Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สมาคมคราฟท์เบียร์แห่งประเทศไทยยื่นหนังสือศบค. -กทม. ขอยกเลิกห้ามจำหน่ายเครื่องดื่ม เนื่องจากผู้ประกอบการณ์ที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยปราศจากการเยียวยา โดยตั้งข้อสังเกตว่าแม้จะมีการบังคับใช้มาตรการนี้มาถึง 45 วันแล้ว จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ทั้งยังมีคลัสเตอร์ใหม่ๆ จากสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นมาตลอด

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 สมาคมคราฟท์เบียร์แห่งประเทศไทยยื่นหนังสือต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 และ กรุงเทพมหานคร ร้องขอให้ยกเลิกคำสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อการบริโภคภายในร้านอาหารและบาร์ ระบุคำสั่งดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารและบาร์อย่างรุนแรง

“ทางสมาคมคราฟท์เบียร์ มีความเข้าใจถึงความปรารถนาดีของหน่วยงานสาธารณสุขและความกังวลในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส” ตอนหนึ่งของแถลงการณ์กล่าว “อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ มีความกังวลเป็นอย่างมากต่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการและพนักงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร ได้ใช้มาตรการตาม ศบค. ในการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้นั่งดื่มในร้านมานานกว่า 45 วันแล้ว และใช้มาตรการดังกล่าวมาโดยตลอด”

“แต่ปรากฏว่า รายงานผู้ติดเชื้อ Covid-19 ไม่ได้ลดลง มีการพบคลัสเตอร์ใหม่ๆ จากตลาด แคมป์ก่อสร้าง โรงงาน และสถานที่อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยที่คลัสเตอร์หลักในการระบาดเมื่อต้นปี 2020 และต้นปี 2021 ก็ไม่ได้เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้แต่คลัสเตอร์ทองหล่อ ก็มีการสืบสวนพบแล้วว่าต้นกำเนิดของการแพร่ระบาดเกิดจากธุรกิจกลางคืนที่เปิดดำเนินการอย่างผิดกฏหมาย”

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายย่อยที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคราฟท์เบียร์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวนไม่น้อยกว่า 300 ร้าน หลังเกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้สถานประกอบการณ์หลายแห่งขายแอลกอฮอลในร้านไม่ได้ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย ประมาณการมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นมูลค่าอย่างน้อย 150 ล้านบาทต่อเดือน

“ปัญหาความเสียหายที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบทั้งระบบธุรกิจ ตั้งแต่ผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่าย บริษัทขนส่ง บริษัทที่ให้เช่าคลังสินค้า ร้านค้า พนักงานประจำและพนักงานจ้างรายวัน ยังไม่รวมผู้ประกอบการร้านอาหารและผับบาร์ที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกกฎหมายหลายแสนราย ต่างได้รับความเสียหายรวมมูลค่ามหาศาล”

สมาคมคราฟท์เบียร์ระบุว่า ปัญหาที่เกิดกับอุตสาหกรรมคราฟท์เบียร์หลังคำสั่งห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน มีดังนี้

  • ร้านที่มีรายได้หลักจากการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้บริโภคในร้าน ไม่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ เนื่องจากผิดกฎหมายห้ามซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์ และไม่สามารถแนะนำสินค้าให้ซื้อกลับได้ เนื่องจากอาจถูกตีความว่ากระทำผิดมาตรา 32 พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายชนิด อย่างเช่น คราฟท์เบียร์ เบียร์สด สุราแช่ต่างๆ เป็นสินค้าที่มีอายุสั้น การถูกคำสั่งห้ามขาย ส่งผลให้สินค้าเสื่อมสภาพลงทุกวัน และกลายเป็นมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก
  • บริษัทนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างประเทศ ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง เนื่องจากไม่สามารถเก็บเงินจากร้านค้าได้ และยังต้องแบกรับภาระในการเสียภาษีศุลกากรและภาษีสรรพสามิตตามปกติเป็นจำนวนมาก ส่งผลไปถึงการติดต่อทำธุรกิจระหว่างประเทศ ที่อาจทำให้สูญเสียเครดิตและความน่าเชื่อถือ ในการที่ไม่สามารถชำระค่าสินค้าได้ตามกำหนด
  • ธุรกิจหลายประเภทประสบปัญหาอย่างรุนแรงจากมาตรการนี้ เนื่องจากสินค้าหลักต้องจำหน่ายในร้านเท่านั้น เช่น บริวผับ ค๊อกเทลบาร์ และยังส่งผลถึงสินค้าที่ได้เข้าสู่กระบวนการผลิตไปแล้วหรือสั่งมาแล้วในช่วงก่อนหน้าประกาศห้ามขาย ทำให้มีสินค้าจำนวนมากเสื่อมสภาพและต้องถูกทำลายทิ้งในที่สุด
  • ในสภาพวิกฤตดังกล่าวที่ไม่มีรายได้เข้ามา ร้านคราฟท์เบียร์ ผับ บาร์ ยังต้องรับผิดชอบค่าเช่าที่ ค่าจ้างพนักงาน และรายจ่ายประจำเดือนต่างๆ โดยไม่มีการช่วยเหลือจากรัฐบาล ทำให้ธุรกิจรายย่อยหลายแห่งได้ปิดตัวลงไปแล้ว และอีกไม่น้อยที่กำลังจะต้องหยุดดำเนินการเพราะแบกภาระไม่ไหว

ทั้งนี้ผู้ประกอบการคราฟท์เบียร์ร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีนโยบาย 4 ข้อเพื่อต่อลมหายใจธุรกิจแอลกอฮอล์

  1. ผ่อนปรนให้สามารถขายแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านค้าได้ โดยมีมาตรการคัดกรองอย่างเข้มข้นตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
  2. ชะลอการบังคับใช้กฎหมายห้ามซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์และผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรา 32 พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้ร้านค้าสามารถแนะนำและจำหน่ายสินค้าทางช่องทางออนไลน์ โดยยังบังคับให้ผู้ขายต้องตรวจสอบอายุของผู้ซื้อสินค้าให้เป็นไปตามกฎหมาย
  3. อนุญาตให้ผู้ประกอบรายย่อยการชะลอการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มและนำส่งประกันสังคม และอนุญาตให้ผู้นำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบ่งชำระภาษีสรรพสามิตและภาษีนำเข้าเป็นงวดๆ เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
  4. พิจารณาให้มีการระดมตรวจหาเชื้อ Covid-19 และฉีดวัคซีนในกลุ่มวิชาชีพผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ เนื่องจากการออกมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปิดสถานบันเทิง จึงถือว่าผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลต้องกำจัดความเสี่ยงโดยเร่งด่วนเพื่อให้เศรษฐกิจดำเนินไปได้อย่างสมควร

“สมาคมคราฟท์เบียร์ รวมถึงประชาชนทุกคนที่ประกอบอาชีพสุจริตในธุรกิจที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แต่หวังว่าทางภาครัฐจะมีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจปัญหาอย่างจริงใจถึงสถานการณ์ที่พวกเราได้รับผลกระทบอยู่ และขอให้ท่านได้พิจารณาข้อเยียวยาตามที่ได้เสนอไป” สมาคมคราฟท์เบียร์ระบุ

นอกจากนี้ในวันเดียวกันยังมีการเดินทางเพื่อจะไปยื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรม แต่พบว่าศูนย์ดำรงธรรมไม่เปิดทำการจากสถานการณ์โควิด-19 มีเพียงตู้ไปรษณีย์รับเรื่องเท่านั้น

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า