‘เริ่มจากศูนย์’ ไม่ง่าย แต่ไม่ใช่ทำไม่ได้

ไม่ได้เรียนเก่ง ไม่ได้จบมาจากโรงเรียนหรือมหาลัยฯ ชื่อดัง ไม่ได้มีคอนเน็กชั่นเพื่อนฝูงที่รู้จักกันมากมาย แถมรอบตัวนั้นก็มีแต่ความกดดันเต็มไปหมด แต่ถ้าวันหนึ่งเราอยากเอาชนะความกดดันรอบตัว เปลี่ยนตัวเองให้มั่นใจจนประสบความสำเร็จในชีวิตได้ต้องทำยังไงนะ? 

เมื่อบางทีต้นทุนอาจไม่ใช่ทุกอย่าง การมีต้นทุนโดดเด่น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้ใครสักประสบความสำเร็จได้ก็คือ ‘ความมั่นใจ’ ในการลงมือทำอะไรสักอย่างหนึ่งนั่นเอง และวันนี้เราเลยขอชวนไปถอดบทเรียนกว่าจะมีความมั่นใจของ หญิง-อรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและองค์กรสัมพันธ์ ลอรีอัล เพื่อค้นหาอีกหนึ่งความเป็นไปได้ของการประสบความสำเร็จ และเติบโตขึ้นเป็นผู้นำที่ก้าวผ่านอีโก้ 

#ไม่สู้ด้วยต้นทุน แต่สู้ด้วยผลงาน

การไม่ได้จบจากมหา’ลัยฯ ที่มีชื่อเสียง แต่ต้องอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่เป็นผลผลิตจากมหา’ลัยฯ ชั้นนำทั้งในและนอกประเทศ ย่อมเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกกดดันตัวเอง แต่มันก็อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะใช้ความกดดันนี้ไปใช้ในทิศทางไหนของชีวิต 

ซึ่งคุณหญิงเองก็ได้เล่าถึงเรื่องราวในช่วงเริ่มทำงานใหม่ๆ ต้องพบเจอกับเพื่อนร่วมงานที่จบจากมหาลัยชื่อดังจนกลายเป็นความกดดันและตั้งคำถามกับตัวเองเล็กน้อย ก่อนที่เธอเลือกจะเปลี่ยนความกดดันเหล่านี้ มาเป็นแรงขับเคลื่อนในชีวิต

โดยมองว่า ในเมื่อตัวเองไม่ได้มีต้นทุนที่ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกว่าเป็นคนเก่ง เธอก็ต้องพิสูจน์ความสามารถของตัวเองด้วยผลงาน นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอมีความคิดที่จะพิสูจน์ว่าตัวเองทำสำเร็จได้ และสามารถแข่งขันได้ทัดเทียมกับคนเก่งๆ อีกมากมาย

แน่นอนแค่ความคิดมันไม่พอ เพราะสิ่งที่จะบอกว่าใครทำงานได้ดีแค่ไหน ย่อมเป็นผลลัพธ์ของงาน คุณหญิงมุ่งมั่นทำงานในสายงานที่หลากหลาย เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานทั้งในบริษัทสัญชาติไทย และต่างประเทศ สร้างองค์ความรู้ของตัวเองผ่านทุกโอกาสที่เข้ามา เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองดีพอสำหรับทุกโอกาสที่จะได้รับมาหลังจากนี้ 

คุณหญิงเล่าว่าตัวเองไม่เคยปล่อยให้โอกาสที่ผ่านเข้ามาหลุดมือไป หากมีโอกาสได้ลอง เธอจะใช้ความพยายามทั้งหมดทำอย่างเต็มที่ และในที่สุด ความพยายามก็ไม่ทอดทิ้งเธอ คุณหญิงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงในองค์กรระดับนานาชาติ จากคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองกลายเป็นคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งเรื่องหลักการทำงาน รวมถึงหลักการใช้ชีวิต 

เธอเชื่อเสมอว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ จงทำทุกวิถีทางให้ทุกๆ ครั้งที่เรามองคนในกระจก แล้วรู้สึกมั่นใจในตัวคนคนนั้น เพราะคนที่อยู่ในกระจกก็คือตัวคุณเอง แล้วเมื่อไหร่ที่คุณไม่เชื่อมั่น ไม่เชื่อใจตัวคุณเอง จะมาหวังให้คนอื่นๆ เชื่อในตัวคุณได้อย่างไร เพราะฉะนั้นจงใช้ชีวิตในเส้นทางที่จะทำให้คุณภูมิใจในตัวเอง แล้วเมื่อนั้น ไม่ว่าอุปสรรคอะไรจะเข้ามา คุณก็จะเอาชนะมันได้ทั้งหมด

#กล้าที่ทำแม้อาจผิดพลาดและอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป

แน่นอนสำหรับคุณหญิงความคิดที่กล้าที่จะลองทำอะไรสักอย่างดู ไม่ได้เกิดแค่กับโอกาสใหม่ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ยังรวมไปถึงการกล้าที่จะลองทำในสิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจหรือไม่เคยทำด้วย เพราะถึงมันอาจผิดพลาดไปบ้าง แต่การลองพยายามทำ พยายามเอาชนะความกังวลใจ ก็อาจพาคนที่พยายามคนนั้นไปสู่อีกจุดหมายหนึ่งได้เหมือนกัน

ตัวคุณหญิงเลือกที่จะใช้วิธีกำหนดเป็น KPI ประจำปีของตัวเอง สร้างประสบการณ์ที่ดูห่างจากความเคยชินของตัวเอง และผลักตัวเองไปสู้จุดใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะทำในสิ่งนั้นได้ขึ้นมา เช่น หากเคยเป็นคนที่กลัวการพูดในที่สาธารณะ ก็จนฝืนพาตัวเองออกจาก comfort zone แล้วไปยืนบนเวทีสักครั้ง หากทำแบบนั้นบ่อยเข้า สิ่งที่เคยยาก ก็อาจกลายเป็นความเคยชินหนึ่งของเราไปโดยไม่รู้ตัว

แต่ถึงอย่างนั้น หากได้ลงมือทำไปแล้ว แต่ยังติดอยู่กับความรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ดีพอ ก็อย่าโทษตัวเอง ให้พกคำว่า ‘Empathy’ ติดใส่กระเป๋าไปด้วยเสมอ จงอย่ากดดันตัวเองจนกลายเป็นการทำร้ายตัวเอง เรียนรู้ที่จะเข้าใจและรักตัวเองให้มากๆ เมื่อไหร่ที่ร่างกาย และหัวใจเราพร้อม มันจะพาเราไปยังจุดที่เราต้องการได้อย่างสง่างามที่สุด

#EGO ไม่ใช่ทุกอย่าง

แม้ว่าในวันนี้ คุณหญิงจะประสบความสำเร็จและก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากมากมายมาได้แล้ว แต่ก็ใช่ว่าบทเรียนในชีวิตจะจบลงไปเสียทีเดียว ตราบใดที่โลกยังก้าวไปข้างหน้า การยึดติดอยู่กับผลงานที่สำเร็จในอดีตอาจกลายเป็นสิ่งที่ถ่วงคุณจากการพัฒนาตัวเอง

คุณหญิงเข้าใจความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้เธอเลือกที่จะไม่ยึดติดกับการทำงานแบบเดิมเสมอไป และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากคนรุ่นใหม่อยู่ตลอด จากนั้นก็นำองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่ได้รับมาปรับเข้ากับประสบการณ์ที่เธอเรียนรู้มา เพื่อให้ได้งานที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

คุณหญิงมองว่า แม้ในองค์กรเราจะตำแหน่งสูงกว่าหรืออาวุโสกว่า ก็ใช่ว่าเราจะสามารถทำทุกอย่างได้คนเดียว พนักงานทุกคนล้วนมีความสำคัญในฟังก์ชั่นใดฟังก์ชั่นหนึ่ง การเปิดใจรับฟังและเรียนรู้จากกันและกัน ในมุมหนึ่งมันคือการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พัฒนา และมองโลกได้กว้างมากยิ่งขึ้น

#มีพื้นที่ ให้คำชม แต่ไม่บงการ

นอกจากการเปลี่ยนไปของโลกแล้ว อีกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากคุณหญิงในฐานะหัวหน้า คือนอกจากภาระงานที่มากขึ้นแล้ว การดีลกับเหล่าลูกน้องหรือคนรุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมไอเดียและความคิดที่ต่างไปจากเดิมก็เป็นเรื่องพิถีพิถัน 

เมื่อต้องทำงานกับคนรุ่นใหม่ จงทำความเข้าใจลักษณะของเป็น ‘นักเรียนรู้โดยธรรมชาติ’ ของพวกเขา นี่คือกลุ่มคนที่เกิดมาพร้อมกับความกระหายที่จะเรียนรู้ ทดลองสิ่งใหม่ๆ และกล้าได้กล้าเสีย ดังนั้น เราในฐานะคนที่อาวุโสกว่า ต้องเปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้แสดงความคิดเห็นและรับฟังพวกเขา แต่ขณะเดียวกันก็ต้องหาวิธีป้องกันความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดโดยที่ไม่ให้พวกเขารู้สึกกดดันหรือรู้สึกโดนบงการ

คุณหญิงแชร์วิธีของตัวเองว่า ตัวเองจะมอบหมายงาน โดยให้ข้อมูล รายละเอียด และเวลาการทำงานอย่างชัดเจน รวมถึงบอกขอบเขตของสิ่งที่ช่วยได้และอาจช่วยไม่ได้ไปด้วย เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาตามมาภายหลัง เพราะเรื่องบางเรื่องถึงวันนี้จะยังทำไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในวันข้างหน้าจะไปไกลกว่านี้ไม่ได้เลย

ท้ายที่สุด หากมอบหมายงานไปแล้วผลงานออกมาไม่เป็นไปตามที่คิดก็บอกกล่าวตักเตือน แต่ถ้าผลงานออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ก็อย่าหวงคำชื่นชม อย่ากลัวทีมเหลิง การเติมพลังใจให้แก่กันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทีมขับเคลื่อนต่อไปได้

เวลาที่เราได้ยินว่า ‘ทำงานเป็นทีม’ มันอาจจะฟังดูเหมือนคำง่ายๆ ที่ใครๆ เขาก็ทำกัน แต่แท้จริงแล้วการทำงานเป็นทีมต้องใช้ทักษะค่อนข้างสูง ต้องรู้จักการผ่อนหนักผ่อนเบา การเปิดใจ การเชื่อมั่น การยินยอมและการแข็งกร้าวโดยไม่ให้กระทบจิตใจกันและกัน

การทำงานเป็นทีมไม่มีสูตรสำเร็จ มีแต่เรียนรู้ไปเรื่อยๆ แต่ก็ใช่ว่ามันจะยากเกินกว่าจะรับมือ ตราบใดที่เราพร้อมเปิดใจเรียนรู้และยอมรับความแตกต่าง คำว่า ‘ทีม’ จะไม่ได้มีความหมายว่า ‘ภาระ’ แต่เป็นสิ่งที่จะทำให้เราไปได้ไกลกว่าเดิม ทั้งเรื่องของความก้าวหน้าทางการงาน และการพัฒนาจิตวิญญาณการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ

ติดตามสัมภาษณ์ YouTube : https://youtu.be/F0_q_b14a-M?si=RBlQvCqplnxJ1ZEa