เอ็ด 7 วิ กับ 7 แนวคิด ของชีวิตวัยเลข 4 ที่เพิ่งได้ค้นพบเป้าหมายสำคัญ

หากนึกถึงโฆษณาที่ออกมาทีไรก็ไวรัล ปัง และเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ หนึ่งในนั้นก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผลงานความครีเอทีฟของ เอ็ดดี้ – ญาณวุฒิ จรรยหาญ หรือพี่เอ็ด 7 วิ 

ชีวิตบนเส้นทางความสร้างสรรค์มากกว่า 10 ปีตั้งแต่ช่องเสือร้องไห้ มาจนถึงช่องเอ็ด 7 วิ เอ็ดดี้ก็ได้ตกตะกอนและเติบโตเรื่อยมา และกลายมาเป็นช่วงเวลาผลัดใบในวันที่อายุถึงเลข 4 ที่เขาได้ค้นพบความสุขและเป้าหมายของชีวิต หลังจากไม่เคยมองเห็นมาก่อน

ชวนไปสำรวจช่วงชีวิตของ เอ็ด 7 วิ กับ 7 แนวคิดที่เขาได้ตกตะกอนตลอดช่วงชีวิตของการเติบโตที่ผ่านมา

1.รู้งี้จะเลือกสิ่งที่ตัวเองอยากเป็น

หากถามว่าถ้าให้ย้อนกลับไปในอดีตจะเลือกเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของตัวเองไหม เอ็ดดี้ไม่ลังเลที่จะเลือกเปลี่ยนแปลงอดีตที่เคยผ่านมา และอยากทำตามใจตัวเองมากกว่านี้ โดยหนึ่งในความฝันของเขาคือการได้เรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แต่ในอดีต เขากลับเลือกเรียนบัญชีด้วยความกลัวไม่มีงานทำ และการเลือกนั้นยังส่งผลมาสู่คำถามของเขาในทุกวันเสมอ เพราะเอ็ดดี้ยังคงรักในการสำรวจสถาปัตยกรรมดี ได้เห็นการออกแบบเจ๋งๆ และกลายเป็นสิ่งที่เขารู้สึกเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้

2.ความสร้างสรรค์คือความสามารถในการแก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาด

ในมุมมองคนภายนอก เอ็ดดี้ อาจเป็นเหมือนเครื่องจักรที่ผลิตความคิดสร้างสรรค์ได้ไม่รู้จบ แต่ในมุมของเขาเอง เขาเห็นว่าความสร้างสรรค์ในแบบของเขานั้นอาจไร้แก่นสาร และเขาเชื่อว่าคำว่า ‘ความคิดสร้างสรรค์’ หรือ Creativity ไม่ใช่การมีไอเดียเล่าเรื่องสนุกอย่างเดียว แต่ความคิดสร้างสรรค์อยู่ทุกที่ ตั้งแต่คนออกแบบโต๊ะ ลำโพง ไปจนถึงคนที่ออกแบบสะพาน เพราะเอ็ดดี้เชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์คือความสามารถในการแก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาด ในสายตาของเขา

3.สัจธรรมชีวิตที่มีขึ้นมีลง

ในช่วงจุดสูงสุดของชีวิต ในวันที่งานของเขาเป็นที่รู้จัก จนกระทั่งถึงปัจจุบัน เอ็ดดี้ได้ตกตะกอนและมองเห็นสัจธรรมของชีวิตที่เมื่อมีจุดสูงสุด ก็จะมีการร่วงหล่น และทำให้เขาค่อยๆ ยอมรับและเตรียมพร้อม เพื่อจะดูแลทุกคนได้ ในวันที่ความสำเร็จสูงสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว 

4.ดูแลตัวเองให้ดีตั้งแต่วัยรุ่น

เมื่อย่างเข้าสู่วัย 40 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนที่เอ็ดดี้สัมผัสได้คือร่างกายที่ไม่เต็มร้อยเหมือนเดิม ทุกวันนี้เอ็ดดี้มองว่าตัวเองคือเครื่องจักรที่ทำงานไม่เคยหยุดและได้พังไปแล้ว เขามองว่าสุขภาพร่างกายฟื้นคืนได้ยาก ต่างจากช่วงหนุ่มสาว และนั่นทำให้เขาเห็นว่าการดูแลตัวเองให้ดี ไม่ใช้ชีวิตไร้สาระเกินไป และเตรียมพร้อมเอาไว้ในทุกมิติเผื่อวันที่แก่ชรา เป็นเรื่องสำคัญขึ้นมา

5.อยากให้ประเทศไทยมีการุณยฆาต

เพราะเชื่อว่าการจากไปแบบเตรียมพร้อมได้ และไม่เจ็บป่วยเกินไปเป็นเรื่องสำคัญ เอ็ดดี้จริงจังกับการวางแผนเผื่อสำหรับจังหวะชีวิตที่ต้องล้มป่วยและลำบากคนข้างหลัง ด้วยการสนับสนุนให้มีการการุณยฆาต เขาเชื่อว่าถ้าเกิดล้มป่วยขึ้นมา จะเกิดความทรมานทั้งกับคนที่ป่วย และคนที่ดูแลผู้ป่วย การุณยฆาตจึงเป็นคำตอบสำหรับเอ็ดดี้ในวันนี้

6.เตรียมทุกอย่างให้ลูกเพราะการโตเป็นผู้ใหญ่ไม่ง่าย

ลูก คือทุกอย่างของชีวิต และนั่นทำให้เอ็ดดี้ยังคงไม่หยุดพักและทำงานเพื่อที่จะมีทรัพยากรที่เพียงพอมาส่งต่อให้ลูกได้เติบโตไปอย่างมีคุณภาพ เขามองว่าหากคนเลือกจะมีลูก อาจจะต้องทบทวน 2 สิ่งสำคัญคือ หนึ่ง ความอยากมีลูก  และสอง ทุนทรัพย์หรือทรัพยากรที่จะส่งต่อให้ลูก เพราะเขาเห็นว่าการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไม่ง่าย และในวันที่ลูกคือกล่องดวงใจ เอ็ดดี้มองว่าตัวเองคงทนเห็นลูกทุกข์ หรือลำบากไม่ได้ และนั่นกลายมาเป็นไฟให้เขายังทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

7.ความสุขอยู่ที่บ้าน

ในวันที่เอ็ดดี้วิ่งต่อสู้กับชีวิตมาเนิ่นนาน และยังไม่เคยได้หยุดพัก วันนี้เขากลับได้ค้นพบสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือ ความสุขที่หมายถึงความสงบ ซึ่งเกิดขึ้นที่บ้านของเขา กิจกรรมที่ชวนให้รู้สึกสบายสำหรับเขากลายเป็นกิจกรรมเรียบง่ายอย่างการนั่งมองสนามหญ้าหน้าบ้านกับภรรยา หรือทำสวน และยิ่งทำให้เขาเข้าใจว่าทำไมเมื่ออายุเยอะขึ้น การทำสวนจึงกลายเป็นกิจกรรมที่สร้างความสุขได้ เพราะนั่นคือการเข้าถึงสมาธิและความผ่อนคลายอย่างแท้จริงนั่นเอง

ติดตามสัมภาษณ์เต็มๆ ของเอ็ด 7 วิได้ที่ : https://youtu.be/UYyRYK_x5uw?si=vkEVk2Nf92eqQPmj 

#WISDOMxเอ็ด7วิ 

#AIMHOUR

#สำนักข่าวทูเดย์