เด้ง “ดาบเท่ง” สืบ 7 เซ่นขู่จนท.อุทยานฯแก่งกระจานให้ปรักปรำ “ชัยวัฒน์” คดีบิลลี่

สั่งย้าย “ดาบเท่ง” ตำรวจสภูธรภาค 7 ปมข่มขู่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้ปรักปรำ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” บงการคดีฆ่าบิลลี่

ความคืบหน้าเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่  ชาวกะเหรี่ยง จ.เพชรบุรี จากเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชบุรี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้มอบอำนาจให้นายวินัย บัวศรี หัวหน้ากลุ่มงานกฎหมายสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี กรณีมีผู้อ้างว่าเป็นข้าราชการตำรวจ สังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ข่มขู่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของนายชัยวัฒน์ เพื่อให้ปรักปรำนายชัยวัฒน์ ขณะทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานว่า เป็นตัวการฆ่าบิลลี่ โดยให้คำมั่นว่าจะกันตัวไว้เป็นพยานไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดี

(พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสตช. /ภาพจากกองสารนิเทศ สตช.)

ล่าสุดวันนี้ (10 ก.ย. 62)  พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รายงานผลการตรวจสอบพยานหลักฐานรับฟังเป็นข้อยุติส่วนหนึ่งว่า ดาบตำรวจพงศ์ษาวดี หรือ ดาบเท่ง ไทยกูล ผบ.หมู่ กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 ได้ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ที่ได้โทรศัพท์สนทนาพูดคุยกัย นางรัตน์ดาวรรณ หรือ อร  บุษราคัม ภรรยาของ นายบุญแทน  บุษราคัม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อดีตเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ข้อเท็จจริงเป็นไปตามบทสนทนาที่ปรากฎในสื่อก่อนหน้านี้ แต่ถ้อยคำข้อความเป็นการพูดคุยซักถามในฐานะคนรู้จักสนิทสนมกันมากกว่าการข่มขู่

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าการกระทำของดาบเท่ง มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ในความผิดฐานกระทำการ หรือละเว้นการกระทำการใดอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการ หรือทำให้เสียระเบียบแบบแผนของตำรวจ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556

โดยขณะนี้ พล.ต.ต.สงวน โรงสะอาด ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัย และมีคำสั่งให้ดาบเท่ง ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 แล้ว นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกำชับว่า หากพบมีการกล่าวอ้างถึงตำรวจนายใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ตลอดจนชี้นำหรือข่มขู่ทำให้เกิดพยานหลักฐานเท็จ หรือพยานหลักฐานอื่นใดที่อันจะก่อให้เกิความเสียหายต่อรูปคดี หรือการประพฤติ ปฏิบัติตนไม่เหมาะสม ในฐานะผู้รักษากฎหมาย หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ให้ดำเนินการลงโทษทั้งทางวินัยหรือทางอาญาอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

(แฟ้มภาพ)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดคลิป ชัยวัฒน์ อดีตหัวหน้าอุทยานฯแก่งกระจาน จวกคนฆ่ายัดถังเผาบิลลี่ “ชั่วสุดๆ”

ดีเอสไอประชุมลับ เร่งรัดคดีฆาตกรรม “บิลลี่” ลั่น “ดาบเท่ง” ไม่เกี่ยวกับทางคดี

ย้อนไทม์ไลน์ “บิลลี่” จากวันหายตัว ถึงวันยืนยันว่าเสียชีวิต