Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ลูกจ้างแฉถูกนายจ้างฝรั่งจับขังในกรงสุนัข พบมีการฉีดยาฆ่าหมา 22 ตัว อ้างเป็นสัตวเเพทย์ ถ่ายคลิปขอเรี่ยไรเงินมานานกว่า 11 เดือน คาดได้รับบริจาครวมกว่า 50 ล้าน

จากกรณีที่คนงาน 15 คน ในสถานพักพิงสัตว์ชื่อ The sound of animals ตั้งอยู่ใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับ สภ.บ้านกรวด ว่าถูก นายมิเกล อายุ 50 ปี ชาวฝรั่งเศส ขังไว้ในกรงสัตว์จนต้องอดข้าวอดน้ำ และยังพบว่ามีการทารุณกรรมสัตว์ในสถานพักพิงนั้นด้วย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 62 ที่ผ่านมา นายสัตวแพทย์ ขวัญชัย ชัยปลื้ม อาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือสุนัขจรจัด และสอดส่องหมอเถื่อนหากินกับสุนัขจรจัด จ.ชลบุรี เดินทางเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ สภ.บ้านกรวด เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี หลังจากเคยแจ้งความกล่าวหานายมิเกล ฐานทารุณกรรมสัตว์ และการกระทำผิด พ.ร.บ.วิชาชีพสัตวแพทย์

นายสัตวแพทย์ ขวัญชัย ชัยปลื้ม อาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือสุนัขจรจัด และสอดส่องหมอเถื่อนหากินกับสุนัขจรจัด จ.ชลบุรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกรวด หลังจากเห็นคลิปการฉีดยาฆ่าสุนัขของ นายมิเกล ถึง 22 ตัว และมาทราบว่านายมิเกล อ้างตัวว่าเป็นสัตวแพทย์ ทั้งที่จริงไม่ได้จบในด้านนี้ ซึ่งการฆ่าสุนัขตายของนายมิเกลมีเงื่อนงำ เพราะได้ถ่ายคลิปบรรยายว่า มีโรคพิษสุนัขบ้าระบาด ต้องกำจัดสุนัขตัวที่ป่วย พร้อมนำภาพเผยแพร่โลกโซเชียล เพื่อเรียกคะแนนสงสาร และขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือ  ซึ่งตำรวจระบุว่ายังรวบรวมเอกสาร และเตรียมส่งอัยการต้นปี 2563

จากการตรวจสอบตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 จนถึงเดือนสิงหาคม 2562 หรือประมาณ 11 เดือนที่ผ่านมา มียอดเงินเข้าบัญชีนายมิเกลกว่า 8 ล้านบาท ยังไม่นับก่อนหน้านี้ที่ตั้งสถานพักพิงสัตว์มาร่วม 3 ปี นอกจากนี้ยังพบว่าเงินที่ซื้อที่ดินกว่า 6 ไร่ รวมถึงอาคารที่สร้างทั้งหมด เป็นเงินที่ได้มาจากการบริจาคทั้งสิ้น เบื้องต้นคาดว่านายมิเกล อาจได้เงินบริจาคมามากกว่า 50 ล้านบาท ส่วนที่นายมิเกลอ้างเป็นสัตวแพทย์นั้น ก็ไม่เป็นความจริง จึงเข้าแจ้งความเอาผิด 2 ข้อหา

ด้านนายณัฐดนัย นามมาลา พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นสถานที่ดังกล่าว ยังไม่มีการขออนุญาตตั้งเป็นมูลนิธิใดๆ ซึ่งหากเป็นมูลนิธิที่ไม่หวังผลตอบแทน ก็จะถูกยกเว้นกฎระเบียบเป็นบางกรณี แต่ถ้าไม่เป็นมูลนิธิจะต้องปฏิบัติตามกฎข้อระเบียบของกฎหมายแรงงานทุกประการ ส่วนกรณีการกักขัง เบื้องต้นยังก้ำกึ่ง เพราะไม่ล็อกกุญแจกักขัง เพียงแต่ห้ามด้วยวาจา ซึ่งการพิจารณาต้องมีตำรวจ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เข้าร่วมพิจารณากับกระทรวงแรงงานอีกครั้งต่อไป

ต่อมา พ.ต.อ.อดุลย์   ชัยประสิทธิกุล  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์  พร้อมด้วยตำรวจ สภ.บ้านกรวด , ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัด , สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด , สาธารณอำเภอ  และฝ่ายปกครองอำเภอบ้านกรวด  ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานสงเคราะห์สัตว์ (สุนัข)  “The Sound Of Animals” ที่ถูกลูกจ้างชาวไทยซึ่งทำงานอยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าว 15 คน จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น  ไม่พบนายจ้างชาวต่างชาติและภรรยาชาวไทยซึ่งเป็นเจ้าของสถานสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าว   เนื่องจากได้เดินทางไปออกรายการที่กรุงเทพ  ขณะที่ลูกจ้างบางคนก็เดินทางไปออกรายการที่กรุงเทพเช่นเดียวกัน แต่ยังมีลูกจ้างจำนวน 9 คนที่ยังทำงานในสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวตามปกติ

จากการสอบถาม หนึ่งในลูกจ้าง อายุ 17 ปี  เล่าว่า ตนพึ่งเข้ามาทำงานที่สถานสงเคราห์สัตว์ดังกล่าวได้ประมาณ 3 เดือน ได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท  แต่ตอนที่เข้ามาแรกๆ ถูกนายจ้างชาวต่างชาติสั่งให้เข้าไปอยู่ในกรงกับสุนัขหลายครั้งๆ ละประมาณ 10 นาที โดยนายจ้างอ้างว่าพึ่งมาทำงานใหม่ต้องเข้าไปปรับตัวให้คุ้นกับสุนัขก่อน  ยอมรับว่ากลัวจะถูกสุนัขกัดเพราะขังไว้ในกรงเดียวกัน แต่ด้วยความที่อยากทำงานมีรายได้จึงยอมทำตามคำสั่ง  ส่วนลูกจ้างคนอื่นๆ ที่ทำงานอยู่ก่อนตนก็ถูกดุด่าบังคับสารพัด  แต่ก็ยอมทนเพราะส่วนมากจะมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง  สามารถเดินทางไปกลับได้และค่าจ้าง 10,000 บาทก็ถือว่าค่อนข้างสูง กระทั่งล่าสุดที่ทำให้ลูกจ้างรู้สึกทนไม่ไหวเพราะสั่งให้อยู่ในคอกหมา ห้ามออกมาข้างนอกจนกว่าจะถึงเวลาพัก

ขณะที่ พ.ต.อ.อดุลย์   ชัยประสิทธิกุล  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่าสถานสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าว ได้แจ้งขึ้นทะเบียนเป็นสถานสงเคราะห์สัตว์ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 กับทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2561  สิ้นสุดวันที่ 4 มิ.ย.2564  ปัจจุบันมีสุนัขอยู่กว่า 200 ตัว  แต่ไม่เจอเจ้าของ พบเพียงลูกจ้างบางส่วนที่ทำงานอยู่  จึงยังไม่ได้ข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่าย  ซึ่งก็จะได้เข้ามาตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่านายจ้างได้กระทำผิดจริงตามที่ถูกร้องเรียน ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า