Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุปดราม่า บริทนีย์ สเปียร์ส จากชีวิตที่โดนพ่อบงการกว่า 10 ปี สู่วันที่ลุกขึ้นสู่เพื่อตัวเอง

เผยแพร่ครั้งแรก 21 สิงหาคม ปี 2563

ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นดังในวงการบันเทิงสหรัฐฯ เมื่อนักร้องสาว ‘บริทนีย์ สเปียร์ส’ เจ้าซิงเกิลยอดฮิตอย่าง Oops!…I Did It Again, Baby One More Time และToxic ได้ออกมายื่นเอกสารกับศาลให้ถอด ‘เจมี สเปียร์ส’ พ่อแท้ๆ ของบริทนีย์จากการเป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์สิน หลังจากที่พ่อของเธอทำหน้าที่ดังกล่าวมานานกว่า 12 ปี

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์คืออะไร แล้วทำไมบริทนีย์ สเปียร์ส ต้องการถอดพ่อแท้ๆ ออกจากการเป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์สิน workpointTODAY จะสรุปเรื่องราวทั้งหมดให้เข้าใจใน 22 ข้อ

1) บริทนีย์ สเปียร์ส ที่เกิดที่เมืองแม็คคอมบ์ รัฐมิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณพ่อมีอาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง ส่วนคุณแม่เป็นครูสอนนักเรียนชั้นประถม บริทนีย์ได้เรียนเต้นบัลเล่ต์ และร้องเพลงตั้งแต่อายุ 3 ขวบ

2) จนเมื่ออายุได้ 8 ขวบ บริทนีย์ เธอได้ไปออดิชันในตำแหน่งพิธีกรรายการมิกกี้เมาส์คลับ แต่ไม่ผ่านการคัดเลือกเนื่องจากเธอยังเด็กเกินไป แต่แววด้านการแสดงของหนูน้อยบริทนีย์ไปเข้าตาหนึ่งในแมวมองอย่างแนนซี่ คาร์สัน

3) ซึ่งคาร์สันนี่เองที่เป็นผู้แนะนำให้บริทนีย์มุ่งศึกษาต่อในด้านการแสดงเพื่อพัฒนาตัวเอง เป็นเหตุให้เธอต้องย้ายมาอยู่กับคุณแม่ที่นิวยอร์คเพื่อเรียนด้านการแสดงที่ สถาบันบรอดเวย์ แดนซ์ เซ็นเตอร์ และโรงเรียนสอนศิลปะการแสดง โปรเฟสชั่นแนล เพอร์ฟอร์มมิ่ง อาร์ตส์

4) ตอนอายุ 11 ปี บริทนีย์กลับมาออดิชันพิธีกรรายการมิกกี้เมาส์คลับอีกครั้ง และสามารถผ่านการออดิชันครั้งนี้ไปได้ และได้ร่วมงานกับจัสติน ทิมเบอร์เลค และ คริสติน่า อากีเลร่า ซึ่งในอนาคตทั้ง 3 คนจะเติบโตขึ้นมาเป็นนักร้องดังระดับโลก

5) จนเมื่ออายุ 18 ปี บริทนีย์ ได้รับโอกาสในวงการเพลงครั้งแรก โดยได้รับการทาบทามจากลู เพิร์ลแมน ผู้จัดการวงดนตรีชื่อดังในยุค 90 อย่าง NSYNC และ Backstreet Boys โดยเพิร์ลแมนได้ส่งเดโมเพลง ของโทนี แบรกซ์ตัน นักร้องแนวอาร์แอนด์บีชื่อดังให้บริทนีย์อัดเสียงทำเดโมของตัวเอง และก็เป็นค่ายไจฟ์เรคคอร์ดที่มอบสัญญาศิลปินฉบับในชีวิตให้กับบริทนีย์

6) ในปี 1999 บริทนีย์ได้เปิดตัวอัลบั้มแรกของเธออย่าง Baby One More Time โดยเพลง Baby One More Time (ชื่อดียวกับอัลบั้ม) ได้รับความนิยมจนติดอันดับ 1 ของบิลบอร์ดชาร์ตในอเมริกา และอีก 15 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังทำยอดขายทะลุ 2 ล้านชุดภายในระยะเวลา 1 เดือนเท่านั้น และมียอดขายมากกว่า 10 ล้านชุดภายในปีนั้น ส่งให้บริทนีย์กลายเป็นนักร้องสาวเบอร์ต้นๆ ของวงการทันที

7) ในปี 2000 บริทนีย์ สเปียร์ส ออกอัลบั้มชุดที่สอง Oops!… I Did It Again ซึ่งถือเป็น 1 ในอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของบริทนีย์ โดยมียอดขายทั่วโลกมากกว่า 20 ล้านชุด นอกจากนี้บริทนีย์ยังกวาดรายได้จากโปรโมตทัวร์อัลบั้ม Oops!… I Did It Again ได้สูงถึง 40.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ในปี 2001 บริทนีย์ สเปียร์ส ได้เปิดตัวอัลบั้มบริทนีย์ โดยอัลบั้มชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปินเพลงฮิปฮอป โดยเพลงในอัลบั้มนี้จะเน้นจังหวะที่หนักแน่นขึ้นทำให้จับจังหวะในการเต้นได้ง่ายขึ้น อัลบั้มดังกล่าวเปิดตัวที่อันดับ 1 ในบิลบอร์ดชาร์ตท๊อป 200 และทำยอดขายทั่วโลกมากกว่า 12 ล้านชุด จากความสำเร็จในอัลบั้มนี้ ทำให้บริทนีย์ สเปียร์ส ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมีใน 2 สาขา ได้แก่ รางวัลอัลบั้มเพลงป๊อปยอดเยี่ยม และรางวัลศิลปินเพลงป๊อปหญิงยอดเยี่ยม ในเพลง Overprotected

9) ในปี 2004 บริทนีย์ สเปียร์ส ได้จดทะเบียนสมรสกับครั้งแรกกับเจสัน อัลเลน อเล็กซานเดอร์ ก่อนที่บริทนีย์จะประกาศหย่าฟ้าผ่าในเวลา 55 ชั่วโมงต่อมา ก่อนที่เธอจะแต่งงานอีกครั้งในปี 2004 กับแร็ปเปอร์หนุ่มชื่อดังอย่าง เควิน เฟเดอร์ไลน์ และมีลูกชายด้วยกัน 2 คนคือเพรสตัน และเจย์เดน

10) ในปี 2007 บริทนีย์ได้จดทะเบียนหย่ากับเควิน ซึ่งในช่วงนี้เองที่มรสุมชีวิตจะเข้ามาซ้ำเติมความรู้สึกของราชินีเพลงป๊อปอย่างรุนแรง ทั้งเรื่องของการหย่าร้าง, การเสียชีวิตของคุณป้าที่เธอรักมากที่สุดคนหนึ่ง จนทำให้เธอต้องเข้ารับการบำบัด โดยมีอยู่วันหนึ่งบริทนีย์ ได้เข้าไปในร้านตัดผมในเมืองทาร์ซานา ก่อนที่จะโกนผมตนเอง

11) ในปี 2008 และจากที่บริทนีย์และเควินต่อสู้เรื่องสิทธิ์ในการดูแลบุตรชายทั้งสองมาอย่างยาวนาน ในที่สุดศาลก็มีคำสั่งให้เควินได้รับสิทธิ์ดูแล-คุ้มครองบุตรเพียงฝ่ายเดียว ขณะที่ตัวบริทนีย์เองก็ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในแผนกจิตเวชที่สถาบันโรนัลด์ เรแกน ยูซีแอลเอ เมดิเคิลเซ็นเตอร์

12) ต่อมาศาลได้พิจารณาให้บริทนีย์เป็นบุคคลที่ไม่สามารถจัดการเรื่องต่างๆ ของตัวเองได้ และตัดสินให้เธออยู่ภายใต้การดูแลของเจมี สเปียร์ส ผู้เป็นพ่อในฐานะผู้พิทักษ์ร่วมกับนายแอนดรูว์ วอลเล็ท ทนายความของสเปียร์สตั้งแต่ปี 2008

13) เจมี สเปียร์ส เข้ามามีบทบาทในการควบคุมดูแลบริทนีย์ สเปียร์ส แทบจะทุกอย่างตั้งแต่อาหารการกิน, กิจวัตรประจำวัน และรายได้ต่างๆ บริทนีย์จะต้องขออนุญาตจากพ่อก่อนทุกครั้งที่จะทำอะไร โดยทางเจมีเผยว่า วัตถุประสงค์เพื่อดูแลไม่ให้บริทนีย์ วางแผนหรือตัดสินใจด้านการเงินการลงทุนอย่างผิดพลาด และเพื่อป้องกันเธอออกจากกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีอีกด้วย

14) โดยในปี 2009 ทางทนายของครอบครัวสเปียร์สได้ยื่นฟ้องต่อศาลให้จำกัดบทบาทของ นายแซม ลัตฟี่ ผู้จัดการส่วนตัวของบริทนีย์ในขณะนั้น โดยอ้างว่าลัตฟี่พยายามจะเข้าไปมีอิทธิพลในชีวิตของบริทนีย์และอาจส่งผลเสียต่อตัวนักร้องสาว นอกจากนี้ลัตฟี่ยังมีพฤติกรรมดูหมิ่นแม่ของบริทนีย์อีกด้วย ศาลจึงให้แซม ลัตฟี่ ห้ามเข้าใกล้บริทนีย์ สเปียร์สในรัศมี 200 หลา และห้ามแสดงความเห็นถึงครอบครัวสเปียร์สและผู้จัดการคนปัจจุบันในที่สาธารณะ

15) ด้านเว็บไซต์ Business Insider เผยว่า จากเอกสารทางการเงินของบริทนีย์ สเปียร์ส ในปี 2018 มีรายรับถึง 59 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1,850 ล้านบาท โดยในปีนั้นเธอใช้จ่ายส่วนตัวไปเพียง 4 แสนเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีรายจ่ายด้านค่าธรรมเนียมต่างๆ เพียง 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ราว 32 ล้านบาท จากตัวเลขรายจ่ายอันน้อยนิดเมื่อเทียบกับรายได้ ได้แสดงให้เห็นว่าเจมีควบคุมการจ่ายใช้จ่ายเข้มงวดมากเพียงใด อีกทั้งตัวของเจมี สเปียร์ส ยังได้ค่าตอบแทนในฐานะผู้พิทักษ์ทรัพย์สินอีกปีละ 130,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 4 ล้านบาท

16) ต่อมาในช่วงต้นปี 2019 บริทนีย์ สเปียร์ส ได้ประกาศยกเลิกโชว์ Domination ที่ลาส เวกัส โดยนักร้องสาวให้เหตุผลว่า เจมี สเปียร์ส พ่อของเธอป่วยหนัก ทำให้เธอต้องยุติการโชว์อย่างกระทันหัน พร้อมทั้งประกาศพักงานยาวอย่างไม่มีกำหนด ด้านเว็บไซต์ Business Insider เผยว่า ช่วงเดือนเมษายนปี 2019 แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนได้ให้ข้อมูลกับรายการ Britney’s Gram ว่า สาเหตุที่บริทนีย์ยกเลิกโชว์ Domination ที่ลาส เวกัส เป็นเพราะเธอไม่ยอมกินยารักษาอาการทางจิต จนพ่อของเธอต้องส่งเข้าสถานบำบัด

17) ด้านบรรดาแฟนๆ ราชินีเพลงป๊อปได้รวมตัวกัน เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสินของศาลในปี 2009 ที่ทำให้บริทนีย์ สเปียร์สไม่มีอิสระในการใช้ชีวิต โดยกลุ่มแฟนคลับได้สร้างแคมเปญ #FreeBritney เพื่อลดอำนาจของบุคคลใกล้ชิดที่ควบคุมนักร้องสาวมากเกินไป นอกจากนี้บรรดาแฟนคลับยังตั้งข้อสังเกตว่ารูปภาพหรือวิดีโอที่บริทนีย์ สเปียร์สอัพลงอินสตาแกรมของเธอบ่อยๆ อาจเป็นภาพเก่า และอาจมีบุคคลอื่นเข้าควบคุมอินสตาแกรมของนักร้องสาว

18) จนเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา บริทนีย์ สเปียร์สได้อัพรูปของเธอลงในอินสตาแกรมพร้อมระบุว่า “เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าภาพนี้ไม่ใช่ภาพเก่า เช็คได้ตรงวันที่เหนือรูปภาพ”

19) ในเดือนมีนาคมปี 2019 แอนดรูว์ วอลเล็ท ทนายความของสเปียร์สได้ลาออกจากผู้พิทักษ์ทรัพย์สินร่วม ทำให้เจมี สเปียร์ส ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ทรัพย์สินแต่เพียงผู้เดียว จนกระทั่งในเดือนกันยายนปี 2019 เจมี สเปียร์สได้ขอลดบทบาทลง โดยอ้างเหตุผลด้านสุขภาพ แต่อีกหนึ่งเหตุผลที่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เจมียอมลดบทบาทในฐานะผู้พิทักษ์ทรัพย์สินมาจากที่เขาถูกสอบข้อหาทำร้ายร่างกายหลานชาย ซึ่งทางศาลได้แต่งตั้ง โจดี้ มอนโกเมอรี ผู้จัดการของบริทนีย์คนปัจจุบัน รับหน้าที่ดูแลนักร้องสาวเป็นการชั่วคราว

20) ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ทนายความของบริตนีย์ ได้ยื่นเอกสารต่อศาล เพื่อให้พิจารณาถอดเจมี สเปียร์ส ออกจากการเป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์สิน โดยทนายของบริตนีย์เผยว่า บริทนีย์ สเปียร์สไม่ต้องการให้ผู้เป็นพ่อกลับมาเป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์สินอีก และต้องการเปลี่ยนแปลงผู้พิทักษ์ทรัพย์สิน เพื่อเป็นการสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงด้านวิถีชีวิตและความปรารถนาของเธอ

21) โดยทางบริทนีย์ต้องการให้โจดี มอนต์โกเมรี รับหน้าที่ผู้พิทักษ์ทรัพย์สินชั่วคราวอยู่ในขณะนี้ เป็นผู้ดูแลตัวเธอของเธอแทนพ่อของเธอ ส่วนเรื่องทรัพย์สินต้องการให้บริษัทจัดการทรัพย์สินที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ทำหน้าที่จัดการทรัพย์สินของเธอ ด้านซามูเอล ดี. อิงแฮม ซึ่งเป็นทนายความของบริตนีย์ เชื่อว่า เจมี สเปียร์ส จะดำเนินต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุดเพื่อรักษาตำแหน่งผู้พิทักษ์ทรัพย์สินของตนเองไว้

22) ทั้งนี้ในเบื้องต้นโจดี้ มอนโกเมอรีจะทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ทรัพย์สินเป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 22 สิงหาคม 2020 นี้ จนกว่าจะมีคำสั่งใดๆ จากศาล

บริทนีย์ สเปียร์ส ได้โพสต์วิดีโอลงในอินสตาแกรมของเธอ พร้อมระบุข้อความที่พูดถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน (โควิด-19) พร้อมแนะนำให้ทุกคนคิดบวก และหันมาทำความเข้าใจในตัวเองให้มากขึ้น พร้อมทั้งขอบคุณแฟนๆ ที่คอยสนับสนุน ซึ่งคลิปดังกล่าวมียอดวิวมากกว่า 2 ล้านวิว ภายในเวลาเพียง 8 ชั่วโมงเท่านั้น

ซึ่งแฟนๆ ส่วนใหญ่คอมเมนต์ให้กำลังใจราชินีเพลงป๊อป และหวังว่าจะได้เห็นนักร้องสาวกลับมามอบความสุขให้แฟนๆ ทั่วโลกอีกครั้ง

“เธอดูกังวล, เหนื่อย, กลัว และกดดัน ฉันหวังว่าสาวงามที่ถูกดขี่มาตลอดคนนี้จะกลับมาในไม่ช้า เธอจะมีชีวิตที่อิสระ และเป็นคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถแบบแต่ก่อน”

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า