สรุป 3 ประเด็นหลัก จากแถลงข่าวอำลา ‘เมสซี’

หลังจากที่สโมสรบาร์เซโลนา ทีมดังแห่งลาลีกาสเปน ออกมาแถลงยืนยันเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า ลิโอเนล เมสซี จะไม่ได้เล่นให้กับทีมอีกต่อไป เรื่องนี้ก็กลายเป็นข่าวดังที่สุดของวงการฟุตบอลในทันที

และในวันนี้ เมสซีตัดสินใจตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสรุปประเด็นหลักได้เป็น 3 ข้อดังนี้

สาเหตุที่ไม่ต่อสัญญา

หลายคนอยากเห็นเมสซีอยู่กับบาร์ซาไปจนแขวนสตั๊ด เป็น One-club man หรือนักเตะที่ค้าแข้งให้กับสโมสรเดียวตลอดชีวิต แต่ในท้ายที่สุด สิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น

แม้เจ้าตัวจะต้องการอยู่กับทีมต่อ จนถึงขั้นยอมลดค่าเหนื่อย 50% แต่ด้วยสถานะการเงินของสโมสร ก็ยังไม่สามารถปรับโครงสร้างค่าเหนื่อยให้ต่ำกว่าตัวเลขที่ลาลีกากำหนดไว้ได้

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การเจรจาล่ม คือหลังจากที่ตกลงลดค่าเหนื่อยลงครึ่งหนึ่งแล้ว บาร์ซากลับขอลดค่าเหนื่อยลงอีก 30% ซึ่งเมสซีปฏิเสธชัดเจนว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

“ผมเสนอลดค่าเหนื่อยลง 50% และบาร์ซาก็ไม่ได้ขออะไรผมอีก พวกเขาไม่ได้ขอลดอีก 30% นั่นคือเรื่องโกหก”

“ผมรู้แค่ว่าสาเหตุที่ทำให้เป็นไปไม่ได้ เป็นเพราะทางลาลีกา เพราะสโมสรไม่อยากสร้างหนี้เพิ่มไปมากกว่าหนี้”

ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นนี้ ทางบาร์เซโลนามีงบใช้จ่ายตามกฎการเงินเหลือเพียงแค่ราว 200 ล้านยูโร ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงอย่างมาก จากที่เคยมีงบใช้จ่ายกว่า 600 ล้านยูโรเมื่อฤดูกาล 2019-20 ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ทีมจะแบกรับค่าเหนื่อยของนักเตะเบอร์ต้นๆ ของโลกอย่างเมสซีได้ต่อไป

โดยสัญญาฉบับล่าสุดของเมสซีที่ตอนแรกจะเซ็นกันนั้น จะทำให้ค่าเหนื่อยรวมของทั้งสโมสรกลายเป็น 110% ของรายได้ ซึ่งทำให้บาร์ซาไม่สามารถใส่ชื่อเมสซีลงไปในการลงทะเบียนสำหรับฤดูกาล 2021-22 ได้ 

ความรู้สึกของเมสซี

ข่าวการอำลาทีมของเมสซีทำเอาแฟนบอลบาร์เซโลนาต่างรู้สึกช็อกไปตามๆ กัน และเมสซีก็ยอมรับว่า นี่คือหนึ่งในเหตุการณ์ที่ยากลำบากที่สุดของเขา

แม้ว่าเจ้าตัวจะเคยขอย้ายทีมเมื่อปีก่อน แต่พอมาถึงตอนนี้ เขายืนยันว่า เขาอยากที่จะอยู่ที่คัมป์นูต่อไป

“ผมไม่อยากไปจากสโมสรนี้ นี่คือทีมที่ผมรัก และก็เป็นสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นเลย ปีก่อนผมเคยอยากย้าย แต่ในปีนี้ผมอยากอยู่ที่นี่ต่อ นี่คือสาเหตุที่ทำไมผมจึงรู้สึกเศร้ามาก”

“ปีนี้มันต่างจากปีก่อน ก่อนหน้านี้ ครอบครัวและผมเชื่อว่าเราจะได้อยู่ที่นี่ และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการเหนือสิ่งอื่นใด”

นอกจากความโศกเศร้าที่ต้องอำลาทีมแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้เมสซีรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก คือการที่เขาต้องจากไป โดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้บอกลาแฟนๆ

ปกติแล้ว หากนักเตะระดับนี้ตัดสินใจย้ายทีม มักจะมีการจัดพิธีอำลาอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อตอบแทนกับสิ่งที่นักเตะทำให้สโมสรมาตลอดหลายปี

อย่างไรก็ตาม ตลอดปีครึ่งที่ผ่านมา เมสซีลงเล่นให้กับบาร์ซาในสนามที่แทบจะว่างเปล่า บวกกับการยกเลิกต่อสัญญาอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้ในท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่ได้มีโอกาสกล่าวคำอำลาต่อหน้าแฟนบอลในคัมป์นูเลยแม้แต่คำเดียว 

สถานีต่อไป

ในทางทฤษฎีแล้ว เมสซีได้กลายเป็นนักเตะไร้สังกัดมาตั้งแต่ 1 ก.ค. หลังจากที่สัญญาฉบับเดิมสิ้นสุดลง แต่ ณ ตอนนั้นหลายฝ่ายคาดว่าเจ้าตัวและสโมสรบาร์เซโลนาจะสามารถตกลงสัญญากันได้

แต่พอได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าเมสซีจะย้าย ทำให้เริ่มมีการพูดถึงอนาคตของเขากับทีมใหม่ทันที

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง คือ 2 สโมสรตัวเต็งที่มีโอกาสคว้าตัวเมสซีมากที่สุด เมื่อดูจากสถานะการเงินและชื่อเสียงของทีม

อย่างไรก็ตาม การที่แมนซิตี้เพิ่งคว้าตัว แจ็ก กรีลิช ไปด้วยราคา 100 ล้านปอนด์ และยังมีข่าวต้องการตัว แฮร์รี เคน ทำให้โอกาสที่แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดจะทุ่มเงินก้อนโตเพื่อล่าลายเซ็นเมสซี ดูจะมีน้อยลง

เมื่อนักข่าวสอบถามถึงโอกาสในการย้ายไปร่วมทีมเปแอสเช เมสซีก็ยืนยันว่ามีโอกาสเป็นไปได้จริง แต่ยังไม่มีอะไรแน่นอนในตอนนี้

“นั่นคือ 1 ในความเป็นไปได้ ยังไม่มีการตกลงอะไรกัน ณ ตอนนี้ แต่เรายังมีการพูดคุยกันในหลายๆ เรื่อง หลังจากที่บาร์ซาออกแถลงการณ์ มีหลายสโมสรแสดงความสนใจเข้ามา ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นตอนสุดท้าย แต่แน่นอนว่ามีการเจรจากันอยู่”

ไม่ว่าทีมที่จะคว้าตัวเมสซีได้จะเป็นทีมใด คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพที่ดาวเตะอาร์เจนไตน์สวมเสื้อสโมสรอื่นที่ไม่ใช่บาร์เซโลนาลงสนามในฤดูกาลนี้ คงเป็นภาพที่รู้สึกแปลกตาอย่างแน่นอน