‘อิ้งค์ วรันธร’ ควง ‘THREE1989’ ส่งซิงเกิลใหม่ ‘LAST TRAIN’ ผ่านเวอร์ชั่นไทยและญี่ปุ่น

พลาดขบวนสุดท้ายก็ไม่เห็นเป็นไร แค่มีเธออยู่ด้วยกันก็พอ.. ‘อิ้งค์ วรันธร’ ควง ‘THREE1989’ ปล่อย ‘LAST TRAIN (ラストトレイン)’ ทั้งเวอร์ชั่นไทยและญี่ปุ่น

สิ้นสุดการรอคอยแล้วสำหรับแฟนๆ ของสาว อิ้งค์-วรันธร เปานิล เจ้าแม่เพลงเศร้าจากค่าย BOXX MUSIC หลังจากที่มีแพลนจะทำ EP Album ภาษาญี่ปุ่นไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 มิ.ย. 65) เธอก็ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมควง ‘THREE1989’ ศิลปินจากประเทศญี่ปุ่นที่เธอชื่นชอบมาปล่อยซิงเกิลใหม่ที่เคยทำไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้วอย่างเพลง ‘LAST TRAIN (ラストトレイン)’

“You’ve made me miss my last train”

โดยอิ้งค์ได้พูดถึงที่มาของการทำงานในเพลงนี้ผ่านแคปชั่นใต้มิวสิควิดีโอว่า “เมื่อช่วง2ปีที่แล้ว พอรู้ว่าตัวเองจะได้ทำ EP Album ภาษาญี่ปุ่น ก็เลยอยากทำเพลงที่ได้ร่วมงานกับศิลปินชาวญี่ปุ่นอย่าง THREE1989 เริ่มจากที่อิ้งค์ชอบฟังเพลงของ THREE1989 อยู่แล้ว พอได้ร่วมงานเลยดีใจมากๆ เพลงนี้มีแรงบันดาลใจเกิดขึ้นจากที่ตอนที่เคยไปญี่ปุ่น จำได้ว่าช่วงเวลาเที่ยงคืน จะมีรถไฟเที่ยวสุดท้าย แล้วตามที่ต่างๆทุกคนก็ต่างจะ รีบวิ่งเพื่อให้ไปทันเที่ยวสุดท้าย เพราะกลัวตกขบวน ไม่อย่างนั้นต้องกลับบ้านด้วยวิธีอื่นแทน เลยลองคิดกลับกันว่าสมมติถ้าเราได้อยู่ กับคนที่ชอบจนไม่อยากจะกลับล่ะ เราจะยอมตกขบวนเที่ยวสุดท้าย เพื่ออยู่กับเขาต่อให้นานขึ้นอีกนิดหรือเปล่า?”

“พลาดขบวนสุดท้ายเที่ยงคืนแล้ว อยู่ตรงที่เดิม กับเธอที่เดิม ไม่ยอมกลับ”

ในพาร์ทดนตรีเพลงนี้ได้ก็อิ้งค์ก็ได้ร่วมงานกับ แทน Lipta กับ ข้าว Fellow Fellow “ตอนที่ทำเพลงกันสนุกมากเพราะว่ามันเป็นเรื่องราวที่น่ารักจริงๆ แล้วเพลงก็ค่อนข้างสนุกมากๆ มีท่อนภาษาญี่ปุ่นด้วย การอัดร้องก็ค่อนข้างสนุกสนาน ต้องทำการบ้านเรื่องภาษาเยอะมากๆ ส่วนท่อนของ THREE1989 ทางวงได้แต่งมาได้มีเอกลักษณ์ของวงมากๆ ทำให้เพลงนี้สมบูรณ์จริงๆ” ฟังแล้วให้ความรู้สึกถึงแนวดนตรี City Pop ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอบอวลอยู่ โรแมนติกแบบสุด ๆ ในส่วนของพาร์ทมิวสิควิดีโอเพลงนี้เรียกได้ว่าถึงแม้จะแยกกันถ่ายทำ แต่ก็สามารถสื่อความรู้สึกของคนสองคนที่ยินดีจะอยู่ด้วยกันจนข้ามคืนด้วยการยืนคุยกันผ่านตู้โทรศัพท์ โดยไม่สนใจว่าจะตกรถไฟเที่ยวสุดท้ายออกมาได้อย่างลงตัวแบบสุดๆ

ซึ่งหนึ่งในความพิเศษของเพลง ‘LAST TRAIN (ラストトレイン)’ ก็คือจะมีให้แฟนๆ ได้เลือกฟังกันถึง 2 เวอร์ชั่น นั่นก็คือภาษาไทยที่ถูกปล่อยออกมาผ่านช่องยูทูบของ BOXX MUSIC

และภาษาญี่ปุ่นที่ถูกปล่อยออกมาผ่านช่องยูทูบของ THREE1989 บอกเลยว่างานนี้ทำเอาแฟนๆ ปลื้มอกปลื้มใจกันแบบสุดๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นไหนก็ดีไปหมด เลือกฟังกันไม่ถูกเลยทีเดียว

“How can I go when my heart says no”

ภาพจาก : https://www.facebook.com/InkWaruntorn