Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุป ‘ดารุมะ’ เวาเชอร์ทิพย์ ? หวั่นซ้ำรอย ‘แหลมเกต’

 

สายบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นนั่งไม่ติด ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับร้านอาหารญี่ปุ่น DARUMA sushi (ดารุมะ ซูชิ) ซึ่งมีสาขาอยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง มากกว่า 20 สาขา เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีผู้เข้าไปค้นหาเพจของร้าน ปรากฏว่าหาไม่เจอ (เหลือแต่เพจเก่า) มิหนำซ้ำเว็บไซต์ก็ปลิวหายกะทันหัน จึงส่งเสียงดังๆ ในโซเชียลจนข่าวกระจายออกไปเป็นวงกว้าง

ต่อมามีผู้คนส่งข้อมูลเข้ามาแชร์ในโซเชียลว่า พบหลายสาขาขึ้นป้าย ปิดร้าน 1 วัน โดยให้เหตุผลว่า “เพื่อปรับปรุงระบบ” แต่แล้ววันนี้ (18 มิ.ย.) สาขาที่แจ้งเช่นนั้นก็ไม่เปิดบริการตามปกติ ทำให้ลูกค้าที่ซื้อบัตรรับประทานอาหาร (Voucher) จำนวนมากแสดงความกังวลว่า จะต้องเสียเงินที่โอนซื้อ Voucher ไปแล้วหรือไม่

ข้อมูลจาก แฮชแท็ก ดารุมะ ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีการจัดโปรโมชั่น เปิดขาย Voucher ราคา 199 บาท โดยมีเงื่อนไขต้องซื้อ 5 ใบขึ้นไป ซึ่งโปรฯ ล่าสุดคือ 199 บาท ตั้งแต่ใบแรก และบัตร Voucher แต่ละใบมีอายุถึง 6 เดือน

ร้านมีระบบแฟรนไชส์ อีกทั้งที่ตั้งของสาขาแต่ละแห่งอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียง ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ค่อนข้างมั่นใจ แม้บางคนยอมรับว่า โปรโมชั่นบัตร Voucher ราคาต่ำล่าสุด ค่อนข้างน่าเชื่อยาก เพราะสวนทางกับข่าวราคาวัตถุดิบปรับตัว โดยเฉพาะ ราคาปลาแซลมอน ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาค่อนข้างสูง

ผู้ลงทุนแฟรนไชส์ DARUMA sushi ที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจรายหนึ่ง คือ ‘เพชร กฤชฐารวี’ พิจิตรพงศ์ชัย ทายาทเครื่องครัวตราจระเข้ ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว หลังมีดราม่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. โดยมีใจความว่า “ขออนุญาต ชี้แจงเรื่องร้านดารุมะ ซูชิ ที่เพชรได้ซื้อแฟรนไชส์มาจากคุณเมธา ชลิงสุข ทั้งหมด 6 สาขา ซึ่งในขณะนี้ เพชร และเจ้าของสาขาต่างๆ อีก 10 กว่า สาขา ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้รวมตัวกัน รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดารุมะและผู้บริหาร”

“โดยทางเพชรและผู้เสียหายที่ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ได้ทำการลงเงินเพื่อเปิดสาขา โดยมีบริษัทดารุมะ เป็นผู้บริหารจัดการและเป็นคนดูแลบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมดเเต่เพียงผู้เดียว และจะปันผลเป็นรายเดือนให้กับผู้ลงทุน การจัดโปรโมชั่นต่างๆ เป็นการดำเนินการโดยผู้บริหารบริษัทดารุมะ ซึ่งทางผู้ลงทุนไม่มีส่วนในการบริหารจัดการ ณ เวลานี้ทางกลุ่มผู้ลงทุนพยายามติดต่อผู้บริหารบริษัทดารุมะ เพื่อรอฟังคำชี้แจง”

กระแสข่าวไม่ค่อยสู่ดีออกมาอย่างต่อเนื่อง ชาวเน็ตแชร์ข้อมูลกันว่า ตอนนี้ผู้บริหารของร้านอาหารญี่ปุ่นดังนี้ไม่อยู่ในประเทศไทยแล้ว เดินทางไปต่างประเทศ บ้างว่าไป ‘ดูไบ’ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่อ้างว่า ผู้จัดการสาขารายหนึ่ง ออกมาให้ข้อมูลภายใน 3 ปี ธุรกิจนี้ไม่มีทีมบริหาร ไม่มีฝ่ายบุคคล ไม่มีฝ่ายบัญชี ทุกการตัดสินใจอยู่ที่ผู้บริหารเพียงคนๆ เดียว มีการค้างจ่ายค่าปลาแซลมอนกว่า 30 ล้านบาท ขณะที่ นักลงทุนที่ซื้อแฟรนไชส์นี้ไปเปิด ต้องจ่ายสาขาละ 2-2.5 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าเช่าและค่าตกแต่งสถานที่ และเดือนนี้คาดว่า พนักงานจะไม่ได้รับเงินเดือน

ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกประกาศ ให้ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อคูปองล่วงหน้า (e-voucher) ของร้านญี่ปุ่นชื่อดังโดยไปใช้บริการแล้วร้านปิดไม่สามารถใช้บริการได้ ขอให้เก็บหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อคูปองล่วงหน้าหลักฐานการคุมกันใน App/Chat หากชำระเงินผ่านบัตรเครดิตขอให้ติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรขอเงินคืนโดยด่วน

จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนพากันนึกถึงคดี ‘แหลมเกต ซีฟู้ด’

ร้านอาหารบุฟเฟต์อาหารทะเล ที่ชื่อว่า ‘แหลมเกต อินฟินิท’ ย่านห้าแยกลาดพร้าว ในปี 2562 ทางร้านได้เปิดขาย (Voucher) เป็นจำนวนมากตามแต่ละโปรโมชั่น ชุดละ 10-30 ที่นั่ง ผ่านช่องทางเว็บไซต์ และไลน์ โดยมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง ขายเป็นชุด ชุดละ 880-3,000 บาท คิดเป็นที่นั่งละ 88-101 บาท จากปกติราคาต่อหัว 666 บาท จำกัดเวลา 90 นาที

โดยลูกค้าจะต้องซื้อบัตรรับประทานอาหารล่วงหน้า โอนเงินเข้าบัญชี บริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด และต้องจองคิววันที่จะเข้าไปรับประทานอาหาร ผ่านทางระบบออนไลน์ของร้าน ภายหลังพบว่า ทางร้านได้ประกาศเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2562 ขอยกเลิกและงดบริการทุกโปรโมชัน เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และเกินความคาดหมายทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะใช้วัตถุดิบสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ ก่อนที่จะปิดปรับปรุงกิจการชั่วคราว และไม่ยอมคืนเงิน ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมากแจ้งความเพื่อดำเนินคดี และ ตำรวจ ปคบ. จับกุมผู้บริหารเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2562

และเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2563 ศาลอาญาจำคุก 1,446 ปี สองกรรมการบริษัท ‘แหลมเกตุ ซีฟู้ด’ ฉ้อโกงประชาชน โดยจัดโปรโมชันบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดราคาถูก ชักชวนให้คนหลงเชื่อซื้อ แต่กลับยกเลิกไม่คืนเงิน แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงความผิดแล้ว คงจำคุกจำเลย คนละ 20 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า