หมอเตือนระวัง หลังพบเด็กเล็ก 1-3 ขวบสิ่งของติดคอมากขึ้น

วันที่ 19 ก.ย. ที่โรงพยาบาลตรัง นพ.ศักดิ์วุฒิ รัตตานุกูล นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหัวหน้ากลุ่มงานโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลตรัง กล่าวถึง การตรวจอาการผู้ป่วยมีอาหารติดคอว่า ในช่วงผลไม้ตามฤดูกาล พบเด็กอายุตั้งแต่ 1-3 ขวบมาพบแพทย์ปีละไม่ต่ำกว่า 200 รายเนื่องจากมีเมล็ดผลไม้ทั้งเม็ดมะขาม เมล็ดจำปาดะต้มสุก เมล็ดเงาะ เมล็ดขนุนต้ม ถั่วต้มและอื่น ๆ

นอกจากนั้นพบมีการกลืนเหรียญบาท เหรียญ 5 บาท ลูกปัด ยางลบ ไส้ดินสอ ดินน้ำมัน ก้อนหินเพิ่มขึ้น ฝากเตือนผู้ปกครองต้องเก็บสิ่งของไว้ให้พ้นมือเด็กและหมั่นสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ส่วนผู้ใหญ่จะพบก้างปลาติดคอ กินเห็ดพิษและเมล็ดผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2562 จนถึงเดือนกันยายนนี้ พบผู้ป่วยทั้งเด็กและผู้ใหญ่แล้วกว่า 600 ราย โดยเป็นเด็กกว่า 200 ราย

“เด็กมีนิสัยซุกซนชอบหยิบเอาสิ่งของเข้าปากเข้าจมูก ปีนี้มีผู้ป่วยจำนวนมาก และเด็กมีความยากในการเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา หากเอาออกในห้องผู้ป่วยนอกไม่ได้ก็ต้องให้ดมยาสลบและต้องนอนโรงพยาบาล ส่วนสิ่งแปลกปลอมที่พบมีทั้งยางลบ ลูกปัด เศษกระดาษ ก้อนหิน ดินน้ำมัน ไส้ดินสอ เมล็ดผลไม้ เหรียญบาท เหรียญ 5 บาท ซึ่งเด็กมักจะชอบเอาไปอมเล่น ทำให้หลุดลงคอทำให้เด็กกลืนลำบาก กลืนแล้วเจ็บ กลืนไม่ลง หากพบอยู่ในส่วนต้นของหลอดอาหารก็นำไปคีบออกก็จะปลอดภัย จึงเตือนผู้ปกครองเฝ้าดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด”