Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

กรณีโซเชียลมีเดียแชร์เรื่องราวของคนร้ายเป็นหญิงใช้ธนบัตรการ์ตูนหรือแบงก์กาโม่ ซื้อของจากนางสมพิศ ฤทธิเดช อายุ 70 ปี ซึ่งเข็นรถเข็นขายข้าวผัดกะเพรา ข้าวไข่เจียว ลูกชิ้น อยู่หน้าโรงเรียนสุพรรณภูมิ ริมถนนหมื่นหาญ เขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี โดยหลอกเอาทั้งของและเงินทอนไป 430 บาท

วันที่ 23 ธ.ค. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ วีเปลี่ยน ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.ท.กิตติ ลิขิตที่รุ่งเรือง สว.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสืบหาเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุกระทั่งสามารถติดตามจับคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ขณะขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อยู่ในพื้นที่ อ.อู่ทอง จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองสุพรรณบุรี

จากการสอบสวนทราบชื่อ น.ส.เดือนเพ็ญ อายุ 53 ปี บ้านอยู่พื้นที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี โดย น.ส.เดือนเพ็ญ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง และอ้างว่าวันเกิดเหตุได้ขับรถออกมาหางานทำแต่น้ำมันหมด เมื่อมาถึงที่หน้าโรงเรียน เห็นคุณยายยืนขายข้าวคิดว่าคุณยายมีอายุมากแล้วน่าจะหลอกได้ง่ายๆ จึงใช้อุบายแวะเข้าไปสั่งซื้อข้าวและลูกชิ้นกับคุณยาย โดยนำแบงก์กาโม่ที่นำติดตัวมายื่นให้ ซึ่งคุณยายส่งเงินทอนให้โดยไม่ได้ตรวจสอบและตนรีบขี่รถหนีไปทันที หลังก่อเหตุได้กลับไปอยู่ที่บ้านในพื้นที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี และ อ.อู่ทอง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกระทั่งมาถูกจับได้ในที่สุด

ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าหลังจับตัวได้แล้ว ได้เชิญคุณยายมาดูตัวว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่ โดยคุณยายยืนยันว่าเป็น น.ส.เดือนเพ็ญ แต่ไม่ประสงค์จะเอาเรื่อง โดยยกโทษและอโหสิกรรมให้ และยังบอกกับคนร้ายด้วยว่าหากไม่มีข้าวกินจริงๆ ก็ให้มาขอยาย ดีกว่ามาทำแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้คุณยาย ไม่เอาความแต่ตนไม่ยอมปล่อยให้คนร้ายลอยนวลไปได้ง่ายๆ ได้สั่งการ ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบประวัติอาชญากรรมอย่างละเอียดอีกครั้งว่า น.ส.เดือนเพ็ญ เป็นผู้ต้องหามีหมายจับหรือไม่เนื่องจากมีประวัติเคยถูกจับคดีฉ้อโกงติดคุกหลายเดือนหลังพ้นโทษได้มาทำงานของขายอยู่ที่ อ.อู่ทอง

เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุคนร้ายรายนี้มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี ปกติรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นสีน้ำเงินแต่วันที่ก่อเหตุคนร้ายได้ใช้สีสเปรย์พ่นเป็นสีแดง หลังก่อเหตุได้กลับไปเปลี่ยนสีรถเป็นสีน้ำเงินตามเดิม ทำให้เจ้าหน้าที่หลงประเด็นไประยะหนึ่งสุดท้ายไม่รอดเงื้อมมือกฎหมายทำให้เชื่อว่าคนร้ายต้องเคยก่อเหตุมาแล้วอย่างโชกโชน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า