Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ปิดดีลประวัติศาสตร์ อย่างเป็นทางการ ‘เซ็นทรัล’ ร่วมทุน ‘ซิกน่า’ ลงขัน 50/50 เข้าซื้อกิจการกลุ่มเซลฟริดเจส ห้างฯ ในอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และไอร์แลนด์ รวม 18 แห่ง อสังหาริมทรัพย์ 7 แห่ง และดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งหมด ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ในรูปแบบออมนิแชแนลระดับโลก

วันที่ 24 ธ.ค. 2564 มีรายงานว่า ‘กลุ่มเซ็นทรัล’ ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจโรงแรม ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ร่วมมือกับ ‘ซิกน่า’ หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจห้างสรรพสินค้าและอสังหาริมทรัพย์ของยุโรป ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อเข้าซื้อกิจการของกลุ่มเซลฟริดเจส จากตระกูลเวสตัน

การลงทุนในกลุ่มเซลฟริดเจสครั้งนี้ เป็นการร่วมทุน 50/50  ระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลกับซิกน่า โดยในส่วนของกลุ่มเซ็นทรัลนั้น บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) มีสิทธิพิจารณาเข้าลงทุน ในส่วนธุรกิจห้างสรรพสินค้า ที่ไม่รวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคณะผู้บริหารและกรรมการบริษัท CRC จะดำเนินการศึกษา พิจารณาความเหมาะสมและผลตอบแทนการลงทุนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่ อย่างไรก็ดี กลุ่มเซ็นทรัลมีความพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปในการลงทุนทั้งหมด

ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล

‘ทศ จิราธิวัฒน์’ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า “กลุ่มเซ็นทรัลรู้สึกตื่นเต้น ยินดี และเป็นเกียรติ ที่ได้มีโอกาสลงทุนในกลุ่มเซลฟริดเจสในครั้งนี้ ซึ่งรวมไปถึงที่ดินและอาคารห้างเซลฟริดเจสบนถนนออกซ์ฟอร์ด ซึ่งตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางบนถนนช้อปปิ้ง ณ กรุงลอนดอน มากว่า 100 ปี ด้วยความที่กลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าเป็นธุรกิจครอบครัว เราจึงมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมและแตกต่าง ทั้งภายในห้างและช่องทางดิจิทัลต่างๆ สำหรับลูกค้าทั้งที่อยู่ในประเทศและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปของกลุ่มเซลฟริดเจส ในอีก 100 ปีข้างหน้า พวกเราพร้อมที่จะทำงานกับผู้บริหารและเพื่อนพนักงานของกลุ่มเซลฟริดเจส เพื่อมุ่งมั่นสู่การเป็นบริษัทรีเทลชั้นนำเป็นเลิศระดับโลก”

‘ดีเทอร์ เบอร์นิงเฮาส์’ ประธานและคณะกรรมการบริหารของกลุ่มซิกน่า กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลในการเข้าซื้อกิจการกลุ่มเซลฟริดเจสในครั้งนี้ เราได้วางแผนที่จะทำงานกับนักออกแบบชั้นนำของโลกในการปรับโฉมของห้าง โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการรักษาไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมดั้งเดิม เติมเต็มวิสัยทัศน์ของ เกเล็น เวสตัน (Galen Weston) ในการสร้างประสบการณ์รีเทลชั้นนำเพื่อลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา”

‘อลานา เวสตัน’ ประธานของกลุ่มเซลฟริดเจส กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการของห้างเซลฟริดเจสโดยกลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าเป็นสิ่งการันตีถึงความสำเร็จของคุณพ่อ (Galen Weston) ที่มีความตั้งใจในการมุ่งมั่นที่จะทำให้ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเป็นห้างสรรพสินค้าที่สวยและครบครันที่สุด ความคิดสร้างสรรค์เป็นหัวใจของการทำธุรกิจในทุกด้านมาอย่างยาวนาน พร้อมการเติบโตอย่างยั่งยืน พวกเราภูมิใจที่ได้ส่งต่อไปยังเจ้าของใหม่ซึ่งมีรากฐานจากธุรกิจครอบครัวที่มีความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว และพร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งต่อไป”

‘สเตฟาโน่ เดลลา วาลเล่’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ยุโรป กล่าวว่า “กลุ่มเซลฟริดเจสเป็นกิจการที่สองที่เราเข้าซื้อในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นในทั้งธุรกิจค้าปลีกในใจกลางเมืองและอนาคตของห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนเมือง กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นว่าเมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ชีวิตที่เป็นปกติและการสังสรรค์ต่างๆจะกลับมา กลุ่มเซลฟริดเจสจะเข้ามาเติมเต็มธุรกิจห้างสรรพสินค้าและออมนิแชแนลของกลุ่มเซ็นทรัล และทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง”

‘แอนน์ พิชเชอร์’ กรรมการผู้จัดการของกลุ่มเซลฟริดเจส กล่าวว่า “เรามีความภาคภูมิใจที่พวกเราได้สร้างกลุ่มเซลฟริดเจสให้เป็นธุรกิจห้างชั้นนำแห่งหนึ่งของโลกที่ทันสมัย แปลกใหม่ พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน มีความสัมพันธ์กับคู่ค้าที่แน่นแฟ้นดีเยี่ยม และมีการลงทุนด้านดิจิทัลที่ครบครัน ตลอดเวลากว่า 2 ทศวรรษ ที่ตระกูลเวสตัน (Weston) เป็นเจ้าของกิจการ โดยทั้งหมดจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากทีมงานที่ดีที่ช่วยสร้างและพัฒนาธุรกิจมาร่วมกันกับเรา

กลุ่มเซลฟริดเจสยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมทำงานกับห้างดังในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นรีนาเชนเตประเทศอิตาลี ,อิลลุม ประเทศเดนมาร์ก, โกลบุส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, คาเดเว ประเทศเยอรมนี และประเทศออสเตรีย ถือว่าเป็นโอกาสอันดีในการผนึกกำลังและตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านรีเทลระดับโลกของธุรกิจเรา”

สำหรับกิจการที่เข้าซื้อในครั้งนี้ ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้ารวมทั้งหมด 18 แห่ง อาทิ ห้างสรรพสินค้า เซลฟริดเจส (Selfridges) บนถนนออกซ์ฟอร์ด ในกรุงลอนดอน, แมนเชสเตอร์ และเบอร์มิ่งแฮม ประเทศอังกฤษ, ห้างสรรพสินค้าดี แบนคอร์ฟ (de Bijenkorf)  ประเทศ เนเธอร์แลนด์, ห้างสรรพสินค้า บราวน์ โทมัส (Brown Thomas) และ อาร์นอตส์ (Arnotts) ประเทศไอร์แลนด์ โดยการร่วมทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนทั้งในธุรกิจห้างสรรพสินค้า อสังหาริมทรัพย์ และกิจการด้านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั้งหมดอีกด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มเซลฟริดเจส จะเข้ามาเสริมทัพห้างสรรพสินค้าหรูในประเทศท่องเที่ยวชั้นนำ ที่กลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่าดำเนินธุรกิจอยู่ อาทิ รีนาเชนเต ประเทศอิตาลี, อิลลุม ประเทศเดนมาร์ก, โกลบุส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, กลุ่มคาเดเว ประเทศเยอรมนี และประเทศออสเตรีย หลังจากการรวมธุรกิจใหม่นี้ จะทำให้กลุ่มบริษัทมียอดขายรวมทั้งหมด 5 พันล้านยูโร ในปี 2019 และ คาดว่าจะเติบโตถึง 7 พันล้านยูโรในปี 2024 จาก 8 ประเทศ และ 35 เมืองสำคัญในยุโรป

อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการกลุ่มเซลฟริดเจสในครั้งนี้ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และเมื่อทุกฝ่ายได้บรรลุเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญา

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า