Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

มีใคร…ไม่เคยมีอาการเกลียด ‘วันจันทร์’ บ้างครับ

หรือมีใคร ‘ชอบทำงานจนตัวสั่น’ และ ‘เกลียดการนั่งดูซีรีส์’ หรือ ‘รังเกียจการนั่งชิล เมาท์กับเพื่อนแบบไม่ต้องกังวลถึงวันจันทร์’ บ้าง

ถ้าคุณเป็นคนดีคนนั้น ผมว่าคุณคงเป็นหนึ่งในร้อย หรือ หนึ่งในพันที่หาได้ยากมากบนโลกใบนี้ครับ

ใช่ครับ เราๆ แทบทุกคน ที่เป็นมนุษย์ธรรมดา เราส่วนใหญ่ถือสโลแกนที่ว่า “รักวันศุกร์ สนุกวันเสาร์ วันอาทิตย์เริ่มเศร้า วันจันทร์อยากตาย”

อันนี้คือสิ่งที่เราๆ บอกตัวเราเองมาเสมอ ว่าเราเกลียดวันจันทร์

แต่เราลองมองไปลึกๆ และถามตัวเองดีๆ เราเกลียด “วันจันทร์” เพียงเพราะมันเป็นวันวันหนึ่งจริงๆ หรือ

ผมว่าไม่ใช่ เพราะถ้าวันจันทร์ไหน เราได้หยุด เราก็หันไปเกลียดวันอังคารแทน (อ้าว วันอังคารก็มารับเคราะห์แทนวันจันทร์ไป)

ดังนั้น จริงๆ แล้วแปลว่า หลักง่ายๆ ของความเกลียดของเรา คือ วันทำงานวันไหนที่ตามติดมาจากวันหยุดที่เราได้นอนสบายบนโซฟา สวมเสื้อผ้าเหี่ยวๆ ได้ลงรูปสวยๆ ใน IG หรือ อวดชีวิตดีๆ ในโซเชียล…เราก็เกลียดวันนั้นหมด เป็นแบบนั้นใช่ไหมครับ

ดังนั้น ชัดแล้วใช่ไหมครับว่าจริงๆ แล้ว เราไม่ได้เกลียดวันจันทร์…แต่เราเกลียดอย่างอื่น และจากประสบการณ์ สิ่งที่เป็น X factor ที่เราเกลียด นั่นก็คือ ‘งาน’ และส่วนประกอบอื่นๆ ที่เราต้องเจอในงาน

และพอพูดเรื่องเกลียดงาน ผมก็เคยมานั่งคิดต่อให้ลึกลงไปอีกว่า จริงๆ เรา ‘เกลียดงาน’ หรือ เราเกลียดอะไรกันแน่ และพบว่า..ส่วนใหญ่แล้ว เราไม่ได้เกลียดงานนะครับ

เราๆ ก็รู้อยู่เต็มอกว่างานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข..และยิ่งในโลกที่เป็นทุนนิยมมหาศาลขนาดนี้ หลายคนไม่มีงานไม่ได้ เพราะชีวิตจะดับมอดทันที ด้วยเหตุผลว่า สายป่านทางการเงินจะขาด

ดังนั้น เราไม่ได้เกลียดงานครับ เพราะเรารู้ว่างานแลกเงิน และความสะดวกสบายอื่นๆ ในชีวิตมาให้เรา แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่หลายคนเกลียดและเหนื่อยหน่ายมันมีมากมายหลายปัจจัย

เพื่อนร่วมงาน – ที่มักจะขัดแย้ง ยั่วโมโห ที่สร้างความขัดใจ ไม่ทำตามที่เราต้องการ หรือขัดผลประโยชน์ในบทบาทและเนื้อหางาน จนต้องมานั่งเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด หรือบางคนมองหน้ากันไม่ติดไปเลยทั้งๆ ที่ ในเรื่องส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากัน

เจ้านาย – เราเหนื่อยหน่ายกับการที่โดนตามงานที่เราเองมองว่าจะตามทำไมหนักหนา และเจ้านายก็ชอบมาจิกเอางาน บางครั้งจิกจนเราก็อยากยกงานทั้งหมดให้เขาไปทำเอง จะได้เข้าใจบ้างว่าเราเผชิญอะไรอยู่

เราเกลียดความไม่พร้อมของหลายๆ อย่าง – ที่ทำให้เราทำงานไม่ได้ แอร์เสีย คอมพ์พัง Work from home ก็ไม่ได้ และอื่นๆ ที่ทำให้เราขัดใจ

เราเลือกงานผิด – ข้อนี้ผมเคยพูดคุยกับเพื่อนๆ หลายต่อหลายตน และเขายอมรับเลยว่าไม่ได้รักสิ่งที่ทำอยู่ เพราะจริงๆ ถ้าลองถามตัวพวกเรากันเอง มากกว่าครึ่งนึงแน่ๆ จะตอบว่า “อยากทำอย่างอื่น ที่ไม่ใช่งานที่ทำปัจจุบัน”

หรือเราๆ ก็มักจะได้ยินคำว่า “อย่ามาทำงานสายเดียวกับฉัน หนีไป หนีไป” ส่วนหนึ่งก็เพราะเราไม่ได้อยากทำมันตั้งแต่แรก

เรารับทำงานนี้เพราะตอนเราหางาน เราได้งานนี้ก่อน หรืองานนี้ให้เงินเดือน start เยอะกว่าอีกที่ หรือก็เพราะว่า เราไม่รู้ว่าเราอยากทำอะไร เราเลยเอาตัวมาเสี่ยง สุดท้ายก็มานั่งก่นด่า choice ที่ตัวเองเลือกเอง

ทีนี้ สำหรับคนที่เกลียดวันจันทร์ เกลียดงาน หรือเกลียดอะไรๆ ในงานที่เอ่ยไปข้างต้น เรามาลองถามตัวเองกันดีไหมครับว่าเราจะเป็นแบบนี้ตลอดไปหรือ เราจะมานั่งเครียดทุกวันอาทิตย์ หรือหาทางลาป่วยในทุกๆ วันจันทร์จริงๆ หรือ

บทเรียนนึงที่ผมได้รับเมื่อหลายปีก่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่อยากจะแบ่งปันคือ

ผมเคยไปบ่นกับเจ้านายเก่า และเพื่อนร่วมงานเก่าในวงทานข้าว ว่าผมเบื่องาน เหนื่อยนั่น ไม่อยากทำนี่ ไม่มีอะไรถูกใจ ง่ายๆ ก็คือเป็นการบ่นที่เหมือนว่าเราจะไม่ Happy ไปเสียหมดทุกอย่าง

เจ้านายท่านนั้นถามกลับมาแบบต่อยเสยใต้คางว่า “แล้วตอนคุณไปสมัครงานนั้น ใครบังคับคุณหรอคะ แล้วทุกวันนี้ใครบังคับคุณอยู่คะ… ลองตั้งสติพิจารณาอย่างเป็นจริง เอาตัวตนของตัวเองลงบ้าง แล้วจะมีความสุขขึ้น หรือเห็นอะไรชัดขึ้น”

แล้วผมก็อิ่มทันที สำหรับอาหารมื้อนั้น เพราะผมโดนอะไรเข้าอย่างจังแล้ว

สิ่งที่ผมตกผลึกในแวบแรกได้เลยทันทีคือ เราได้แต่บ่น มีความทุกข์ จนมันลามไปถึงอาการเกลียดวันจันทร์ แล้วก็ปรุงความคิดเบื่อหน่ายนั้นให้ถมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสิ่งที่เราไม่ชอบ

แต่เราไม่เคยมามองให้เป็นเหตุเป็นผลว่า จริงๆ แล้วต้นตอคืออะไร เราควรทำอย่างไรที่ต่างไปจากที่เคยทำ และนี่คือบทเรียนที่ผมอยากแบ่งปัน เมื่อคุณเกิดอาการแบบที่ผมหรือใครหลายๆ คนเป็นครับ

อย่างแรก บ่นได้ หาที่ระบายได้ เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องหาทางออกให้กับใจตัวเองเมื่อมีอะไรมากระทบ แต่มันต้องมีจุดหยุด เพราะอารมณ์เราวันนึงมันย่อมต้องตกตะกอน และควรกลับเข้าสู่สภาวะที่เรามีสติและมองปัญญาด้วยเหตุและผล

ต่อมา ลองพิจารณาอย่างเป็นกลาง ว่าจริงๆ เราไม่พอใจอะไร มันเป็นเพียงเพราะทุกอย่างไม่เป็นอย่างใจเรา หรือมันเป็นปัญหาเราคนเดียวหรือไม่

หรือต่อให้ใครมานั่งตรงที่เราอยู่ก็จะเจอปัญหาแบบเดียวกัน ถ้าปัญหามันคือ เรามีส่วนในปัญหานั้น ก็ต้องยอมรับมันและแก้ที่เราด้วยครับ เพราะหลายครั้ง อัตตาหรืออีโก้ของเราก็ทำงานเยอะมาก จนทำให้เราชี้ปัญหาออกนอกตัวเสียหมด โทษทุกคน ยกเว้นตัวเอง

และควรแก้ปัญหาในงานอย่างไร เรื่องนี้สำคัญมาก ที่ต้องตั้งคำถามนี้ และรู้จักชวนตัวเองให้มีมุมมองใหม่ๆ เช่น เราจะลองเปลี่ยนวิธีเผชิญกับสิ่งที่เราไม่ชอบนี้ให้ต่างไปจากเดิมอย่างไรบ้าง

และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ แม้เราไม่ชอบงาน หรือคน หรืออะไรๆ รอบตัวอยู่ขนาดไหนก็ตาม อย่าลืมคำว่า Win-Win Situation ครับ ลองเอาตรงนั้นเป็นธงในการแก้ปัญหา

และถ้าเราดำเนินการแก้ปัญหาแบบ Win-Win แล้ว มันก็มีอยู่ไม่กี่ทางที่เป็นผลลัพธ์ อย่างแรก คือ แก้ปัญหาได้ 100% คือ ทุกคนก็ Happy ไม่มีปัญหาต่อไป และ Monday Blue ก็จะหายไปด้วย แต่แน่นอนครับ เคสแรกนี้เป็นไปได้ยากมาก (แต่ก็ดีกว่าไม่ลอง)

จึงเป็นที่มาของเคสที่สอง คือ เราแก้ปัญหาด้วยวิธีการที่ดีที่สุด พยายามมุ่งหน้าไปที่ Win-Win Situation แล้ว แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ เราก็หันมาดูว่า Best scenario มันคืออะไร และอะไรที่ยังทำให้เราพอมีความสุขมากขึ้นได้บางในการทำงาน หรืออย่างน้อย ก็ให้เราอยู่ได้แบบที่ไม่ทรมานจนเกินไป

และสุดท้าย ถ้าเราลองแก้ปัญหาแล้วทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เรายังมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิต และเกลียดวันจันทร์อยู่ต่อไปทุกสัปดาห์ ผมแนะนำให้ลองหาทางออกไปจากงานนั้น หรือ Environment นั้นเสีย

ไม่ใช่การลาออกอย่างเดียว แต่อาจจะเป็นการพิจารณาโอนย้ายทีมงาน หรือทางเลือกอื่นๆ เช่น ลาพักผ่อนสักระยะ เพื่อให้ความคิดได้ตกตะกอน ก่อนที่มันจะบานปลาย เกิดความเสียหายในงาน หรือร้ายแรงที่สุดคือลุกลามมาถึงสุขภาพกาย และสุขภาพจิตแบบกู่ไม่กลับ

ดังนั้น สำหรับคนที่มีอาการ Monday Blue ทีนี้น่าจะพอรู้แล้วนะครับว่าเราไม่ได้กลัวหรือเกลียดวันจันทร์ แต่สำคัญที่สุดคือ หา X Factor นั้นให้เจอครับแล้วแก้ปัญหา อย่าปล่อยให้อะไรๆ มันสายเกินไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า