จากที่ ‘ไทย’ เคยเป็นหมุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของชาวจีน มีทั้งชาวจีนจำนวนมากเข้ามาทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวจากจีนอีกกว่า 10 ล้านคนต่อปี (ในปี 2562)
ทำให้ Fly-Food (飞象外卖) แพลตฟอร์มส่งอาหารเพียงหนึ่งเดียวที่รวบรวมร้านอาหารจีนที่หลากหลายในประเทศไทย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยมีการขยายธุรกิจไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง ที่นักท่องเที่ยวจีนนิยม เช่น กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และระยอง เพื่อเน้นให้บริการแก่ชาวจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในไทย และนักท่องเที่ยวจากจีนโดยเฉพาะ
‘ต้า เผิง’ ผู้ก่อตั้ง Fly-Food กล่าวว่า จากการสังเกตว่านักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มที่จะเดินทางมายังประเทศไทยในช่วงวันหยุดยาว ในช่วงวันแรกๆ นักท่องเที่ยวมักจะเลือกลิ้มลองอาหารท้องถิ่นเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แต่หลังจากนั้น ส่วนใหญ่ก็เริ่มมองหาอาหารจีนแท้ๆ ที่คุ้นเคยเพื่อความสบายใจ จึงเป็นโอกาสให้เขาจุดประกายไอเดียธุรกิจเปิดตัวแพลตฟอร์มนี้ไปเมื่อปี 2561
ธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น กลับได้รับผลกระทบทันทีเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เมื่อยอดนักท่องเที่ยวชาวจีนหายไป และการเดินทางต้องหยุดลงชั่วคราวจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19
ต้า เผิง ยอมรับว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อลูกค้าของ Fly-Food โดยบางคนตกงาน ขณะที่นักท่องเที่ยวบางส่วนไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ส่งผลให้อำนาจในการใช้จ่ายลดลงไปด้วย
Fly-Food เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลและเทคโนโลยีในรูปแบบที่สร้างสรรค์ ปรับกลยุทธ์ดิจิทัลและปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ด้วยการเปิดตัว ‘มินิโปรแกรมบนอาลีเพย์’ (Alipay) โดยคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง ซึ่งส่งผลให้ชาวจีนไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้โดยสะดวก และ “อาหารท้องถิ่นของจีน” น่าจะเป็นหนทางหนึ่งในการเยียวยาจิตใจให้ชาวจีนได้หายคิดถึงบ้านเกิดได้เป็นอย่างดี
หลังจากเปิดตัวมินิโปรแกรม Fly-Food บนอาลีเพย์ พบว่า Fly-Food มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดสั่งซื้อจากลูกค้าประจำ ล่าสุด Fly-Food มียอดสั่งซื้อเฉลี่ยสูงถึง 700 รายการต่อวัน และมีร้านอาหารเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้น โดย 40% ของร้านอาหารทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 1,500 ร้าน เป็นร้านเข้าร่วมกับ Fly-Food หลังจากการแพร่ระบาด และหลายร้านที่มากกว่าครึ่งของยอดขายมาจากออเดอร์ที่สั่งผ่าน Fly-Food
ทั้งนี้ Fly-Food มียอดสั่งอาหารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15 % จากการเข้าร่วมแคมเปญที่อาลีเพย์จัดทำร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยภายใต้แคมเปญดังกล่าว มีการแจกคูปองดิจิทัลเพื่อกระตุ้นให้ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้เดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในไทยอย่างปลอดภัย ตามมาตรการการป้องกันของรัฐ
“ในโลกวิถีใหม่ ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้นกับเรื่องของราคา ซึ่งนั่นหมายความว่า “ความคุ้มค่า” ยังคงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ คูปองดิจิทัลที่ให้ลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มอาลีเพย์มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า และเรายังพบว่าผู้ใช้อาลีเพย์มีความคุ้นเคยและเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือการตลาดเพื่อให้ได้รับความคุ้มค่าสูงสุดจากการใช้จ่าย ส่งผลให้อัตราการเข้าร่วมของลูกค้าอยู่ในระดับที่ดี และให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ขณะเดียวกัน สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน อาลีเพย์ก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจให้กับลูกค้าในการใช้คูปองดิจิทัลสำหรับบริการของ Fly-Food” ต้า เผิง กล่าวเสริม
Fly-Food ยังเปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด บริการดิจิทัลช่วยสร้างมูลค่าและประโยชน์ต่างๆ มากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ภาคส่วนต่างๆ จึงรีบเร่งดำเนินการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยข้อมูลจาก Deloitte ระบุว่าในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 78% ของผู้บริโภคที่มีอายุ 21- 40ปี ใช้บริการดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาด ในประเทศไทยผู้บริโภค 58% ระบุว่าตนเองสั่งซื้ออาหารผ่านบริการส่งอาหารเพิ่มมากขึ้น