ชาวแฟลตดินแดง ขึ้นป้ายประกาศ “ที่นี่ไม่ใช่สนามรบ” 24 ส.ค. เตรียมบุกยื่นหนังสือร้องนายกฯ หากไม่จัดการจะย้ายบ้านหนี

ชาวแฟลตดินแดงติดป้ายไวนิลสีขาวที่บริเวณกำแพง และอาคารแฟลตดินแดง 1-3 ประกาศ เราชาวดินแดงไม่ต้องการให้ที่นี่เป็นสนามรบ และป้ายขอคืนความสงบ หลังพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง เป็นจุดเผชิญหน้าระหว่าง ตำรวจคฝ. และกลุ่มผู้ชุมนุม มากว่า 1 สัปดาห์

วันที่ 21 ส.ค. 2564 นายประสงค์ หอมสนั่น 1 ในคณะกรรมการชุมชนแฟลต 1-20 เปิดเผยถึงความเดือดร้อนของชาวแฟลตดินแดงจากการควบคุมและสลายการชุมนุมทางการเมืองว่า ทางคณะกรรมการชุมชนได้รับการร้องเรียนจากลูกบ้านโดยเฉพาะแฟลต 1-4 ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแก๊สน้ำตา กระสุนยางถูกยิงเข้าไปในห้องขณะที่อยู่อาศัย

ลูกบ้านบางรายที่ออกมายืนดูเหตุการณ์ถูก คฝ. ยิงแสงเลเซอร์ใส่ ตามด้วยกระสุนยาง ทั้งที่ไม่ได้ร่วมชุมนุม เรียกได้ว่าตอนนี้ชาวดินแดงกินข้าวกับแก๊สน้ำตาทุกวัน เดือดร้อนมาก เพราะมีเด็ก คนแก่ จำนวนมาก รวมไปถึงร้านค้าที่ขายของต่อไม่ได่ หลัง 18.00 น. คฝ. กระชับแนวเข้าตามกรอกซอกซอย ยิงแก๊สน้ำตาเข้าร้านค้า ต้องรีบปิดร้านหนี

ทางคณะกรรมการขอเสนอให้หน่วยงานที่กำกับดูแล คฝ. โดยเฉพาะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขยับแนวคอนเทนเนอร์ให้ไปอยู่หน้ากรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดี-รังสิต เพราะการตั้งตรงจุดนี้ เสมือนเป็นการยั่วยุให้กลุ่มผู้ชุมนุมมารวมกันตรงนี้ ซึ่งหากเลื่อนไปจะทำให้คนแก่ที่แฟลตดินแดง สามารถเดินทางไปหาหมอ ที่ รพ.ทหารผ่านศึกได้ด้วย และหากเจ้าหน้าที่ต้องการที่จะควบคุมไม่ให้เกิดการชุมนุมในช่วง 16.00 น. ควรจะแบ่งกลุ่มกระจายสกัดการชุมนุม

การอ้างว่าเจ้าหน้าที่อยู่ในแนวแล้วรอผู้ชุมนุม ก็คือการปะทะกันอีกทั้งตามหลักสากล การยิงแก็สน้ำตาและกระสุนยางใช้เพื่อระงับเหตุ หยุดการชุมนุม แต่ที่เห็น คฝ. มีการไล่ล่ากันกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปซอกซอย หากจะระงับเหตุ ควรหยุดไล่ล่าที่ถนนใหญ่ไม่ควรเข้าไปในพื้นที่ชุมชน แล้วยิงกระสุนยางหรือแก็สน้ำตาเข้าผู้ชุมนุมที่หนี มันทำให้มีชาวบ้านถูกลูกหลงไปหลายสิบราย ทั้งนี้ยืนยันว่า ผู้ชุมนุม 80-90% เป็นคนนอกพื้นที่ที่อาศัยซอกซอยวิ่งหลบหนี

ในวันอังคารที่ 24 สิงหาคม ชาวแฟลตดินแดง จะไปยื่นหนังสือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีให้จัดการ แต่ถ้านายกรัฐมนตรีไม่จัดการ ขอให้ย้ายบ้านหนีไป โดยตอนนี้มีรายชื่อผู้เดือดร้อนแล้วประมาณ 1,000 ราย

ทั้งนี้ การร้องขอให้สามเหลี่ยมแดงกลับมามีสภาพเหมือนเดิม ตนได้ร้องขอไปยังฝั่งผู้ชุมนุมแล้ว ซึ่งมีคนรับปากแล้ว และขอให้ผู้ชุมนุมยึดหลักสงบสันติ อย่าใช้อาวุธเข้าปะทะกัน