Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ศบค. เผยตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้เพิ่ม 8 คน เป็นคนเดินทางมาจากต่างประเทศ เป็น 13 วันแล้วที่ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ

วันที่ 7 มิถุนายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข มีการแถลงของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) ครั้งเดียว ประจำวัน โดยแพทย์หญิงพรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยศบค. ดังต่อไปนี้

– พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8 คน รวม 3,112 คน

– รักษาหายเพิ่ม 1 คน รวม 2,972 คน

– มีผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพิ่ม 7 คน เป็น 82 คน

– ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยังคงที่ 58 คน

พญ.พรรณประภา กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 8 คน เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ อยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ (state quarantine) เป็นวันที่ 13 แล้วที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยเป็น 0

สำหรับรายละเอียดผู้ติดเชื้อใหม่

– เดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  5 ราย เข้าไทยวันที่ 2 มิถุนายน 2563 ทุกรายเคยได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว ผลไม่พบเชื้อ กลับมาประเทศไทย ตรวจพบเชื้อ ทุกรายไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล กรุงเทพฯ

– รายที่ 1 หญิง อายุ 38 ปี อาชีพพนักงานบริษัท

– รายที่ 2  ชาย อายุ 37 ปี เป็นนักท่องเที่ยว

– รายที่ 3  หญิง อายุ 38 ปี อาชีพพนักงานสปา

– รายที่ 4 หญิง อายุ 23 ปี อาชีพพนักงานนวด

– รายที่ 5 หญิง อายุ 24 ปี อาชีพพนักงานขายอาหาร

– เดินทางกลับจากประเทศคูเวต 2 ราย

รายที่ 6 และ 7 เป็นชาย อายุ 46 และ 37  ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยวันที่ 24 พ.ค 63 ตรวจเชื้อวันที่ 27 พ.ค. ผลไม่พบเชื้อ ตรวจรอบที่ 2 วันที่ 6 มิ.ย. 63 ผลพบติดเชื้อโควิด-19 ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ

-เดินทางกลับจากประเทศอินเดีย 1 ราย

รายที่ 8 อายุ 52 ปี เดินทางถึงไทย วันที่ 5 มิ.ย. 63 จากการคัดกรองที่สนามบิน พบมีไข้และไอ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.สมุทรปราการ

ขณะนี้สถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 ไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศต่อเนื่องเป็นเวลา 13 วันแล้ว  และหลังมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 (วันที่ 1 มิถุนายน 2563) เป็นเวลา 7 วัน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ เป็นผลมาจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชนและผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ และการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าเมื่อออกนอกบ้าน โดยเฉพาะเมื่อไปในสถานที่ชุมชน หรือใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ที่ระบุไว้ว่า การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหะสถานนั้น “เป็นหนึ่งในวิธีซึ่งมีประสิทธิภาพ” ในการลดความเสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อโรค โดยยังต้องรักษาสุขอนามัย คือ การล้างมือให้ถูกวิธี และการรักษาระยะห่างจากผู้อื่นให้เป็นปกติสม่ำเสมอ

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงนี้กว่าร้อยละ 98 เป็นคนไทยที่เดินทางมากลับมาจากต่างประเทศและเข้าระบบเฝ้าระวังในสถานที่รัฐจัดให้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีประชากรหนาแน่น อัตราป่วยสูง คือ คูเวต ซาอุดิอาระเบีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน และกาตาร์ เป็นต้น

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) ขอแนะนำประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ขอให้ดูแล ป้องกันตัวเองและปฏิบัติการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ขอให้อยู่บ้าน รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง เพราะหากติดเชื้อจะมีอาการรุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูง เนื่องจากมีการวิจัยในประเทศจีน ศึกษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่รักษาในอู่ฮั่นจำนวนเกือบ 3,000 ราย พบว่า ผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูงจะมีอัตราการเสียชีวิตถึงร้อยละ 4 ขณะที่ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตปกติจะเสียชีวิตร้อยละ 1.1 หรือ เกือบ 4 เท่า และในผู้ป่วยที่หยุดกินยาลดความดันโลหิตมีอัตราเสียชีวิตร้อยละ 7.9

 

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า