ความเห็น ส.ว. อเมริกัน ‘แดร็กควีน’ เป็นอันตรายต่อเด็กมากกว่าอาวุธปืน

รายการทอล์กโชว์ชื่อดังของสหรัฐฯ ตั้งคำถามถึง ส.ว.อเมริกันที่ต่อต้านกฎหมายการขึ้นทะเบียนครอบครองอาวุธปืน หลังเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ส.ว. คนดังกล่าวยังยืนยันว่า ‘แดร็กควีน’ เป็นอันตรายต่อเด็กมากกว่าอาวุธปืน

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมเอกชน Covenant School ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 6 ราย เป็นเด็กนักเรียนประถม อายุ 9 ขวบ 3 ราย และผู้ใหญ่ 3 ราย 

เหตุการณ์นี้ทำให้กฎหมายครอบครองอาวุธปืนกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง โดยเฉพาะการตั้งคำถามว่า นโยบายการครอบครองอาวุธปืนของสหรัฐฯ ในปัจจุบัน เป็นอันตรายต่อเยาวชนเกินไปหรือไม่ 

คำถามเดียวกันนี้ยังเกิดขึ้นพร้อมๆ กับกระแสเรียกร้องให้ควบคุม ‘การแสดงของแดร็กควีน’ จากฝ่ายรีพับลิกันบางส่วน ที่มองว่า แดร็กควีนเป็นอันตรายต่อเยาวชนมากกว่าอาวุธปืน

สองเรื่องนี้ถูกนำมาถกเถียงในรายการทอล์กโชว์ชื่อดัง The Problem With Jon Stewart โดยเชิญ นาธาน ดาห์ม สมาชิกวุฒิสภารัฐโอคลาโฮมา ผู้เขียนกฎหมายที่ลดข้อจำกัดในการครอบครองอาวุธปืนหลายฉบับ ซึ่งรวมถึงกฎหมายธงแดง ที่มีผลให้ทางการยึดอาวุธปืนจากบุคคลที่ถูกมองว่าเป็นอันตรายได้ มาถกในประเด็นดังกล่าว

โดย ส.ว.รัฐโอคลาโฮมา ได้กล่าวไว้ในตอนหนึ่งขณะสัมภาษณ์ว่า ยิ่งมีอาวุธปืนมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นไปด้วย

ในขณะที่ จอน สจ๊วต พิธีกร แย้งว่า ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีผู้ถือครองอาวุธปืนกว่า 400 ล้านกระบอก แต่อัตราการเสียชีวิตจากอาวุธปืนกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 

ผู้ดำเนินรายการอ้างการรายงานจากตำรวจว่า ถ้ามีการขึ้นทะเบียนอาวุธปืนและสามารถติดตามการซื้อขายอาวุธดังกล่าว หรือกระทั่งถ้าหากว่าทางการสามารถทำให้กระสุนปืนที่ถูกซื้อไป ได้รับการลงสัญลักษณ์ใด ๆ ก็ตามที่เป็นการยืนยันตัวเจ้าของ การบังคับใช้กฎหมายในการถือครองอาวุธปืนจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงจะสามารถลดอัตราการเกิดเหตุกราดยิงได้อีกด้วย 

“แต่สาเหตุของการกราดยิงไม่ได้เกิดจากอาวุธปืน แต่มาจากตัวบุคคลต่างหาก” ส.ว.รัฐโอคลาโฮมา กล่าวแย้ง

สมาชิกวุฒิสภารัฐโอคลาโฮมา ยังกล่าวอีกด้วยว่า หน้าที่ของเขาคือการปกป้องสิทธิในการถือครองอาวุธปืนของประชาชน ไม่ใช่การอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่าการขึ้นทะเบียนอาวุธปืน จะเป็นการละเมิดสิทธิประชาชนอีกด้วย

ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ ผู้ดำเนินรายการได้ยกกฎหมายจำกัดสิทธิในการแสดงของแดร็กควีนขึ้นมาโต้แย้ง โดยกล่าวว่า นาธาน ดาห์ม สมาชิกวุฒิสภารัฐโอคลาโฮมา สนับสนุนกฎหมายต่อต้านการแสดงแดร็ก ทั้งที่การแสดงดังกล่าวเป็นเสรีภาพในการแสดงออก อย่างเช่น กิจกรรมเล่านิทานของแดร็กควีนในห้องสมุดสาธารณะ ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ ต่อผู้ชมแม้แต่น้อย

“ที่ต้องสนับสนุนกฎหมายฉบับที่มีผลจำกัดสิทธิในการแสดงของแดร็กควีนนั้น เป็นเพราะรัฐบาลมีหน้าที่คุ้มครองเยาวชน” ส.ว.รัฐโอคลาโฮมา ระบุ ด้วยความเชื่อที่ว่า การแสดงของแดร็กควีนเป็นการล่วงละเมิดและไม่เหมาะสมต่อเด็กและเยาวชน

ซึ่งทำให้ จอน สจ๊วต พิธีกร กล่าวโดยยกสถิติอัตราการเสียชีวิตของเด็กและเยาวชนในประเทศขึ้นแย้งว่า สาเหตุลำดับต้น ๆ ต่อการเสียชีวิตของเยาวชนในสหรัฐฯ ไม่ใช่การแสดงหรือการเล่านิทานของแดร็กควีน ไม่ใช่ทั้งโรคมะเร็งและอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่เป็นเพราะ ‘อาวุธปืน’

ในขณะเดียวกัน ทิม เบอร์เช็ตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พรรครีพับลิกัน ได้ออกมากล่าวถึงเหตุกราดยิงครั้งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 มี.ค.) ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี 

“นั่นเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก ๆ แต่เราจะไม่แก้กฎหมายในการครอบครองปืนเด็ดขาด” ส.ส. พรรครีพับลิกัน ระบุ และกล่าวต่อว่า “ผมไม่เห็นว่าสภาคองเกรสจะทำอะไรได้มากไปกว่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากขึ้น พูดตามตรง ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถหยุดความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืนได้” 

ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2023 เหตุกราดยิงเกิดขึ้นแล้วกว่า 130 ครั้ง ในเวลาเพียง 3 เดือน จนเป็นประเด็นในการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ถึงเสรีภาพในการครอบครองอาวุธปืนในสหรัฐฯ ที่สร้างความสูญเสียให้กับสังคมนับครั้งไม่ถ้วน ในขณะที่การแสดงของแดร็กควีนที่ไม่ก่อให้เกิดความสูญเสียใด ๆ กลับถูกฝ่ายอนุรักษนิยมมองว่า เป็นภัยต่อสังคม

ที่มา:

The Problem With Jon Stewart

The Guardian

BBC