SHARE

คัดลอกแล้ว

จากกรณีคนร้ายที่เป็นทหารบุกเข้าชิงอาวุธในกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ก่อนนำไปก่อเหตุกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

วันที่ 9 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตอบคำถามที่ จ.นครราชสีมา เรื่องมาตรการการดูแลคลังอาวุธในค่ายทหารว่า เหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้หละหลวม แต่ผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคลังอาวุธ และชิงกุญแจมา

“นั่นเขาใช้อาวุธกับเจ้าหน้าที่ไง พอได้ปืนไปแล้วเอาปืนไปยิงเจ้าหน้าที่คลังอาวุธ ซึ่งมีกุญแจ มีเจ้าหน้าที่เฝ้า แล้วยิงคนนี้ตาย ไม่ใช่หละหลวมอะไรทั้งสิ้นเลย เขามีเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง มีขั้นตอนทั้งหมด คลังกระสุนมีคนดูแล มีเวรยาม ไม่ใช่ไม่มี ปล่อยว่างเปล่าที่ไหนเล่า”

ก่อนจะให้สัมภาษณ์อีกครั้ง หลังเดินกลับมาที่ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้าว่า จากการได้ไปฟังรายงานสรุป ก็ได้ให้คำแนะนำไปหลายอย่าง อาจจะบอกได้ว่าถ้าทำครบถ้วนแล้วอาจจะลดความรุนแรงได้มากกว่านี้หรือไม่ และเมื่อทำครบถ้วนแล้ว เพียงพอหรือยังจะต้องทำอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ตั้งแต่มาตรการดูแล ซึ่งแต่เดิมเคยเพียงพอ​ เช่น เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องกระสุน แต่วันนี้เขาถูกทำร้ายจนเสียชีวิต และถูกนำอาวุธออกมาได้ ตรงนี้เราต้องคิดใหม่ และหามาตรการฉุกเฉิน​ เพราะไม่เคยเกิดขึ้น มันเป็นเหตุการณ์สุดวิสัยไม่ปกติ

ด้านความเคลื่อนไหวของกองทัพ มีรายงานว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกมีหนังสือด่วนไปยังหน่วยทหารที่ขึ้นตรงให้ปฏิบัติตามระเบียบ 4 แนวทาง คือ 1.กองรักษาการณ์ของหน่วยต้องไม่มีกระสุนและไม่มีปืนกล 2.การปฏิบัติให้ถอดลูกเลื่อนออก ให้ผู้บังคับกองรักษาการณ์เป็นผู้เก็บรักษา 3.ส่วนหน่วยที่เป็นกำลังป้องกันชายแดน ให้ปฏิบัติตามระเบียบประจำหน่วย 4.ผู้บังคับหน่วยทุกระดับ ต้องกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า การดูแลรักษาอาวุธเป็นไปตามระเบียบ และมาตรการรักษาความปลอดภัย สถานที่เก็บอาวุธหรือสิ่งหวงห้ามมีระบบปิดล็อกและมีเวรยามเฝ้ารักษาการณ์

แต่กรณีที่เกิดขึ้นมีลักษณะพิเศษที่ไม่เคยพบมาก่อน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นกำลังพลที่ปฏิบัติงานในหน่วย เจ้าหน้าที่เวรรักษาการณ์อาจมีความคุ้นเคยและไม่คาดคิดว่าจะเข้ามาจู่โจม ทำร้าย ส่วนการเข้าถึงคลังเก็บอาวุธ ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่เวรรักษาการณ์ และยิงทำลายปลดล็อกกุญแจ จึงเข้าไปเอาของได้

โดยเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะพิสูจน์ทราบรายละเอียดอีกครั้ง และปรับเสริมมาตราการของกำลังพลกรณีเผชิญเหตุวิกฤติ

ส่วนระเบียบ 4 แนวทางของ ผบ.ทบ.นั้นขอิชี้แจงว่าเป็นเรื่องเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่ใช่การสั่งการใหม่หลังเกิดเหตุการณ์

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า