Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

โฆษกสภา กทม. ออกมาชี้แจงกรณีมติตีตกโครงการ’ห้องเรียนปลอดฝุ่น’ งบ 219 ล้านบาท ชี้เขียนโครงการเหมารวม แถมสั่งจากบนลงล่าง เหมือน ‘ตีเช็คเปล่า’

น.ส.นฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตคลองสามวา ในฐานะโฆษกสภากรุงเทพมหานคร เปิดเผยกรณีสภากทม.เห็นชอบตัดงบประมาณโครงการห้องเรียนปลอดฝุ่น จากข้อบัญญัติงบประมาณกรุงเทพมหานคร ปี 2567 วานนี้ ว่า สภากรุงเทพมหานครได้ให้ความสำคัญกับนโยบายเรื่องของการศึกษาตลอดมา ทั้งเรื่องการเพิ่มศักยภาพการดูแลสวัสดิการครูผู้สอน การเพิ่มความปลอดภัยให้เด็กนักเรียน รวมถึงการปรับปรุงกายภาพห้องเรียนและโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนโรงเรียนกทม.ได้มีโอกาสในการศึกษาเท่าเทียมกับโรงเรียนสังกัดอื่น

ทั้งนี้คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณกทม.ปี 67 เห็นด้วยกับโครงการห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล 6 กลุ่มเขต รวม 429 โรงเรียน 1,743 ห้อง รวมงบประมาณ 219,339,000 บาท ของสำนักการศึกษา แต่ยังมีกรรมการหลายท่านได้ขอสงวนความเห็น เนื่องจากเห็นด้วยกับโครงการแต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการ ซึ่งไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ ประกอบกับโครงการโรงเรียนสู้ฝุ่นเดิม นำร่อง 32 แห่ง ที่กทม. ดำเนินการอยู่ไม่มีการขยายผลต่อยอดแต่อย่างใด

รวมถึง ในขั้นตอนการพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 หน่วยงานผู้ขอรับงบประมาณไม่ได้มีการแสดงเอกสาร ความชัดเจนของที่มาการของบประมาณ กรรมการวิสามัญฯจึงได้ขอสงวนความเห็นเพื่ออภิปรายในการประชุมสภากทม.และให้ที่ประชุมได้วินิจฉัยว่าจะพิจารณาเห็นชอบให้ตัดหรือคงอยู่ โดยเหตุผลหลักที่กรรมการวิสามัญได้อภิปรายในที่ประชุมสภากทม. ประกอบด้วย

1. เอกสารโครงการห้องเรียนปลอดฝุ่นของทุกกลุ่มเขตที่หน่วยงานนำมาแสดงมีรายละเอียดเหมือนกันหมด คือ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศขนาด 30,000 BTU จำนวน 2 เครื่อง ในขณะที่สภาพห้องเรียนทุกแห่งมีขนาดที่แตกต่างกัน บางห้องเรียนมีขนาดเพียง 20 ตร.ม. และบางเขตมีจำนวนห้องเรียนอนุบาลไม่มาก และได้จัดให้เด็กอนุบาลได้เรียนรวมกัน ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องติดเครื่องปรับอากาศ BTU ที่สูงและต้องติดตั้งให้ครบทุกห้อง ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณเกินความจำเป็น

2. การติดตั้งเครื่องปรับอากาศจำเป็นต้องมีงบประมาณค่าไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นด้วย รวมถึงค่าบำรุงรักษา ค่าล้างทำความสะอาด แต่พบว่าไม่ได้มีการของบประมาณในส่วนอื่นให้สอดคล้องกัน ทำให้เห็นว่าไม่มีการวางแผน เพียงแต่ต้องการใช้งบประมาณเท่านั้น

3. การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ต้องทำให้ถูกจุด ทั้งการเพิ่มพื้นที่สีเขียวการให้ความรู้เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา รวมถึงการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพิ่มอาจไม่สอดคล้องกับนโยบายลดภาวะโลกร้อนของผู้บริหาร

“การเขียนโครงการเหมารวมในรูปแบบเดียวกันทุกกลุ่มเขต การตั้งราคาเครื่องปรับอากาศที่สูงเกินบริบทของห้องเรียน การกำหนดงบประมาณจากเบื้องบนเพื่อให้เบื้องล่างนำไปปฏิบัติ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งาน จึงเหมือนการตีเช็คเปล่าที่ไม่ได้เจาะจงการใช้เงินให้เห็นชัดเจน นอกจากนี้ การติดตั้งเครื่องปรับอากาศโดยไม่ได้จัดหาเครื่องฟอกอากาศเพิ่มอาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันฝุ่นซึ่งมีจำนวนสูงเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ และเรื่องความปลอดภัยของเด็กไม่ได้มีแค่เรื่องฝุ่น แต่เรื่องของกล้องวงจรปิด ห้องน้ำที่เพียงพอและถูกสุขลักษณะ การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศในโรงเรียน เป็นสิ่งที่ฝ่ายบริหารควรให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน” โฆษกสภากทม. กล่าว

สำหรับรายการโครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นที่สภากรุงเทพมหานครให้ความเห็นชอบตัดออก ประกอบด้วย

1. โครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง จำนวน 41 โรงเรียน 140 ห้อง จำนวน 17,646,000 บาท

2. โครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก จำนวน 129 โรงเรียน 561 ห้อง จำนวน 70,584,000 บาท

3. โครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ จำนวน 45 โรงเรียน 244 ห้อง จำนวน 30,748,000 บาท

4. โครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ จำนวน 55 โรงเรียน 192 ห้อง จำนวน 24,202,000 บาท

5. โครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ จำนวน 89 โรงเรียน 247 ห้อง จำนวน 31,033,000 บาท

6. โครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล กลุ่มเขตกรุงธนใต้ จำนวน 70 โรงเรียน 359 ห้อง จำนวน 45,126,000 บาท

ผู้บริหาร กทม. ไม่ท้อ เล็งชวนภาคเอกชนทำโครงการนำร่อง ห้องเรียนปลอดฝุ่น-เตรียมเสนอใหม่รอบหน้า

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ต้องเคารพการตัดสินใจของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร งบประมาณปี 2567 ประมาณ 9 หมื่นล้าน ถูกตัดไป 300 ล้าน ถือว่าไม่เยอะ ก็คงต้องปรับปรุงกระบวนการ อะไรที่เป็น โครงการนำร่อง (Pilot Project)  ทำได้ก็ทำไปก่อน อาจหาเงินจากเอกชนมาซัพพอร์ตสักห้องเรียนหนึ่ง แล้วเก็บข้อมูลเรื่องการใช้ไฟ ประโยชน์ที่ได้รับ เป็นหลักฐาน ให้เห็นประโยชน์หรือข้อเสียที่ชัดเจน ซึ่งบางโรงเรียนก็มีห้องเรียนแอร์อยู่บ้าง อาจทำให้การเสนอของบประมาณในครั้งหน้าคือปี 2568 ทำให้สมาชิกสภากรุงเทพมหานครพิจารณาง่ายขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงที่มีฝุ่นเยอะอาจต้องหาทางบรรเทา เช่น ใส่หน้ากาก งดออกข้างนอก ติดธงแจ้งเหตุ เป็นต้น ซึ่งในเรื่องฝุ่นจะต้องมีการคุยกับรัฐบาลด้วย เพราะรัฐบาลมีแผนแม่บทเรื่องฝุ่นอยู่ ที่ผ่านมา ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้เคยพูดถึงแนวทางเรื่องฝุ่นที่ดีมากว่า ฝุ่นส่วนหนึ่งมาจากการเผาอ้อย จึงน่าจะมีแรงจูงใจให้เกษตรกรไม่เผาอ้อย ประกอบกับผลการวิเคราะห์จากนักสืบฝุ่น ช่วงที่ฝุ่นในกรุงเทพมหานครมีจำนวนมากพบว่าส่วนใหญ่มาจากการเผาชีวมวล ส่วนหนึ่งมาจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์และส่วนใหญ่มาจากการเผาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร คือ ข้าวกับอ้อย ซึ่งปีนี้กรุงเทพมหานครมีงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องอัดฟางเพื่อให้ประชาชนช่วยอัดฟางในพื้นที่เกษตรเพื่อนำไปขาย น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดฝุ่นได้ อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ต้องมีการหารือกับรัฐบาล เพราะกรุงเทพมหานครหน่วยงานเดียวไม่สามารถทำสำเร็จได้

ขณะที่ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีถูกตัดงบโครงการห้องเรียนปลอดฝุ่นว่า จะมีการกลับมาดูรายละเอียดโครงการใหม่ สำหรับงบที่ถูกตัดเป็นขั้นตอนของการแปรญัตติจึงไม่ได้มีขั้นตอนของการชี้แจง ซึ่งรายละเอียดที่แสดงจะมีส่วนหนึ่งที่เป็นค่าก่อผนัง 20 ตารางเมตร ขนาดห้องจริง คือ 49-64 ตารางเมตร จึงจำเป็นต้องใช้แอร์ 2 ตัว จากนี้จะมีการกลับไปทบทวนเรื่องการเอาโซลาเซลล์ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ตามคำแนะนำของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครมาปรับใช้และยื่นของบประมาณอีกครั้ง

มติสภา กทม. ตัดงบ ‘ห้องเรียนปลอดฝุ่น’ กว่า 219 ล้านบาท ส.ก.เสนอปลูกต้นไม้กรองฝุ่นแทน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า