง (อาจ) ชงเป็นเครื่องดื่มได้ในบางสาขา ยังมีเมล็ดกาแฟจากประเทศไทยเราเองด้วย

โดยเมล็ดกาแฟของไทยที่สตาร์บัคส์นำมาขายนั้นมีชื่อว่า ‘ม่วนใจ๋ เบลนด์’ เป็นเมล็ดกาแฟอราบิก้าจากพื้นที่ภาคเหนือของไทย ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานของสตาร์บัคส์

ที่น่าสนใจกว่าคือ ‘ม่วนใจ๋ เบลนด์’ ไม่ได้เป็นเพียงกาแฟไทยที่ถูกนำมาขายในร้านกาแฟระดับโกลบอลอย่างสตาร์บัคส์เท่านั้น แต่นี่ยังเป็นกาแฟ ที่ได้มีส่วนพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อมของชาวไทยส่วนหนึ่งไปด้วย

เรื่องนี้เป็นไปเป็นมาและน่าสนใจอย่างไร TODAY Bizview พาสำรวจเส้นทางของ ‘ม่วนใจ๋ เบลนด์’ ไปด้วยกัน

[ จุดเริ่มต้นจากการฉลองครบ 5 ปี ]

ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว หรือในปี 2546 สตาร์บัคส์ ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยครบ 5 ปี ก่อนที่จะถึงวันครบรอบ สตาร์บัคส์ก็เริ่มหาไอเดียสำหรับการฉลองครั้งสำคัญนี้

ตอนนั้นทีมงานและผู้บริหารสตาร์บัคส์ในไทยมองเห็นว่า ประเทศไทยเองก็มีพื้นที่ปลูกกาแฟอยู่ แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก

สตาร์บัคส์จึงเกิดไอเดีย นำเมล็ดกาแฟที่ปลูกในไทยมาขายในร้านในรูปแบบกาแฟคั่วบรรจุถุง เพื่อให้ลูกค้าสตาร์บัคส์ได้รู้จักกาแฟไทยมากขึ้น

[ ร่วมกับ ITDP เสาะหากาแฟชั้นดีในภาคเหนือ ]

ในปี 2545 เพื่อที่จะเสาะหากาแฟอราบิก้าชั้นดีในไทย สตาร์บัคส์ได้ร่วมกับ ‘องค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน’ (Integrated Tribal Development Program หรือ ITDP) ที่มี ‘อ.ไมค์ แมนน์’ เป็นผู้อำนวยการ ในการเริ่มสำรวจภาคเหนือของไทย เพื่อหากาแฟคุณภาพที่ได้มาตรฐานของสตาร์บัคส์

ถามว่าทำไมสตาร์บัคส์ ถึงมาร่วมกับ ITDP

เรื่องนี้ต้องเท้าความก่อนว่า ITDP นั้นเป็นหน่วยงานที่เข้ามาพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวเขาในทุกๆ ด้าน

ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ ITDP ทำ คือ การสนับสนุนให้ชาวเขาหันมาปลูกกาแฟแทนที่การปลูกฝิ่น ส่งเสริมจนเกิดการรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ ช่วยหาตลาดขายกาแฟให้ และนั่นก็ทำให้ ITDP รู้แหล่งปลูกกาแฟในภาคเหนือของไทยเป็นอย่างดี

อ.ไมค์ จึงเสนอเมล็ดกาแฟจากภาคเหนือของไทยให้สตาร์บัคส์ทดสอบ (ซึ่งต้องส่งไปทดสอบคุณภาพที่สตาร์บัคส์ในซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา)

ปรากฏว่าจากเมล็ดกาแฟ 15 ตัวอย่างที่ส่งไป ผ่านมาตรฐาน 5 ตัวอย่าง และสตาร์บัคส์ก็ทำสัญญาสั่งซื้อเมล็ดกาแฟเหล่านี้

กาแฟอราบิก้าที่ปลูกในหมู่บ้านแม่ขี้มูกน้อย จ.เชียงใหม่ ที่มี ITDP ส่งเสริมให้ปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่

[ กำเนิดเป็น ‘ม่วนใจ๋ เบลนด์’ ]

เมล็ดกาแฟอราบิก้าจากภาคเหนือของไทย ถูกส่งไปคั่วที่โรงคั่วของสตาร์บัคส์ในซีแอตเทิล ผสมผสานเข้ากับเมล็ดกาแฟจากหมู่เกาะอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก

เกิดเป็น ‘ม่วนใจ๋ เบลนด์’ โดยเป็นกาแฟคั่วกลางที่ให้รสชาติหนักแน่น นุ่มลึก มีกลิ่นของไอดินและธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่น

โดยเปิดตัวครั้งแรกในไทยเมื่อเดือนกันยายน 2546 ก่อนที่ในปีถัดมาจะเริ่มนำไปขายในช่วงเทศกาลในต่างประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, ไต้หวัน และฮ่องกง

สตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์ ในแพคเกจจิ้งปัจจุบัน

ที่น่าสนใจ คือ ม่วนใจ๋ เบลนด์ นั้นเป็นกาแฟที่ผ่านการรับซื้อในราคายุติธรรม มีการตกลงราคาร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย และมุ่งเน้นการซื้อแบบระยะยาว

สตาร์บัคส์เองก็กำหนดว่า กาแฟที่ปลูกจะต้องไม่ใช้สารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง ยากำจัดศัตรูพืช และปุ๋ยเคมี เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้อุดมสมบูรณ์ และรักษาแหล่งน้ำใต้ดินให้สะอาด

กาแฟต้องปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ตามธรรมชาติ (Shade-Grown) ซึ่งหมายถึงการทำไร่กาแฟให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า

ซึ่งล่าสุด กาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ ได้ผ่านการรับรอง C.A.F.E. Practices (Coffee and Farmer Equity Practices) ซึ่งเป็นมาตรฐานในการรับซื้อเมล็ดกาแฟระดับสูงของสตาร์บัคส์ ที่ชาวไร่ผู้ปลูกกาแฟต้องปฏิบัติตามแนวทางที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่สตาร์บัคส์กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

[ ไม่ใช่แค่รับซื้อ แต่ขอดูแลชุมชนไปด้วย ]

นอกจากม่วนใจ๋ เบลนด์ จะเป็นการพากาแฟอราบิก้าชั้นดีของไทยไปให้ผู้คนรู้จัก โดยมีสตาร์บัคส์เป็นตราการันตีคุณภาพแล้ว

กาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ ยังเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ทำให้สตาร์บัคส์และผู้คนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาในภาคเหนือด้วย

โดยรายได้ 5% ที่ได้จากการขายกาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ จะนำไปใช้ในการปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่กาแฟในภาคเหนือให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ระบบชลประทาน การศึกษา และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

ถามว่าอะไรบ้างที่สตาร์บัคส์เข้ามาช่วยพัฒนา ลองมาดูกัน

-ปี 2550 สตาร์บัคส์พาพาร์ทเนอร์ หรือพนักงาน มาร่วมสร้างสถานีอนามัยให้ชุมชนหมู่บ้านห้วยส้มป่อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งให้บริการแก่ผู้คนในหมู่บ้านนี้และชุมชนใกล้เคียง กว่า 8 หมู่บ้าน รวมกว่า 1,000 คน

-ปี 2558 เริ่มสร้างโรงเรียนสำหรับชั้นอนุบาลและประถมที่หมู่บ้านแม่ขี้มูกน้อย จ.เชียงใหม่

ทีมงานสตาร์บัคส์ ประเทศไทย อ.ไมค์ แห่ง ITDP และเด็กๆ โรงเรียนบ้านขี้มูกน้อย จ.เชียงใหม่

แต่ถ้าให้พูดจริงๆ สตาร์บัคส์บอกว่ารายได้จากการขายม่วนใจ๋ เบลนด์ เพียงอย่างเดียวก็อาจไม่ได้เพียงพอในการพัฒนาชุมชนได้

นำมาสู่การเปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนที่สตาร์บัคส์หลังสวน ซึ่งเป็นร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store) แห่งแรกในเอเชียและนอกสหรัฐอเมริกา

โดยรายได้ 10 บาท จากการขายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้วในสาขานี้ จะนำมาสมทบกับรายได้ 5% จากการขายกาแฟม่วนใจ๋ แล้วมอบให้ ITDP ไปพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟนั่นเอง

ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ สตาร์บัคส์ได้บริจาคเงินไปแล้วกว่า 8,000,000 บาท

[ ม่วนอ๊กม่วนใจ๋ทั้งผู้ให้และผู้รับ ]

ต้นปี 2566 สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ได้เปิดทริปพาพาร์ทเนอร์และสื่อมวลชนขึ้นไปเยี่ยมเยือน ‘โรงเรียนบ้านขี้มูกน้อย’ อีกครั้ง

เท่าที่สังเกต นอกจากชุมชนในละแวกนี้จะมีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานครบ คือมีไฟฟ้า ประปา ถนนที่รถสี่ล้อวิ่งได้ มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต

โรงเรียนบ้านแม่ขี้มูกน้อยก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันมีนักเรียนราว 100 คนแล้ว และกำลังจะมีอาคารเรียนหลังใหม่เพิ่มเพื่อรองรับนักเรียนชั้นมัธยม

สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ยังคงพาพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) มาเยี่ยมเยือน และสานต่อการพัฒนาโรงเรียนบ้านขี้มูกน้อย

และในอนาคตอีก 2-3 ปี ITDP คาดว่าก็จะสามารถส่งมอบโรงเรียนแห่งนี้ให้ไปอยู่ในการดูแลของภาครัฐของไทยได้

ส่วนสตาร์บัคส์เอง จนถึงปัจจุบัน พาร์ทเนอร์สตาร์บัคส์กว่า 1,200 ชีวิต ได้มีโอกาสมาสัมผัสวิถีชีวิตชาวไร่กาแฟ ร่วมพัฒนาชุมชนชน ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนกับชาวไร่ และนำเรื่องราวของม่วนใจ๋ เบลนด์ กลับมาบอกต่อให้กับเพื่อนร่วมงานและลูกค้าได้ฟังได้อย่างภาคภูมิใจ

ขณะที่ม่วนใจ๋ เบลนด์ ทุกวันนี้นอกจากจะขายในรูปแบบกาแฟคั่วบรรจุถุงซึ่งวางขายในทั้ง 400 สาขาของสตาร์บัคส์ในไทยแล้ว ก็ยังมีการนำเมล็ดกาแฟอันน่าภาคภูมิใจนี้มาชงเป็นเครื่องดื่มในกว่า 40 สาขาของสตาร์บัคส์ในไทยด้วย

โดยลูกค้าสามารถแจ้งกับบาริสต้า ว่าขอเครื่องดื่มที่ชงด้วยเมล็ดกาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ ซึ่งสตาร์บัคส์มีแผนขยายสาขาในส่วนนี้เพิ่ม

และนี่คือเส้นทางของม่วนใจ๋ เบลนด์ท้ายที่สุดก็เพื่อให้คอกาแฟได้สัมผัสรสชาติกาแฟที่มีคุณภาพของบ้านเราเอง และหมุนเวียนรายได้กลับมาดูแลชุมชนให้เข้มแข็ง มีชีวิตที่ดี และเติบโตได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน

อ่านเรื่องราวน่าสนใจเพิ่มเติม:

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า