กรุงเทพกลางแปลง เพิ่มรอบฉาย ‘ชัชชาติ’ ชวนดู ‘คู่กรรม’ ที่หัวลำโพง วันอาทิตย์นี้  

‘ชัชชาติ’ ชวนทูตจีน เอาหนังจีนมาฉายกลางแปลง ไม่หวั่น จัดกรุงเทพฯ กลางแปลงหน้าฝน บอก ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ พร้อมเชิญชวนดู ‘คู่กรรม’ ที่หัวลำโพง วันอาทิตย์นี้  

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเทศกาล ‘กรุงเทพกลางแปลง’ กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีจัดงานในฤดูฝนว่า ก็ไม่เป็นไร ก็ปรับตามสถานการณ์ ถ้าฝนตกก็หยุด ไม่ได้มีความอันตรายอะไร ชีวิตต้องสู้ต่อไป หากกังวลแต่เรื่องฝนหรือกลัวอุปสรรค ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้ามีอะไรเข้ามาก็ปรับและทุกคนเข้าใจสถานการณ์  ทุกคนเตรียมร่ม และเสื้อกันฝนไป

จริงๆ แล้วจิตวิญญาณของหนังกลางแปลง ไม่ใช่แค่ดูหนังแต่คือบริบทรอบๆ  เจอคน ทักทายกันและเศรษฐกิจ การค้าขาย ก็ลองดู สู้กันต่อไป ซึ่งเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจไม่ใช่ภาพใหญ่ แต่มันทำให้เกิดความหวัง ที่เราทำมันเหมือนจุดเริ่ม และหากสามารถขยายตรงนี้ไปได้ ก็จะเกิดการหมุนเวียนขึ้น แต่จริงๆ ตนเห็นหลายชีวิตหลายครอบครัวเขาได้รับผลบวก มีหนังกลางแปลงมาขายของได้ มีซัก 10 – 20 ครอบครัว ก็คุ้มแล้วและเราก็ไม่ได้ใช้เงินอะไร และเป็นพื้นที่สาธารณะ หวังว่ากิจกรรมนี้จะขายตัวไปสู้ต่างจังหวัด ไปยังพื้นที่ต่างๆ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้น 

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่ากทม.เองคงไม่สามารถรับภาระทั้งหมดไว้ได้ แค่จุดประกายเหมือนปลูกต้นไม้ ตนเองก็ไม่มีกำลังปลูกทั้งหมดแต่เราจุดประกายก็มีเอกชนมาเข้าร่วมคือพลังบวกของเมือง  จริงๆ แล้วการกระตุ้นเศรษฐกิจของหนังกลางแปลงอาจเป็นแค่ตัวอย่าง  อาจจะมีกระตุ้นอย่างอื่น เช่นทำถนนคนเดิน เกิดกิจกรรมตลาดนัดในพื้นที่ ก็เป็นตัวอย่างทำให้เกิดแรงบวกของสังคม  นี่คือสิ่งที่ช่วยกันได้ ตนเชื่อว่าทุกคนไม่ได้แตกต่างในการอยากจะช่วยเหลือสังคมให้ดีขึ้น นี่คือสิ่งที่ทำให้เราสามัคคีกันได้ 

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ส่วน กรุงเทพกลางแปลง ที่จะจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ค. นี้เราจัดที่หัวลำโพง หลายคนกังวลว่าเสียงของหนังกลางแปลงอาจกระทบต่อผู้โดยสารรถไฟที่หัวลำโพง หรือไม่ว่า คิดว่าคงปรับกันได้  ช่วงที่รถไฟเข้าอาจจะหรี่เสียงหนังลง  นี่คือการเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกัน  อาจมีความขัดแย้งบ้างแต่ก็ต้องปรับตัว เดี๋ยวจะเอาข้อนี้ไปปรับปรุง เชื่อว่าจะเป็นบรรยากาศที่สนุก มันคือ การบริหารความแตกต่าง ต้องดูหน้างานและต้องปรับกันต่อไป น่าสนุก เดี๋ยวต้องไปดูว่าจะออกมาเป็นยังไง

สำหรับภาพยนตร์ที่จะฉายที่สถานีรถไฟหัวลำโพง คือเรื่อง  ‘คู่กรรม’ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันฉายหนังกรุงเทพกลางแปลงวันแรก นายชัชชาติ กล่าวว่า มีข่าวดี 2 เรื่อง เรื่องแรกคือทางผู้ว่าการรถไฟจะให้ไฟฉายกลางแปลงในหัวลำโพง เรื่อง ‘คู่กรรม’ เพราะเรื่องเกี่ยวโยงถึงรถไฟ ‘โกโบริ’ ถึงแม้ไม่ใช่บางกอกน้อยแต่อยู่ฝั่งนี้ก็ดี

ส่วนเรื่องที่ 2 การนำภาพยนตร์เกาหลีเข้ามาฉาย ซึ่งต้องรอนิดหนึ่ง เราได้ความร่วมมือจากหลายประเทศ น่าจะเป็นสิ่งที่ดี

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ นายชัชชาติมีภารกิจการประชุมหารือความร่วมมือและรับประทานอาหารร่วมกับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย 

นายชัชชาติกล่าวว่า ได้หารือกับท่านทูตฯ หลายเรื่องในประเด็นความร่วมมือในอนาคต ตนได้ชวนให้ทางสถานทูตนำภาพยนตร์จีนมาฉายในเทศกาลกรุงเทพกลางแปลง รวมถึงวงดนตรีด้วย ซึ่งท่านทูตบอกว่า เดี๋ยวต้องไปทำซับไตเติ้ลก่อน น่ารัก บรรยากาศดี เป็นสัมพันธภาพไทย-จีน ที่มีมายาวนาน ด้านเศรษฐกิจต่างๆ น่าจะมีความร่วมมือกันได้ 

นอกจากนี้ยังได้ขอครูจีนไป ตอนนี้อยากได้ครูจีนมาอยู่กับโรงเรียนกทม. ให้เยอะขึ้น เพราะถ้าได้เจ้าของภาษามาก็จะพูดได้สำเนียงจีนถูกต้อง มาเป็นครูให้ครูอีกทีหนึ่ง โดยเมื่อวานคุยกับ ท่านทูตนานเลย ถึง 3 ทุ่มครึ่ง น่าจะมีความร่วมมือหลายอย่างร่วมกัน กทม. เป็นเจ้าบ้าน ต้องดูแลผู้มาเยือน