Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

รองผบ.ตร. ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ แถลงจับกุมขบวนการหลอกเด็ก16 ปี ค้าประเวณีที่เมียนมา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. สั่งชุดปฏิบัติการ ศูนย์พิทักษ์เด็กสตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับกุมขบวนการหลอกเด็กสาวอายุ 16 ปี บังคับค้าประเวณีในประเทศเมียนมา หลังนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรีได้ พาผู้เสียหาย อายุ 16 ปี เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยทางศูนย์พิทักษ์เด็กได้ ประสานกองกำลังทหารประเทศเมียนมา ชุด TBC ในพื้นที่แม่สอดเมียวดี เข้าไปช่วยเด็กอายุ 16 ปี ออกมาจากร้านคาราโอเกะ ที่ตั้งหลังคาสิโนแจ๊คดรากอนไยท์ เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา แล้วนำตัวเหยื่อข้ามฟากกลับประเทศไทยในคืนวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา และได้ประสานนางปวีณา นำพ่อแม่เด็กเดินทางไปรับที่ อ.แม่สอด จ.ตาก

สำหรับกรณีนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 1 ก.ย. 65 พ่อแม่ของเด็กสาวอายุ 16 ปี ร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาว่า ลูกสาวถูกเพื่อนชื่อออม ที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊กไม่กี่เดือนชักชวนไปเที่ยว จ.ตาก โดยลูกสาวอาศัยอยู่ที่บุรีรัมย์กับตายาย ส่วนพ่อแม่มารับจ้างที่จ.สระบุรี  โดยวันที่ 29 ส.ค.2565 ลูกสาวแชทมาบอกแม่ว่าถูกพาข้ามไปประเทศเมียนมา โดยบังคับให้มาทำงานที่ร้านคาราโอเกะและถูกบังคับให้ค้าประเวณี

เส้นทางการค้ามนุษย์ครั้งนี้ เริ่มจากเดือนกรกฎาคม น.ส.ออม ได้ตีสนิทกับเด็กอายุ 16 ปีผ่านทางเฟซบุ๊ก และชักชวนผ่านไลน์ให้มาทำงานร้านอาหาร ได้รายได้สัปดาห์ละ 50,000 บาท ทำงาน 2 เดือนได้เงิน 400,000-500,000 บาท ทำให้เด็กหลงเชื่อ เดินทางไป อ.แม่สอด พร้อม น.ส ออม เมื่อ16 ก.ค 65 ก่อนให้นายอาหลู่ผะ หรือ ไวน์ ซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ พร้อม น.ส.ออม พาข้ามชายแดนผ่านบ่องทางธรรมชาติไปฝั่งเมียนมา

จากนั้น 21 ก.ค 65 เด็กหญิงถูกส่งขายที่สถานบันเทิง  KTV ที่เขตท่าหนึ่ง ถูกบังคับให้ค้าประเวณี และนั่งดริงค์ จากนั้นเด็กถูกส่งไปขายต่อที่ร้านKTV สาขาชิงเห๋อ 5 ส.ค.65 และถูกนำมาขายต่อที่ซ่องของน.ส. สุพัฒตา ในช่วงวันที่ 17-21 ส.ค. ถูกบังคับให้ค้าประเวณี 6-7 ครั้ง  ซึ่งแต่ละครั้งจะได้ค่าตัว 2,000บาท แต่ถูกหัก 50% อ้างเป็นค่านายหน้า ส่วนอีก 50% ถูกหักเป็นค่าที่พักค่ารถจนหมด

จากการสอบสวนขยายผล พบว่า น.ส.ออม และสามี เป็นขบวนการนำพาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีไปขายบริการที่ฝั่งเมียรมา ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 6 เดือน  มีทั้งเด็กที่ถูกหลอกไปและสมัครใจไป  โดยน.ส.ออมให้การว่า ได้ค่าหัวคิวรายละ 20,000-100,000 บาท เบื้องต้นจากการสืบสวนทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่า ซ่องในฝัางเมียนมาเป็นของนางสาวสุพัฒตา ซึ่งตอนนี้มีหลักฐานเชื่อได้ว่า มีชาวจีนเป็นเจ้าของ ทั้งซ่องและสถานบันเทิง KTV ทั้ง 2 แห่ง อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ และประสานตำรวจระหว่างประเทศ

ส่วนผู้ที่อยู่ในขบวนการที่เป็นคนไทย ได้ออกหมายจับ และ จับกุมผู้ต้องหา  3 ราย ได้แก่

น.ส.ณัฐฐิตา หรือออม บุญญประภา อายุ 29 ปี จ.เชียงใหม่ ทำหน้าที่เป็นคนหลอกลวงให้เหยื่อไปทำงานที่ประเทศเมียนมา จับกุมได้ที่ท่าข้ามธรรมชาติ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก

นายอาหลู่ผะ หรือไวน์ เบียะสี อายุ 44 ปี จ.สมุทรปราการ สามีของ น.ส.ณัฐฐิตา ทำหน้าที่เป็นคนนำพาเหยื่อลักลอบข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมา จับได้ที่โรงแรมต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

น.ส.สุพัฒตา หรือกิ่ง บุระเนตร อายุ 23 ปี จ.อุดรธานี เป็นเจ้าของร้าน (KTV) ที่ประเทศเมียนมา บังคับเหยื่อค้าประเวณี จับกุมได้ที่ท่าข้ามธรรมชาติ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก

โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน ซื้อ จำหน่าย รับตัวผู้เยาว์อายุกว่า15ปีแต่ยังไม่เกิน18 ปี ที่ถูกพรากไปจากบิดามารดา เพื่อหากำไร อนาจาร, ข้อหาค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากดารค้าประเวณี เป็นธุระจัดหา หรือรับไว้ซื่งเด็ก ได้กระทำกับบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี และบังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยข่มขืนใจหรือให้บริการโดยวิธีนำภาระหนี้สินและชักจูงส่งเส่มยินยอมหรืกระทำเป็นการแสวงหาประโยชน์มิชอบจากเด็ก

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า