เมายาหลอนตะโกนในรถมีระเบิด เดือดร้อน EOD ตรวจสอบวุ่น

วันที่ 14 ส.ค. พ.ต.ท.จงศักดิ์ ชาญศรี หัวหน้าศูนย์จัดการจราจร ด่วนกาญจนาภิเษก รับแจ้งจากพนักงานรักษาความปลอดภัยด่านเก็บเงิน เทพารักษ์ 3 ว่า มีรถประสบอุบัติเหตุชนกับราวกันขอบทาง ก่อนที่ชายซึ่งเป็นคนขับจะบอกว่าภายในรถมีวัตถุระเบิด เหตุเกิดบริเวณทางลงด่านเทพารักษ์ มุ่งหน้าสำโรง ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จาก บก.ภจว.สมุทรปราการ เข้าตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นครูซ สีดำ จอดอยู่ในลักษณะประตูฝั่งคนขับเบียดอยู่กับราวกั้นขอบทาง ส่วนคนขับ ทราบชื่อต่อมาคือนายปิยะพงษ์ อ่ำพิมพ์ อายุ 29 ปี ได้วิ่งออกมาจากรเข้าไปหลบอยู่บริเวณป่าหญ้าข้างทาง ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมตัวมาสอบสวนพร้อมกับได้ติดต่อแฟนสาวมาพูดคุยด้วย โดยทั้งคู่ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปถ่ายภาพแต่อย่างใด

ต่อมาหลังจากเจ้าหน้าที่ EOD มาถึง เพื่อความปลอดภัย จึงได้ปิดกั้นการจราจรบริเวณดังกล่าว พร้อมกับได้นำอุปกรณ์เข้าไปสำรวจรอบตัวรถ พร้อมกับนำกระเป๋าเป้ซึ่งวางอยู่ในรถมาตรวจสอบอย่างละเอียด โดยใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงแต่ก็ไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด จึงได้ยกเลิกภารกิจ

จากการสอบถามนายดร ยามดี พนักงาน รปภ.ประจำด่านเก็บเงินเทพารักษ์ 3 กล่าวว่า ขณะที่ตนทำงานอยู่บริเวณด่านเก็บเงิน มีผู้ใช้เส้นทางซึ่งผ่านบริเวณดังกล่าวมาแจ้งตนว่า มีรถประสบอุบัติเหตุจอดอยู่บริเวณทางลง ตนจึงได้เข้าไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงได้พบกับชายคนดังกล่าวซึ่งอยู่ในอาการตื่นตระหนกวิ่งออกมาจากรถ พร้อมกับบอกว่า “อย่าเข้าใกล้รถผม มีคนเอาระเบิดมาวางในรถใกล้ระเบิดแล้ว” ทั้งนี้ชายคนดังกล่าวยังบอกกับตนอีกว่า “สงสัยผมจะโดนคุณไสยเข้า หรือผมจะเป็นโรคประสาท” ก่อนชายคนดังกล่าวจะเข้าไปหลบในป่าหญ้า จึงได้รีบไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่การทางพิเศษทราบ

พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า ภายหลังจากได้นำตัวนายปิยะพงษ์ มาทำการสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากสงสัยว่าน่าเกิดอาการหลอนจากการเสพสารเสพติดและการตรวจสอบปัสสาวะก็พบในร่างกายมีสารเสพติดจริง

ส่วนนายปิยะพงษ์ รับว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่ จ.ชลบุรี และได้เสพยาอีมา ก่อนที่จะขับรถกลับมาง้อแฟนที่ย่านสมุทรปราการ กระทั่งเกิดเหตุขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มีและเป็นผู้ขับเสพเมทแอมเฟตามีนโดยผิดกฎหมาย และข้อบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป