รอง ผบ.ตร. ยันมือยิงรถบิ๊กโจ๊กใช้ปืนเก่ง พบกระสุนเข้าข้างรถ 8 นัด

ความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงรถยนต์ส่วนตัวของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะจอดในซอยสาริกา ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก เพื่อไปใช้บริการนวดเพื่อสุขภาพ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.
.
วันที่ 7 ม.ค. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน ทั้งตำรวจสืบสวนนครบาล, ตำรวจสืบสวนนครบาล 6, สน.บางรักและสน.ปทุมวัน โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อแบ่งงานกันไปลงพื้นที่สืบสวนหาตัวคนร้ายเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/466448697606513/

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า คนร้ายทราบความเคลื่อนไหวของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์เป็นอย่างดี ทั้งรถที่ใช้ส่วนตัว สถานที่ที่ไปใช้บริการบ่อย และยังศึกษาเส้นทางมาแล้ว ก่อนจะมาลงมือก่อเหตุ สันนิษฐานว่าคนร้ายเป็นผู้มีความชำนาญในการใช้ปืน แต่จะเป็นมือปืนหรืออยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังใดของฝ่ายสืบสวนหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
.
“ดูลักษณะการใช้อาวุธแล้ว น่าจะเป็นผู้ที่มีความสามารถในการใช้อาวุธครับ”

ตนเองได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ แล้ว โดยสามารถตัดประเด็นชู้สาวออกไปได้ก่อน ส่วนประเด็นเรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจ ก็ไม่พบว่ามีการประกอบธุรกิจใด หรือขัดแย้งส่วนตัวเรื่องใดกับใคร

ส่วนที่มีกระแสสังคมตั้งประเด็นสงสัย เช่น เกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อระบบไบโอเมตริก หรือเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ ทางการสืบสวนยังไปไม่ถึงตรงจุดนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ได้นัดหมาย พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ สอบปากคำที่ สน.บางรักในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) เวลา 12.30 น. แล้ว

ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจพิสูจน์ รถคันที่ถูกยิงพบรอยกระสุนปืนยิงจำนวน 8 นัดที่บริเวณข้างตัวรถข้างซ้ายบริเวณประตูหน้า 1 นัดและประตูหลัง 7 นัด ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดการตรวจวิเคราะห์หัวกระสุน และให้ตรวจภาพกล้องวงจรปิด สถานที่เกิดเหตุและในซอยหลังเกิดเหตุย้อนหลัง 7 วัน