Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

กทม.พบคลัสเตอร์ใหม่รายวันต้องเร่งขยายเตียงผู้ป่วยชายเพิ่ม ล่าสุดยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งประเทศอยู่ที่ 3,000 ราย ศบค.ย้ำเปิดเทอมต้องคุมเข้มมาตรการ พร้อมฉีดวัคซีนให้ครู นักเรียน และเด็กพิเศษกลุ่มเปราะบางอย่างเร่งด่วน

วันที่ 15 มิ.ย. 2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค. รายงานว่า ไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 3,000 ราย จากการยอดติดเชื้อในเรือนจำ 640 ราย และติดเชื้อในประเทศ 2,355 ราย โดยแบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,814 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 541 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 202,264 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 19 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,485 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายเพิ่ม 4,774 ราย ยอดผู้ป่วยหายแล้วสะสม 162,718 ราย และผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 38,061 ราย

ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในวันนี้ มี 5 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นคลัสเตอร์โรงงาน ตลาด และแคมป์ก่อสร้าง ได้แก่ จ.สมุทรสาคร โรงงานกล่องกระดาษ ป่วยเพิ่ม 10 ราย, สมุทรปราการ อ.บางเสาธง บริษัทผลิตขนมอบกรอบ ป่วยเพิ่ม 63 ราย อ.พระประแดง คอนโดมิเนียม ป่วยเพิ่ม 10 ราย , นครปฐม อ.สามพราน บริษัทไม่ระบุรายละเอียด ป่วยเพิ่ม 16 ราย , ฉะเชิงเทรา อ.พนมสารคาม บริษัทคัดแยกรีไซเคิล ป่วยเพิ่ม 13 ราย อ.บ้านโพธิ์ บริษัทชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ ป่วยเพิ่ม 17 ราย , ปราจีนบุรี อ.กบินทร์บุรี ป่วยเพิ่ม 4 ราย

สำหรับสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ กทม. มีรายงานเพิ่มเติมคลัสเตอร์ใหม่ที่เขตบางกอกน้อย คือ แคมป์ก่อสร้างคอนโดมิเนียมศุภาลัยปาร์ค แยกไฟฉาย ติดเชื้อแล้ว 96 ราย จากการตรวจคนงานทั้งหมด 363 ราย คิดเป็น 26.45% ถือว่าสูง ล่าสุดมีการปิดแคมป์และตรวจคัดกรองเชิงรุกทั้งแคมป์คนงานและชุมชนใกล้เคียง ขณะที่ปัจจุบันมีคลัสเตอร์เฝ้าระวังรวม 85 คลัสเตอร์

ทำให้เตียงรองรับผู้ป่วยชายค่อนข้างจำกัด ส่วนใหญ่คนงานที่พบในแคมป์จะเป็นเพศชาย จึงจำเป็นต้องขยาย โดยอาจจะโยกเตียงผู้ป่วยหญิงที่ กทม. มีอยู่โดยในช่วง 1-2 วันนี้ จะมีการปรับให้สามารถรับผู้ป่วยชายได้มากขึ้น อาจจะมีความล่าช้าในช่วงนี้ ขณะที่บ่ายวันนี้ กทม. จะมีการประชุมทีมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเรื่องการจัดการเตียงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กมีการหารือเกี่ยวกับการเปิดเรียนวันแรกมาตรการต่างๆ เป็นไปด้วยดี สถานศึกษา ครู ผู้ปกครองให้ความร่วมมือกับมาตรการดี แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด ยังไม่อนุญาตให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบ On Site หรือไปเรียนที่โรงเรียน  ส่วนโรงเรียนในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 17 จังหวัด สามารถจัดการเรียนแบบผสมผสานได้ โดยพิจารณาจากความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ หากต้องการเปิดการเรียนที่โรงเรียน จะต้องทำเรื่องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

ศบค. มีหลักเกณฑ์ให้สถานศึกษาทุกแห่ง ต้องทำแบบประเมินชุดคำถามจากกรมอนามัย เพื่อให้สถานศึกษาเข้าใจมาตรการควบคุมโรคจะทำให้ผู้ปกครองมั่นใจมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ผ่านการประเมิน  มีเพียงบางส่วนที่ยังไม่เปิดการเรียนการสอนจึงยังไม่ได้ทำแบบประเมิน และอีกหนึ่งมาตรการ คือ การขอความร่วมมือให้ครู นักเรียนและผู้ปกครอง ทำแบบประเมินตนเอง Thai Save Thai ก่อนจะไปโรงเรียนทุกวัน คล้ายกับเป็นพาสปอร์ต หากเป็นเด็กเล็กให้พ่อแม่ช่วยประเมิน เช่น ตรวจวัดอุณหภูมิ และสำรวจสุขภาพเบื้องต้น  ซึ่งมาตรการนี้จะเป็น New Normal ของสถานศึกษาทั่วประเทศ เพื่อให้ปลอดภัยจากโรค

ศบค.ชุดเล็กยังมีการหารือเกี่ยวกับเด็กพิเศษ ผู้พิการ และนักเรียนโรงเรียนประจำ ซึ่งต้องมีมาตรการที่แตกต่างจากสถานศึกษาทั่วไป เนื่องจากนักเรียนจะกินนอนอยู่ที่โรงเรียน ทำให้ขณะนี้ยังเปิดเรียนไม่ได้ จึงต้องจัดมาตรการเพิ่มเติม เช่น ตรวจ Rapid Test ก่อนจะเข้าไปในโรงเรียน เพื่อยืนยันว่าไม่ติดเชื้อ ส่วนการระดมฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการศึกษา ทาง ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขกำลังระดมฉีดให้กับครู และครูผู้ดูแลเด็กพิเศษ  ส่วนกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้พิการทางสายตา  ผู้พิการทางสมอง เด็กพิเศษ ออทิสติก ผู้ป่วยจิตเวช  ผู้บกพร่องทางจิต ผู้บกพร่องทางเชาว์ปัญญา หรือกลุ่มโรคอารมณ์ จะเป็นกลุ่มที่เข้าถึงวัคซีนได้ลำบาก จึงต้องขอให้ครอบครัว ชุมชน หรือโรงพยาบาลที่ดูแลอยู่ ช่วยให้คนกลุ่มนี้ได้เข้าถึงวัคซีน  โดยภาครัฐได้จัดจุดฉีดวัคซีนเฉพาะให้กับบุคคลกลุ่มนี้ เช่น ที่โรงพยาบาลราชานุกูล กรมสุขภาพจิต ซึ่งจะบริการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ และครอบครัวที่ดูแลบุคคลกลุ่มนี้ด้วย

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า