Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ผู้นำสหรัฐฯ ขอใช้กำลังทหารเป็นทางเลือกสุดท้าย ชี้ระเบิดและกระสุนไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ รวมถึงโควิด-19 พร้อมเพิ่มงบประมาณช่วยลดผลกระทบจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเป็น 2 เท่า ย้ำไม่ต้องการทำสงครามเย็นแต่อย่างใด

วันที่ 21 ก.ย. 2021 ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ขึ้นกล่าวในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ พร้อมนำสหรัฐฯ เข้าสู่ยุคใหม่ จบสิ้นการดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบ “อเมริกาต้องมาก่อน” จากสมัยของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ 

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า สหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของการใช้ “การทูตอย่างไม่หยุดยั้ง” โดยจะลงทุนในแนวทางใหม่ เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลก ปัญหาหลายอย่างไม่สามารถแก้ไขหรือพูดถึงได้ด้วยการใช้กำลังทหารเท่านั้น ระเบิดและกระสุนไม่สามารถป้องกันโควิด-19 และสายพันธุ์อื่นๆ ในอนาคตได้

ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้ยกตัวอย่างการถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นการยุติสงครามที่ดำเนินมา 20 ปี และเปลี่ยนมาใช้วิธีเจรจาทางการทูตแทน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนยังได้ประกาศว่าจะเพิ่มงบประมาณเป็น 2 เท่า ในส่วนที่สหรัฐฯ ใช้สนับสนุนชาติที่มีรายได้น้อยกว่า ในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ จากเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็น 11,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 3.8 แสนล้านบาท ภายในปี 2024

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีไบเดนไม่ได้กล่าวถึงประเด็นที่เป็นปัญหากับชาติพันธมิตร อย่างเช่นความวุ่นวายที่เกิดจากการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน รวมถึงประเด็นล่าสุดอย่างการก่อตั้งพันธมิตร Aukus ขึ้น พร้อมส่งมอบเทคโนโลยีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ให้แก่ออสเตรเลีย ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับฝรั่งเศสที่โดนยกเลิกสัญญาส่งมอบเรือดำน้ำที่เซ็นกันไว้ตั้งแต่ปี 2016

อีกเรื่องที่ผู้คนจับตาดูคือปัญหาระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ทาง อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ออกมาแสดงความกังวลก่อนหน้านี้ ว่าอาจก่อให้เกิดสงครามเย็นได้

เรื่องนี้ ประธานาธิบดีไบเดนไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศจีนโดยตรง โดยได้ย้ำชัดว่า เขาไม่ต้องการสงครามเย็น สหรัฐฯ พร้อมที่จะร่วมมือกับทุกประเทศ แม้จะมีความขัดแย้งกันในบางเรื่องก็ตาม

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า