Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

KBank Private Banking เปิดกองทุนหุ้นนอกตลาดแรกของไทย ชูจุดเด่นผลตอบแทนดีกว่าหุ้นในตลาด เหตุหุ้นตลาดไทยมีแต่ธุรกิจดั้งเดิม ไม่สอดคล้องอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทำให้น่าสนใจน้อยกว่า ขณะหุ้นนอกตลาดมีศักยภาพเติบโตอีกหลายเท่า

ล่าสุด KBank Private Banking ได้ร่วมกับ บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดตัวกองทุนใหม่ LH-THAIPE1UI ที่ ‘ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ’ Private Banking Business Head Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกในการเสนอขายหุ้นนอกตลาดของบริษัทไทยในรูปแบบของกองทุน 

โดยจะทำการลงทุนผ่านกองทุนหลัก Fullerton Thai Private Equity Fund ที่สิงค์โปร์ เน้นลงทุนในธุรกิจขนาดกลาง 8 – 12 บริษัท ที่คัดเลือกอย่างเป็นระบบมาจากหลายแหล่ง เน้นบริษัทที่มีศักยภาพสูง รายได้ระหว่าง 500 – 3,000 ล้านบาท และมีกำไรอยู่แล้วหรือเคยทำกำไรได้ดีแต่ประสบปัญหาระยะสั้น 

รวมถึงอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสอดคล้องกับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว พร้อมระบุว่า ธุรกิจนอกตลาดหลายธุรกิจน่าสนใจ มีจุดเด่นและศักยภาพการเติบโตได้อีกหลายเท่าในอนาคต ได้แก่ ค้าปลีก อาหาร การผลิตและอุตสาหกรรมขั้นสูง การศึกษา เทคโนโลยีและข้อมูล สุขภาพและการแพทย์ และบริการด้านการเงิน

รายละเอียดส่วนหนึ่งจาก KBank Private Banking อธิบายว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นขนาดใหญ่ของไทยมักเป็นธุรกิจดั้งเดิม เช่น พลังงานจากน้ำมันและถ่านหิน ธนาคาร ค้าปลีกที่เป็นออฟไลน์ และโรงพยาบาล ซึ่งไม่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทำให้ตลาดหุ้นไทยน่าสนใจน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก 

การลงทุนในหุ้นนอกตลาดมีข้อดีเมื่อเทียบกับการลงทุนหุ้นในตลาดหลายประการ อาทิ เช่น ผู้จัดการกองทุนสามารถเข้าไปบริหาร ปรับโครงสร้างธุรกิจ ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่หลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งนับเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุน ณ ระดับราคาไม่แพงมาก

นอกจากนั้น ราคาหุ้นนอกตลาดขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจริงๆ ทำให้นักลงทุนไม่ต้องเผชิญกับความผันผวนด้านราคาที่ขึ้นลงตามบรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นเหมือนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หลังลงทุนไปแล้ว ผู้จัดการกองทุนสามารถเลือกขายหุ้นบริษัทนอกตลาดได้หลายวิธี เพื่อให้ได้ราคาดีในเวลาที่เหมาะสม

ขณะที่ความเสี่ยง คือ บริษัทไม่เปิดเผยผลการดำเนินงานและไม่มีรายงานการตรวจสอบ ดังนั้น การอาศัยผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนในหุ้นนอกตลาดในไทยจึงเป็นหัวใจสำคัญ โดยจะต้องพิจารณาทั้งจากภาพใหญ่ (TOP-DOWN) คือ เลือกบริษัทในอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับโครงสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และปัจจัยพื้นฐานรายบริษัท (BOTTOM-UP) ทั้งความสามารถการทำกำไร กระแสเงินสดและการประเมินมูลค่าบริษัทเพื่อเข้าซื้อและขายออกในราคาที่เหมาะสม

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า