คลังเตือนโรงแรมฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาห้องพัก “ได้ไม่คุ้มเสีย” จ่อออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการ

โฆษกกระทรวงการคลัง เตือน เจ้าของโรงแรมที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาห้องพักในช่วงที่รัฐออกมาตรการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ เตรียมพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ด้าน สมาคมโรงแรมไทย ออกประกาศถึงสมาชิกขอความร่วมมือ ชี้หากฝ่าฝืนอาจถูกระงับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ

วันที่ 20 ก.ค. 2563 จากกรณีประชาชนร้องเรียนพบโรงแรม-ที่พักบางแห่งมีการปรับขึ้นราคาในช่วงที่รัฐบาลมีมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน โดยรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่าย 40% ในส่วนของค่าที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และรับคูปองส่วนลดค่าอาหาร-สถานที่ท่องเที่ยว 600 บาท โดยประชาชนต้องออกค่าใช้จ่ายเอง 60%

(ลวรณ แสงสนิท โฆษกกระทรวงการคลัง/แฟ้มภาพ)

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน (โครงการฯ) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 โดยการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พักในสัดส่วนร้อยละ 40 ของค่าที่พัก สูงสุด 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน สนับสนุนค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว 600 บาทต่อห้องต่อคืน และสนับสนุนค่าบัตรโดยสารสายการบินในสัดส่วนร้อยละ 40 ของค่าบัตรโดยสาร สูงสุด 1,000 บาทต่อที่นั่ง

ในภาพรวมโครงการฯ มีผลตอบรับตามเป้าหมาย ผู้ประกอบธุรกิจที่พักสนใจเข้าร่วมแล้ว 6 พันราย โดยหลังจาก ที่ได้เปิดให้ประชาชนจองที่พักภายใต้โครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ประชาชนสามารถวางแผนและเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้โดยมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง ในขณะที่ผู้ประกอบการจะเริ่มมีรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจในช่วงที่ขาดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ก่อให้เกิดบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศที่มีสัญญาณบวกมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของ COVID-19

ดังนั้น เพื่อรักษาแรงส่งต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจไทย จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจที่พักที่เข้าร่วมโครงการฯ ส่วนน้อยบางราย ซึ่งอาศัยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ ขอให้เว้นจากการดำเนินธุรกิจตามแนวทางดังกล่าว เนื่องจากผลประโยชน์ในระยะสั้นอาจได้ไม่คุ้มเสียทั้งชื่อเสียงและโอกาสธุรกิจในอนาคต เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันมีการหาข้อมูลวางแผนการเดินทางและมีเทคโนโลยีช่วยในการเปรียบเทียบราคาและคุณภาพการบริการจากหลายแหล่ง ทำให้สามารถเลือกรับบริการจากผู้ประกอบการที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรมได้ ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และพิจารณามาตรการที่เหมาะสมมาดูแลต่อไป

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Thai Hotels Association  ของสมาคมโรงแรมไทย ได้ออกประกาศถึงโรงแรมสมาชิกสมาคม ระบุว่า “สมาคมโรงแรมไทย ขอความร่วมมือโรงแรมสมาชิกสมาคมฯ ที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เสนอราคาที่พัก (ราคาสุทธิ) รวมแล้วต้องไม่สูงกว่าราคาที่เสนอขายผ่านช่องทางของผู้ให้บริการจองที่พักและการท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agency : OTA) ในเวลาเดียวกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยวในประเทศตามมาตรการของรัฐบาล สมาคมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ประกอบการโรงแรมจะร่วมมือให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

หมายเหตุ: หากโรงแรมไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการฯ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิตามโครงการฯ เพื่อดำเนินการ ตรวจสอบ และหากพบว่าโรงแรมกระทำการดังกล่าวจริง โรงแรมจะต้องคืนเงินที่ได้รับไปแล้วให้แก่กระทรวงการคลัง ภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ให้การตัดสินของกระทรวงการคลังถือเป็นที่สุด”